จากพื้นที่รกร้าง สู่ศูนย์กลางธุรกิจ ที่เห็นและเป็นอยู่ ล้วนมีที่มา

ปริญญา ตรีน้อยใส
ภาพประกอบ : สถานีศาลาแดง /MNXANL

พาไปมองย่านศาลาแดง ต่อเนื่องกันมาหลายฉบับ

ตั้งแต่ครั้งที่เป็นพื้นที่ชานพระนคร อยู่ห่างไกลจากพระบรมมหาราชวัง ที่เป็นศูนย์กลางความเจริญของกรุงเทพมหานคร จนถึงโครงการดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค ที่จะเป็นโครงการมิกซ์ยูสแห่งยุคสมัย ในศูนย์กลางธุรกิจ central business district หรือ CBD ของกรุงเทพฯ

จากพื้นที่รกร้างว่างเปล่า ด้วยเป็นที่ราบลุ่ม ไร้ผู้คนพักอาศัย การขุดคลองตรง เพื่อใช้เป็นคลองลัดเข้าพระนคร นำมาซึ่งการทำไร่ สวน และเลี้ยงสัตว์ รวมทั้งการก่อสร้างบ้านเรือน ทางดินริมคลองยังกลายเป็นถนน สำหรับฝรั่งใช้ขี่ม้าไปมา และสนามม้า

หลังจากนั้นมีการขุดคลองอรชรและสีลม เชื่อมกับคลองตรง เพื่อการระบายน้ำจากคลองสีลม จึงมาเป็นถนนสีลม ทำให้มีการตั้งถิ่นฐานมากขึ้น โดยเฉพาะต้นคลองทางด้านคลองตรง และปลายคลองริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีชาวตะวันตกสร้างบ้านเรือน และเปิดกิจการ ในขณะที่พื้นที่ตรงกลางยังไร้ผู้คน มีเพียงคนแขกเลี้ยงวัว และคนคริสต์ฝังศพ

กิจการรถไฟ สายปากน้ำ ที่เลียบคลองตรงฝั่งเหนือ ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ทำให้มีการพัฒนาพื้นที่มากขึ้นเป็นลำดับ ตั้งแต่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สวนลุมพินี สถานีวิทยุ

อาคารบ้านเรือนร้านค้า รวมทั้งโรงงานจึงเข้ามาแทนที่ กลายเป็นย่านคึกคัก ที่เรียกขานตามนามสถานีรถไฟศาลาแดง

เช่นเดียวกับบ้านพักที่เป็นตึกใหญ่แบบยุโรป ตรงหัวมุมคลองตรงและคลองสีลม ที่สร้างก่อนทางรถไฟ ก็กลายเป็นที่พำนักของเสนาบดี คือบ้านศาลาแดง

 

เหตุการณ์บ้านเมือง ส่งผลให้บ้านศาลาแดงกลายเป็นที่ทำการ และบ้านพักของกองทัพญี่ปุ่น ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง มาเป็นที่ตั้งสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ และสมาคมวิชาชีพแพทย์ ทั้งที่ทำการและสโมสรสังสรรค์

ในขณะที่ทางรถไฟหายไป พร้อมกับคลอง เมื่อมีการถมเพื่อขยายผิวจราจร รองรับจำนวนยานพาหนะที่เพิ่มขึ้น หลังกึ่งพุทธกาล และระหว่างสงครามเวียดนาม ช่วงเวลาที่กรุงเทพฯ เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

เช่นเดียวกับอาคารขนาดใหญ่ ที่มีทั้งสำนักงาน ศูนย์การค้า ร้านค้า และโรงแรม สร้างขึ้นมาแทนบ้านพักและตึกแถวริมถนน ทั้งถนนสีลม และถนนพระรามสี่ ที่มาจากทางดินริมคลองตรงในอดีต

แม้ว่าสถานีรถไฟศาลาแดงจะหายไป แต่ปัจจุบันมีสถานีรถไฟฟ้า ทั้งลอยฟ้าและใต้ดิน มาแทนที่ ย่านศาลาแดงที่อยู่ชานพระนคร กลายมาเป็นย่านที่มีความคึกคัก ด้วยอยู่ในย่านธุรกิจกลางของกรุงเทพมหานคร

เช่นเดียวกับบ้านศาลาแดง เคยเป็นโรงแรมดุสิตธานี ที่โด่งดัง เป็นที่รู้จัก อยู่นานร่วมครึ่งศตวรรษ ก่อนที่จะหายไปจากทัศนียภาพกรุงเทพฯ

 

เรื่องราวของพื้นที่ที่รกร้าง ทำการเกษตร ตึกแถว ป่าช้า สนามม้า มาจนถึงศูนย์กลางธุรกิจ

เรื่องราวของอาคาร บ้านฝรั่ง ที่พำนักเสนาบดี ที่ทำการและบ้านพักกองทัพญี่ปุ่น สมาคมและสโมสร โรงแรม สำนักงาน ห้องประชุมและจัดเลี้ยง และอาคารอาคารสูง

เรื่องราวของคนแขกเลี้ยงวัว กัปตันเรือ เสนาบดี ข้าราชการฝึกหัด ทหาร และสถาปนิกญี่ปุ่น นักเรียนนอก แพทย์ พยาบาล นักท่องเที่ยวต่างชาติ ผู้นำจากนานาประเทศ

เรื่องราวของโครงสร้างพื้นฐาน คูคลอง ทางม้า ทางรถไฟ ถนน รถยนต์ รถไฟ รถไฟลอยฟ้าและใต้ดิน

เรื่องราวของเหตุการณ์ ความเปลี่ยวเหงาชานพระนคร มาคึกคักเมื่อเป็นจุดพักคอยเรือและรถไฟ จากบ้านพักมาเป็นที่พักแรม จากที่ทำการกองทัพมาเป็นสำนักงาน แม้กระทั่งงานเลี้ยงฉลองพระราชพิธีสมรส ยังมาเป็นห้องจัดเลี้ยงงานแต่งงานหรูหรา

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ ล้วนเป็นที่มาของความเป็นเมือง ทั้งที่เป็นปัญหา และความสวยงาม สิ่งที่ปรากฏขึ้นล้วนมีที่มา เป็นอยู่ และส่งผลต่อเนื่อง ทั้งที่เหลืออยู่ หรือเหลือแค่นามเรียกขาน

 

กรุงเทพเป็นมหานคร มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่าสองร้อยห้าสิบปี เป็นเมืองที่มีผู้คนอาศัยต่อเนื่องเรื่อยมา

สิ่งที่พบเห็นในปัจจุบัน จึงมีเรื่องราวมากมาย สำหรับคนที่ผ่านไปมาได้รับรู้

คนที่พำนักอยู่ได้จดจำ

คนที่ดูแลบริหารจัดการได้เข้าใจ คนที่คิดจะแก้ไขปัญหาหรือวางแผนวางผัง ได้ตระหนัก

เพราะอย่างไร พื้นที่แห่งนี้จะดำรงคงอยู่ต่อไปอีกนาน •