จิตต์สุภา ฉิน : ปี 2018 เป็นต้นไป ซื้อรถยนต์ต้องดูอะไร?

จิตต์สุภา ฉินFacebook.com/JitsupaChin

ในตอนนี้เวลาที่เราจะตัดสินใจซื้อสมาร์ตโฟนสักเครื่อง เราก็มักจะมีข้อมูลอย่างเพียงพอว่าเราต้องการสเป๊กอะไรบ้าง ฟีเจอร์แบบไหนที่เราอยากจะได้ในสมาร์ตโฟน อย่างเช่น เทคโนโลยีหน้าจอต้องเป็น LCD หรือ OLED กล้องความละเอียดเท่าไหร่ กล้องคู่หรือกล้องเดี่ยว มีระบบสแกนลายนิ้วมือก็พอแล้ว หรืออยากจะใช้ระบบสแกนใบหน้าด้วย ฯลฯ

แต่ในยุคที่นวัตกรรมทุกอย่างก้าวไกลไปรวดเร็วขนาดนี้ ไม่เพียงแต่สมาร์ตโฟนเท่านั้นที่เราจะต้องพิจารณาว่าเราอยากได้เทคโนโลยีอะไรบ้าง การจะซื้อรถยนต์สักคันก็เช่นเดียวกัน ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปหากเราจะมองหารถยนต์สักคัน นอกจากจะต้องดูเรื่องพื้นฐานอย่างราคาและสมรรถนะแล้ว ก็ไม่ควรลืมเทคโนโลยีภายในรถยนต์ด้วย

ว่าแต่ว่า แล้วจะมีเทคโนโลยีอะไรบ้างล่ะที่เราควรจะต้องใส่เข้าไปในเช็กลิสต์?

ผู้เชี่ยวชาญจาก Kelly Blue Book บริษัทวิจัยเกี่ยวกับรถยนต์ในแคลิฟอร์เนียได้รวบรวมฟีเจอร์ต่างๆ ที่ควรมีในรถยนต์รุ่นตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นไป เพื่อให้ผู้บริโภคได้พอเห็นภาพคร่าวๆ ว่าสามารถคาดหวังฟีเจอร์อะไรในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ได้บ้าง

เรามาดูกันไปทีละอย่างค่ะ

ความสามารถในการเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay และ Android Auto

 

ฟีเจอร์นี้มีความจำเป็นไม่น้อยเลยนะคะ เพราะลองนึกดูว่าคนสมัยนี้ติดโทรศัพท์มือถือแค่ไหน เรามักจะต้องวุ่นวายกับมือถือของเราตลอดเวลาไม่เว้นแม้กระทั่งเวลาที่เราอยู่หลังพวงมาลัย (ถึงแม้ว่าจะรู้ดีแก่ใจว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำก็ตาม) การมีระบบภายในรถที่สามารถรองรับการทำงานของโทรศัพท์มือถือเราได้ จะช่วยให้เราไม่ต้องก้มมองหน้าจอมือถือ

แต่คำแจ้งเตือนทุกอย่างจะปรากฏอยู่บนหน้าจอของรถซึ่งใหญ่กว่าและใกล้ระดับสายตามากกว่า เราเหลือบไปมองได้โดยไม่ต้องละสายตาจากถนนไปไกลสักเท่าไหร่

อันนี้เป็นฟีเจอร์ที่พื้นฐานมากที่รถยนต์รุ่นใหม่ๆ จะต้องมีแล้ว

แอพพลิเคชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์กับรถยนต์

ปัจจุบันนี้มีแบรนด์รถยนต์พรีเมียมหลายค่ายที่พัฒนาแอพพลิเคชั่นขึ้นมาเพื่อให้ผู้ขับรถยนต์สามารถสั่งการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ภายในรถผ่านโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการใช้มือถือสั่งล็อกหรือปลดล็อกประตูรถ สตาร์ตเครื่องยนต์ เปิดปิดแอร์ หรือบอกตำแหน่งรถยนต์ที่จอดอยู่ในลานจอดรถ ซึ่งต่อไปเราจะเห็นรถยนต์รุ่นใหม่ๆ มีแอพพลิเคชั่นแบบนี้รองรับมากขึ้นเรื่อยๆ

และนี่จะกลายเป็นหนึ่งในฟีเจอร์จำเป็นที่จะต้องมองหาในการซื้อรถยนต์ค่ะ

กล้อง 360 องศา

ฟีเจอร์นี้บุกเบิกโดยค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น คือเป็นกล้องที่ช่วยให้ผู้ขับเสมือนได้มองเห็นรถของตัวเองมาจากข้างบน หรือ bird”s-eye view และสามารถมองเห็นสิ่งแวดล้อมต่างๆ รอบๆ ตัวรถด้วย ซึ่งทั้งหมดจะถูกแสดงผลเอาไว้บนหน้าจอที่อยู่กลางคอนโซลรถ

เราเริ่มเห็นฟีเจอร์แบบนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เพียงแค่ในรถยนต์ระดับพรีเมียมเท่านั้น แต่รุ่นเอนทรี่เลเวลเองก็เริ่มมีแล้วด้วยเหมือนกัน

พอร์ตยูเอสบี

อีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญที่ไม่ได้หนักหนาเกินกว่าจะร้องขอ ใครๆ ก็อยากชาร์จมือถือของตัวเองบนรถยนต์

ดังนั้น การที่รถจะมีพอร์ตยูเอสบีให้เราเสียบสายชาร์จได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องผ่านอะแด็ปเตอร์ก็ทำให้สะดวกสบายและคล่องตัวขึ้น บางรุ่นเจ๋งกว่านั้น ออกแบบมาให้แต่ละแถวที่นั่งมียูเอสบีพอร์ตของตัวเอง ต่างคนต่างชาร์จไม่ต้องแย่งกัน หรือใครอยากจะขยับระดับความหรูขึ้นมาหน่อย เดี๋ยวนี้รถแพงๆ ก็มีฟีเจอร์ชาร์จไร้สายด้วยค่ะ แค่วางมือถือลงไปในช่องที่กำหนดมันก็ชาร์จให้เลยทันที

เทคโนโลยีขับขี่สำหรับวัยรุ่น

ใครยังไม่มีครอบครัวหรือไม่ได้วางแผนจะแต่งงานเร็วๆ นี้ก็อาจจะข้ามข้อนี้ไปได้เลยค่ะ แต่หากใครมีลูกที่อยู่ในวัยรุ่น ในท้องตลาดตอนนี้มีรถยนต์หลายรุ่นที่มาพร้อมระบบซึ่งเจ้าของรถสามารถตั้งค่าโปรแกรมที่แตกต่างกันสำหรับคนขับแต่ละคนได้

เช่น หากให้ลูกขับ เอนจิ้นเพาเวอร์ของรถจะถูกลดลง จะมีการตั้งลิมิตความเร็วที่ขับได้ ล็อกระดับความดังของเครื่องเสียง และผู้ปกครองก็จะตรวจสอบระยะทางการขับรถได้ด้วย

ในบางรุ่นสามารถส่งคำแจ้งเตือนไปยังพ่อแม่ในกรณีที่รถที่ลูกขับเกิดต้องเบรกกะทันหัน ซึ่งฟีเจอร์นี้จะทำให้ผู้ปกครองให้ลูกยืมรถไปขับได้อย่างสบายใจหายห่วงกว่าเดิม

ฟีเจอร์แจ้งเตือนสิ่งกีดขวางหลังรถ

ฟีเจอร์นี้ใช้เซ็นเซอร์ในการช่วยเราดูคนหรือสิ่งกีดขวางที่อยู่หลังรถ อย่างเช่น เวลาจะถอยรถออกมาจากช่องจอด มันจะเตือนทันทีถ้ามีคนเดินผ่าน รถวิ่งผ่าน หรือมีสิ่งกีดขวางที่คาดไม่ถึงเคลื่อนไหวเข้ามาขวางทาง

ฟีเจอร์ควบคุมความเร็วในการขับขี่ตามสภาพจราจร

ฟีเจอร์นี้เรียกว่า Adaptive Cruise Control หรือ ACC ค่ะ มันมีประโยชน์เป็นอย่างมากโดยเฉพาะเวลาที่เราต้องอยู่หลังพวงมาลัยในสภาพการจราจรที่ติดขัด ระบบของรถจะช่วยควบคุมความเร็วให้เราตามรถคันข้างหน้าได้อย่างปลอดภัย ช่วยปรับให้ช้าลง หรือเร็วขึ้น ตามระยะห่างที่มี ทำให้เราขับรถไม่เหนื่อยเกินไปและยังปลอดภัยขึ้นด้วย

ฟีเจอร์เตือนเมื่อออกนอกช่องทางเดินรถ

Lane Departure Warning หรือ LDW เป็นฟีเจอร์ที่ป้องกันอาการเหม่อลอยง่วงงุนในเวลาที่เราขับรถไปนานๆ แล้วเริ่มรู้สึกล้าจนไม่สามารถประคองรถให้อยู่ในเลนของตัวเองได้ เมื่อไหร่ที่รถออกนอกเลน ระบบจะส่งเสียงแจ้งเตือนทันทีเพื่อให้ผู้ขับรถรู้ตัว หรือในรถบางรุ่นสามารถสั่งให้ล็อกพวงมาลัยเพื่อให้รถยนต์วิ่งอยู่ภายในช่องทางเดินรถของตัวเองได้โดยอัตโนมัติ

ไฟหน้ารถแบบแอลอีดีและซีนอน

แม้จะดูเป็นฟีเจอร์ที่อาจจะไม่ได้สลักสำคัญอะไรเท่ากับฟีเจอร์ข้างบนๆ แต่ไฟหน้ารถแบบแอลอีดีโดยทั่วไปแล้วจะสว่างกว่า ตอบสนองไวกว่า และไม่ต้องเปลี่ยนให้วุ่นวาย

โดยในการทดสอบความปลอดภัยล่าสุดของ IIHS พบว่าสาเหตุที่รถชนในตอนกลางคืนนั้นบ่อยครั้งเกิดจากการมีไฟหน้ารถที่คุณภาพต่ำนั่นเอง

 

นี่แหละค่ะ เช็กลิสต์ของฟีเจอร์ต่างๆ ภายในรถยนต์ที่เราควรจะนำมาพิจารณาเวลาจะซื้อรถยนต์คันใหม่อาจจะไม่จำเป็นต้องมีทุกฟีเจอร์ที่ลิสต์มาแต่ถ้าลองหาให้ใกล้เคียงมากที่สุดในงบประมาณที่กำหนดก็จะทำให้การซื้อรถคุ้มค่ามากขึ้น

ส่วนค่ายรถยนต์ก็สามารถนำลิสต์เดียวกันนี้ไปดูว่าตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ลูกค้าจะต้องการฟีเจอร์แบบไหนในรถ

ซึ่งหากขาดไปก็อาจจะทำให้สู้กับคู่แข่งได้ลำบากด้วย