ข่าวลึก : คอลัมน์ หน้า8

ขนาด 6 คำถามยังไม่มีคำตอบ

และเป็นแค่แอ๊กชั่นของ “พระรอง” เท่านั้น

แต่ขยับกันพึ่บพั่บ

เมื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เปรยในที่ประชุม ครม. เมื่อ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ตอนนี้มีปรากฏการณ์เกิดขึ้นหลายเรื่อง

ทั้งการใส่ร้าย บิดเบือน การปล่อยข้อมูลข่าวสารเพื่อเป็นเท็จ

การพยายามลดความน่าเชื่อถือของตัวบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในรูปแบบต่างๆ

จึงสั่งการให้รับมือ และทำงานเชิงรุกเพื่อตอบโต้

ไม่ทันพ้นวัน

มีหนังสือด่วนจาก พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รอง ผบ.ตร. ปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร. ถึงทุกหน่วยในสังกัด

ให้ติดตามพฤติการณ์ของบุคคลและกลุ่มบุคคล

ที่เคลื่อนไหว ชี้นำ ปลุกปั่น บิดเบือนข้อเท็จจริง

ให้มวลชน เครือข่าย และประชาชนทั่วไป เข้าใจผิดหลงเชื่อ ตามสถานที่ชุมชน ตำบล หมู่บ้าน และช่องทางสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อออนไลน์

มีเป้าหมายล่วงละเมิดสถาบัน และทำลายเสถียรภาพรัฐบาล

รวมทั้งมีความตั้งใจให้การเคลื่อนไหวขยายตัวเป็นวงกว้าง

เพื่อรอโอกาสยกระดับเป็นการชุมนุมขับไล่รัฐบาล

โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทำการเคลื่อนไหวทั้งในและนอกประเทศ

จึงให้ทุกกองบัญชาการสืบสวนติดตามพฤติการณ์

หากเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย หรือจะยกระดับสู่ความวุ่นวาย รุนแรง

ให้ดำเนินการ พร้อมรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น

โดยให้รายงาน ผบ.ตร. ผ่าน ผบช.ส. ทราบทุก 15 วัน และให้เริ่มรายงานผลครั้งแรกวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560

ดูแล้ว เหมือน “วิกฤตการเมือง” จ่อคอหอยประเทศอยู่

ทั้งที่เงี่ยหูฟังเสียงเจี๊ยวจ๊าวตอนนี้ โดยเฉพาะจากฝ่ายพรรคการเมือง

พบว่า แม้จะแปร่งปร่าไปกว่าเดิม

คือวิจารณ์ หรือ “ด่า” รัฐบาลและ คสช. เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

แต่ก็อยู่ใน “กรอบ” ปกติ หรือตามมาตรฐานประชาธิปไตย

คือวิจารณ์การบริหารงานที่ส่อไร้ประสิทธิภาพ

การปลดล็อกให้พรรคการเมือง

รวมถึงข้องใจการตั้ง 6 คำถาม เป็นอาทิ

ส่วนรุนแรงถึงขั้นจะล้มล้างรัฐบาล-คสช. ไม่รู้เป็นการข่าวลึกระดับไหน

จึงแปลกใจ “อาการตื่น” ผิดปกติของฟากรัฐบาลอยู่ไม่น้อย

นี่เกิด 6 คำถาม มีคำตอบให้ คสช. เลือกข้างด้วยการหนุนหรือเชียร์พรรคการเมืองใดได้

ซึ่งจะนำมาสู่เสียงวิพากษ์ เสียงด่า ที่หนักกว่านี้แน่นอน

ไม่ต้องงัด ม.44 ออกมาไล่ล่า “พวกตรงข้าม” กันหนักหน่วงกว่านี้หรือ