เผยแพร่ |
---|
สถานการณ์แห่งการปรับครม.ทำให้นึกถึงกาพย์บท 1 ซึ่ง จิตร ภูมิ ศักดิ์ เขียนเอาไว้
หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน
จะทานหรือจะทน พิสูจน์ได้เมื่อภัยมา
เราเห็นความนิ่งและเงียบของรัฐมนตรีอย่าง นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อย่าง นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร อย่าง นายอรรชกา สีบุญเรือน
เราเห็นความแกร่งเยี่ยงชายชาติทหารอันมาจาก พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ
ขณะเดียวกันก็เห็น”ดอกไม้”ชูช่อที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ทั้งหมดล้วนอยู่ในสายตา “สังคม”
คนๆหนึ่งมิได้พิสูจน์เพียง “คำพูด” ต้องดูที่ท่าทีอันเป็นเงาสะท้อนในทางความคิด
บรรดา รัฐมนตรี “หญิง” อาจต้องสงบเสงี่ยม
เพราะมารยาททางสังคมกดให้ “หญิง” ต้องเป็นฝ่ายตั้งรับอยู่แล้วโดยพื้นฐาน
ยิ่งร่วมอยู่ในครม.แบบ “คสช.” ยิ่งต้อง “เงียบ”
เพราะว่าการตัดสินใจทั้งหลายต้องขึ้นอยู่กับคสช.และโดย เฉพาะอย่างยิ่ง หัวหน้าคสช.ซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาลอยู่ด้วย
แม้กระทั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังต้อง “เงียบ”
การนิ่งและสงบอยู่ใน”ความเงียบ”ต่างหากที่จะเป็นคุณูปการ สำหรับสถานการณ์ปรับครม.
เพราะยิ่งเคลื่อนไหว ยิ่งเผยร่องรอย
ในบรรดากระทรวงอันตกเป็นเป้าหมาย โดยเฉพาะกระทรวงในทางเศรษฐกิจ
มีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เท่านั้นที่คึกคัก
พลันทีมีข่าวลือปล่อยออกมาว่าจะเปลี่ยนตัวเจ้ากระทรวงก็บังเกิดความเคลื่อนไหว
ในห้วง 3 วันปรากฏมวลชน 3 กลุ่ม
1 ให้กำลังใจรัฐมนตรี และ 1 มีป้ายเขียนข้อความมิให้มีการย้ายรัฐมนตรีออกไป เหมือนกับจะเป็นการปกป้อง เหมือนกับจะเป็นการแสดงผลงาน
แต่ “มวลชน” นี่แหละคือ “ร่องรอย”