ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 24 - 30 มีนาคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | มุมมุสลิม |
เผยแพร่ |
มุมมุสลิม | จรัญ มะลูลีม
มุสลิมในอินเดีย
และเซอร์ ซัยยิด อะห์มัด ข่าน (4)
เซอร์ ซัยยิด
ในฐานะนักการศึกษาคนสำคัญของอินเดีย (ต่อ)
เยาวหราล เนห์รู (JAWARHAL AL NEHRU) อดีตนายกรัฐมนตรีอินเดีย (1947-1964) : เซอร์ ซัยยิด เป็นนักปฏิรูปที่กระตือรือร้น และเขาต้องการประนีประนอมความคิดทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่กับศาสนาโดยการตีความอย่างมีเหตุผล ไม่ใช่ด้วยการโจมตีความเชื่อพื้นฐาน
เขากังวลที่จะผลักดันการศึกษาใหม่ เขาไม่มีทางแบ่งแยกดินแดน เขาย้ำหลายครั้งว่าความแตกต่างทางศาสนาไม่ควรมีความสำคัญทางการเมืองและในระดับชาติ
เมาลานา อับดุล กาลาม อะซาด (MAULANA ABUL KALAM AZAD) ปัญญาชนคนสำคัญของอินเดีย : คำจารึกที่แกะสลักไว้บนผนังของ Strachey Hall ของเขาอาจจางหายไปตามกาลเวลา แต่คำจารึกที่ Aligarh ซึ่งเขียนเกี่ยวกับช่วงเวลาสมัยใหม่ของประวัติศาสตร์อินเดียนั้นไม่มีวันจางหาย นักประวัติศาสตร์ในอนาคตจะค้นพบใน Aligarh หนึ่งในหมุดหมายที่มีส่วนทำให้เกิดวิวัฒนาการของอินเดียสมัยใหม่
อลี อะห์มัด สุรูช (ALE AHMAD SUROOR) : การเคลื่อนไหวของเซอร์ ซัยยิด ควรถูกมองว่าเป็นความพยายามอย่างครอบคลุมสำหรับการปรับปรุงให้ทันสมัย ทั้งอารมณ์ทางวิทยาศาสตร์ การยกระดับสังคม และความก้าวหน้าทางการศึกษา
ลาลา ลาจพัท ราย (LALA LAJPAT RAI) : ตั้งแต่วัยเด็ก ข้าพเจ้าถูกสอนให้เคารพความคิดเห็นและคำสอนของเซอร์ ซัยยิด ผู้มีเคราขาวแห่งอลิการ์
พ่อที่รักของข้าพเจ้าได้อ่านงานของนักปฏิรูปสังคมอย่างตะฮ์ซีบ เบ อัคลาก (Tahzib-ul Akhlaq – จรรยามารยาท) ให้ฉันฟังตลอดเวลา และเห็นว่าเซอร์ ซัยยิด นั้นเป็นไม่น้อยกว่าผู้เผยพระวจนะแห่งศตวรรษที่ 19 ทั้งงานเขียนของเขาใน Aligarh Institule Gazette และคำปราศรัยของเขาในสภาและการประชุมสาธารณะอื่นๆ
ไบพิน จันทรา (BIPIN CHANDRA) : เซอร์ ซัยยิด เป็นผู้ศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ในขันติธรรมที่มีต่อศาสนา เขาเชื่อว่าทุกศาสนามีความสามัคคีบนพื้นฐานบางอย่างที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นคุณธรรมในทางปฏิบัติ เชื่อว่าศาสนาของบุคคลเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาหรือเธอ เขาประณามสัญญาณของความคลั่งไคล้ทางศาสนาและยังต่อต้านความขัดแย้งของชุมชนอีกด้วย
ราเชนทรา ปราสาด (RAJENDRA PRASAD) อดีตประธานาธิบดีอินเดีย (1950-1962) : เป็นการมองการณ์ไกลและความรักชาติของเซอร์ ซัยยิด นำไปสู่การก่อตั้งโรงเรียนและได้รับการยกฐานะเป็นวิทยาลัยในเวลาต่อมาและได้รับสถานะเป็นมหาวิทยาลัยในปี 1920 ในช่วงเวลานี้ มันกลายเป็นศูนย์กลางการศึกษาที่ยอดเยี่ยมมากและมีชื่อเสียงสำหรับตัวเองในอินเดียและต่างประเทศ มีส่วนสำคัญในการสร้างประวัติศาสตร์ของชาวมุสลิมอินเดีย
จอห์น เอฟ เคนเนดี้ (John F. KENNEDY) อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา คนที่ 35 (1961-1963) เซอร์ ซัยยิด เป็นคนเดียวที่ไม่เคยขออะไรจากรัฐบาลเพื่อตัวเขาเอง
บัณฑิต โกวินด์ บัลลับห์ ปานท์ (PANDIT GOVIND BALLABH PANT) : ผู้ก่อตั้ง MAO College เป็นหนึ่งในชาวอินเดียที่มีชื่อเสียงที่สุดที่เคยมีมา เซอร์ ซัยยิด ได้รับพรสวรรค์ด้วยการมีจิตใจอันทรงพลัง เขายืนหยัดด้วยความอดทน เหตุผล มุมมองทางวิทยาศาสตร์ และเสรีภาพในการต่อต้านความคลั่งไคล้ และนิกายที่คับแคบ
อาบิด ฮูเซน (ABID HUSAIN) : เซอร์ ซัยยิด อะห์มัด ข่าน ทราบดีว่าชาวมุสลิมอินเดียไม่สามารถอยู่ห่างจากการเปลี่ยนแปลงในความทันสมัยที่ได้กำหนดไว้สำหรับกลุ่มสังคมทั้งหมดในอินเดียได้
หากมีสิ่งหนึ่งที่เซอร์ ซัยยิด สนับสนุนมาตลอดชีวิตของเขา นั่นคือการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เขาตระหนักดีว่าเพื่อที่จะไม่ยอมแพ้ต่อโลกสมัยใหม่ ชุมชนต้องเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตโดยยอมรับความทันสมัยจากจุดแข็งที่มีอยู่
ชาม เบเนกัลป์ (SHYAM BENEGAL) : นักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์อินเดีย : เซอร์ ซัยยิด ได้แนะนำการศึกษาสมัยใหม่ในชุมชนมุสลิมเพียงลำพังและเป็นหนึ่งในผู้ที่น่านับถือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับความสามัคคีของชาวฮินดู-มุสลิม เขาเป็นนักฆราวาสนิยม (Secularism) ก่อนที่คำนี้จะกลายเป็นที่รู้จักทั่วไปในศตวรรษต่อมา
ทารา จันด์ (TARA CHAND) : ภาพประกอบที่โดดเด่นจากศตวรรษที่ 19 คือความคล้ายคลึงระหว่างแนวคิดพื้นฐานของรามโมฮัน รอย (Ram Mohan Roy) ในครึ่งแรกของศตวรรษและของเซอร์ ซัยยิด อะห์มัด ข่าน ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษ
รามจันทรา กูฮา (RAMCHANDRA GUHA) : สองนักปฏิรูปเสรีนิยมที่ยิ่งใหญ่คนแรกของอินเดียคือราชา ราม โมฮัน รอย (Raja Ram Mohan Roy) และเซอร์ ซัยยิด อะห์มัด ข่าน (Sir Syed Ahmad Khan) พวกเขามองไปข้างหน้า
พวกเขาเห็นว่าเราถูกท้าทาย เราถูกพิชิต เราถูกปราบ เราถูกทำให้ขายหน้า เพราะมีข้อบกพร่องบางอย่างในสังคมของเรา แม้ว่าเราจะมีประเพณีที่ยิ่งใหญ่ในอดีต แต่เราไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับความท้าทายที่เกิดจากโลกสมัยใหม่ที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วได้ ความท้าทายของการปฏิวัติอุตสาหกรรม การปฏิวัติประชาธิปไตยและเทคโนโลยี ราชา ราม โมฮัน รอย และเซอร์ ซัยยิด อะห์มัด ข่าน จึงเป็นผู้เปิดตัวประเพณีเสรีนิยมอินเดีย
มหาวิทยาลัยมุสลิม Aligarh มีมรดกอันล้ำค่า มีชื่อเสียงในด้านวัฒนธรรมและประเพณีอันยาวนาน มีศิษย์เก่าที่กระจายไปทั่วโลก ศิษย์เก่าที่เป็นผลงานของสถาบันการศึกษาคือจุดเด่นและทรัพย์สินอันมีค่าของสถาบัน
พวกเขาเป็นตัวแทนที่แท้จริงของความประณีต ความมีจิตใจ และอุดมคติอันสูงส่ง เมื่อใดก็ตามที่เราร่างรายชื่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของมหาวิทยาลัยและผลิตผลของมหาวิทยาลัย ศิษย์เก่าจะยืนอยู่ที่นั่นพร้อมกับนักศึกษาที่มีอยู่และสมาชิกของคณะ อันที่จริงแล้ว ความสำเร็จของมหาวิทยาลัยขึ้นอยู่กับอาชีพที่รุ่งโรจน์และยอดเยี่ยมของศิษย์เก่าเป็นสำคัญ
มหาวิทยาลัยยังคงเป็นแรงผลักดันเบื้องหลังความสำเร็จของศิษย์เก่า ด้วยการช่วยให้สถาบันมีขนาดใหญ่ขึ้น แข็งแกร่งขึ้น และประสบความสำเร็จมากขึ้น
ศิษย์เก่ายังได้ยกระดับคุณค่าของปริญญาของตนเองอีกด้วย พวกเขาเป็นดังตัวแทนของมหาวิทยาลัย
พวกเขานำความรู้และคุณสมบัติอันมีเกียรติและน่ายกย่องทั้งหมดที่มหาวิทยาลัยมอบให้มายังครอบครัว ถิ่นกำเนิด ชีวิตการทำงาน เครือข่ายสังคมออนไลน์ของพวกเขา และเสริมสร้างโครงสร้างของสังคมของพวกเขา ความสำเร็จและความสูงส่งทั้งหมดของพวกเขาช่วยเสริมชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย
เซอร์ ซัยยิด ได้เริ่มแนวคิดและการดำเนินการของการศึกษาสมัยใหม่ควบคู่ไปกับการศึกษาทางศาสนา สำหรับชาวมุสลิม เขาเป็นคนแรกและเป็นคนเดียวที่เข้าใจความต้องการและดำเนินการแก้ไขวิสัยทัศน์ของเขาให้อยู่เหนือขอบเขตของศาสนา และเขาเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนทำงานเพื่อการศึกษา
นั่นคือเหตุผลที่มหาตมะ คานธี เรียกเขาว่า ‘ศาสดาแห่งการศึกษา’
ขบวนการ Aligarh
ในสมัยทองของเซอร์ ซัยยิด
มีการเขียนหนังสือและบทความมากมายเกี่ยวกับเซอร์ ซัยยิด แต่เรายังไม่สามารถสำรวจการต่อสู้และการมีส่วนร่วมของเขาทั้งหมดได้
จนถึงตอนนี้เราจะพบว่า 81 ปีในชีวิตของเขาเป็นภาพสะท้อนทั้งหมดของการที่แต่ละคนสามารถมีส่วนร่วมในเชิงบวกในชีวิตของผู้อื่นต่อไปรุ่นแล้วรุ่นเล่า ทุกแง่มุมในชีวิตของเขาเป็นบทเรียนสำหรับมนุษยชาติ และนี่คือขบวนการอลิการ์ หากเราต้องสรุปการเคลื่อนไหวนี้ มีคำหลักสามคำที่รวบรวมสาระสำคัญเอาไว้ได้แก่
– ยกระดับการศึกษา
– ปฏิรูปสังคม
– การตื่นขึ้นทางศาสนา
ก่อนที่เซอร์ ซัยยิด จะประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนด้านการศึกษาให้แก่ชาวอินเดียทั้งมวลโดยเฉพาะชาวมุสลิมอินเดียนั้นเขาต้องผ่านการถูกวินิจฉัยทางศาสนา (ฟัตวา) เขาถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงในการเคลื่อนไหวเพื่อการศึกษาของคนอินเดียทั้งมวล
เขาถูกกล่าวถึงดังนี้ “ชายคนนี้กำลังหลงผิดและทำให้ผู้คนหลงผิด หรือมากกว่านั้นเขาคือตัวแทนของมารและต้องการหลอกลวงชาวมุสลิม การสนับสนุนวิทยาลัยของเขาถือเป็นบาป ขอพระเจ้าประณามผู้ก่อตั้ง และหากวิทยาลัยแห่งนี้ก่อตั้งขึ้น ผู้สนับสนุนก็จะถูกขับออกจากกลุ่มก้อนของอิสลาม”
เซอร์ ซัยยิด ถูกโจมตีด้วยการวินิจฉัยทางศาสนามากมายจากทุกที่ แต่เขาก็ยังคงประสบความสำเร็จในภารกิจของเขาและพิสูจน์ให้เห็นสิ่งที่เขาทำว่าถูกต้องแล้ว
ตอนนี้ สถาบันดังกล่าวทั้งหมดที่เคยวิพากษ์การขับเคลื่อนด้านการศึกษาของเขาต่างชื่นชมผลงานของเขาในที่สุด
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022