นักธุรกิจปะทะนักการทหาร

วงค์ ตาวัน

ชกคาดเชือก | วงค์ ตาวัน

 

นักธุรกิจปะทะนักการทหาร

 

การเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมที่ใกล้จะมาถึง อาจจะเรียกได้ว่า เป็นศึกป้องกันตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งยังคงลงสนามในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นแคนดิเดตนายกฯ หวังจะเป็นต่ออีกแม้จะเป็นได้แค่ 2 ปีหรือแค่ครึ่งเทอมก็ตาม

แต่ในสายตานักวิเคราะห์การเมืองล้วนมองคล้ายๆ กัน คือ คนป้องกันตำแหน่ง มาในฟอร์มที่ไม่มีทีเด็ดอะไรมากนัก มีโอกาสจะโดนน็อกแบบหมดสภาพ เป็นไปได้สูง

ขณะที่พรรคการเมืองต่างๆ หลายพรรคมาอย่างครบเครื่อง ทั้งนโยบายตอบสนองความต้องการประชาชน ทั้งการจัดตัวแคนดิเดตนายกฯ สดใหม่ไม่ธรรมดา

ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล หรือแม้แต่พรรคภูมิใจไทย ที่มีความพร้อมสูงในด้านกระสุน

โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย หากออกสำรวจในพื้นที่ต่างๆ จะพบว่าเป็นพรรคที่มีกระแสแรงที่สุด เพราะความต้องการของประชาชนคือ การพลิกฟื้นเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้อง หลังจากยากลำบากมาถึง 8-9 ปี เพราะมีความเชื่อถือว่า เป็นพรรคที่เคยทำผลงานด้านเศรษฐกิจมาแล้ว เชื่อว่าสามารถทำได้ผลจริง เป็นเหตุให้ความนิยมพุ่งสูง

ส่วนพรรคก้าวไกล ยังคงแรงด้วยแรงสนับสนุนของคนรุ่นใหม่ แถมตามสถิติพบว่า การเลือกตั้ง 2566 นี้ จำนวนคนรุ่นใหม่ที่มีสิทธิเลือกตั้ง เพิ่มขึ้นจากพลังคนรุ่นใหม่ในการเลือกตั้ง 2562 อีก 2-3 ล้านคน

คนรุ่นใหม่ ที่ต้องการการเมืองที่เปลี่ยนแปลงประเทศแบบถึงโครงสร้าง ต้องการการทำงานการเมืองที่ตรงไปตรงมาไม่ต้องประนีประนอมกับใคร เป็นแรงสนับสนุนสำคัญของก้าวไกล

เพียงแต่ในภาพรวมแล้ว ต้องนับว่าพรรคเพื่อไทยมีโอกาสสูงมาก ที่จะกวาด ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้อย่างถล่มทลาย เพราะมีมวลชนสนับสนุนวงกว้างกว่า

เมื่อเทียบกับการเลือกตั้ง 2562 แล้ว คราวนี้เพื่อไทยมีโอกาสได้มากกว่าแน่นอน เพราะเป็นการเลือกตั้งด้วยบัตร 2 ใบ ขณะที่หนก่อนนั้น ต้องแตกแบงก์พันเป็น 2 พรรค แยก ส.ส.เขตกับปาร์ตี้ลิสต์ แล้วดันผิดพลาดโดนยุบไป 1 พรรค

อีกทั้งแคนดิเดตนายกฯ ของเพื่อไทยหนนี้ แม้ยังไม่ประกาศเป็นทางการ แต่คงไม่พ้น นายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสูง และอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ทายาทของทักษิณ ชินวัตร

คนหนึ่งนั้น มีจุดเด่นด้านฝีมือการแก้เศรษฐกิจ มีวิสัยทัศน์กว้างไกลก้าวทันโลก และความคิดต่อการเมืองต่อสังคมเห็นได้ชัดเจนมาตลอดว่า ประชาธิปไตย เข้าใจความเท่าเทียม

อีกคนก็ทายาทของทักษิณ ที่ชาวบ้านจำนวนมากยังเชื่อมั่นด้านไอเดียและฝีมือ

ดูแล้วสดใหม่ มีความพร้อมจะชิงเก้าอี้นายกฯ จาก พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งอ่อนล้าและหมดยุคไปแล้ว!

 

หลายเดือนมาแล้ว ที่ พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่ตรวจราชการในนามนายกฯ อย่างถี่ยิบ ทั้งที่หลายปีที่ผ่านมาไม่เคยขยันลงพื้นที่แบบนี้มาก่อน เพิ่งจะมาขยันติดตามงานราชการก็ก่อนจะเลือกตั้งนี่แหละ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการโหมหาเสียงแบบเนียนๆ

แต่ยิ่งลงสนามมากเท่าไหร่ ยิ่งเผยความคิดและความเป็น พล.อ.ประยุทธ์ว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย เหมือนเมื่อ 8 ปีก่อนทุกประการ

ยังเป็นนักการทหาร ที่มาด้วยมาดวางอำนาจ ความคิดวิสัยทัศน์แก้ปัญหาประเทศ ก็เหมือนเดิม เห็นกันมาตลอด

ยิ่งมองเหล่าขุนพลรอบกาย พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งสังคมก็เห็นได้ไม่ยากว่า จะมีคนสายตากว้างไกลก้าวทันโลกได้หรือ มีไอเดียแหลมคมพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้หรือ

มีแต่คนที่พร้อมจะทะเลาะกับฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง พร้อมจะตอบโต้คนคิดต่างทางการเมือง ไม่ได้มีคุณสมบัติอื่นใดเลย

ประเด็นตัวตนของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ยังเป็นนักการทหาร เน้นอำนาจนิยม ปรากฏชัดจากเหตุการณ์ที่ราชบุรี เมื่อมีป้าสูงวัยโดนเจ้าหน้าที่อารักขานายกฯ ล็อกตัวเอามืออุดปาก ลากถูออกไปจากพื้นที่ เนื่องจากมีกลุ่มคนมาชู 3 นิ้วประท้วง

หลังเกิดเหตุ พล.อ.ประยุทธ์ยังพูดจาสนับสนุนการกระทำของเจ้าหน้าที่ กล่าวหาว่าผู้ถูกจับกุมกระทำผิดกฎหมาย ทั้งที่เป็นสิทธิในระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนจะแสดงออกเพื่อเรียกร้องหรือต่อต้านรัฐบาล

แถม พล.อ.ประยุทธ์ยังพูดจาเย้ยหยันคนชู 3 นิ้วว่า อีก 2 นิ้วหายไปไหน ควรจะพาไปพบแพทย์ อะไรทำนองนั้น

*นี่กำลังอยู่ช่วงหาเสียงเตรียมเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย แต่ พล.อ.ประยุทธ์ผู้ขออาสาให้ประชาชนเลือกเข้ามาเป็นนายกฯ อีกครั้ง กลับแสดงจิตใจตรงข้ามประชาธิปไตยออกมาอย่างชัดแจ้ง*

จึงน่าสงสัยว่า ประชาชนในสายตาของ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องว่านอนสอนง่าย เชื่อฟังแต่ผู้นำเท่านั้นกระมัง

ยิ่งเกิดกรณีเปรียบเทียบกับเวทีปราศรัยของพรรคก้าวไกล ที่ใจกลาง กทม. แล้วมีกลุ่มคนมาถือป้ายประท้วง มายืนต่อต้าน แล้วคนของก้าวไกลจัดการปัญหานี้ ด้วยการเดินเข้าไปพูดคุยขอสัมภาษณ์ ถ่ายสดทางไลฟ์เฟซบุ๊ก เพื่อให้ประชาชนได้รับฟัง ทำเอาผู้มาถือป้ายประท้วงตอบไม่ได้ ไปไม่เป็น

นี่คือการจัดการปัญหาโดนต่อต้าน ด้วยวิธีการแบบปัญญาชน ไม่มีการใช้กำลัง หรือไปต่อว่าขับไล่อะไร

เทียบกับ พล.อ.ประยุทธ์ กรณีมีคนไปประท้วง แล้วเจ้าหน้าที่รัฐฉุดกระชากปิดปาก โดย พล.อ.ประยุทธ์พูดจาสนับสนุน ช่างตอกย้ำความจริงให้ประจักษ์ชัด

 

อาจจะกล่าวได้ว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีแนวโน้มจะเลือกตั้งแบบเด็ดขาด เดิมทีคาดกันว่าจะได้ ส.ส.เกิน 200 ลุ้นกันว่าจะทะลุ 250 ปิดสวิตช์ 250 ส.ว.ได้แน่นอน แต่มาล่าสุด นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยประกาศแล้วว่า มองข้าม 250 เสียงไปแล้ว เป้าหมายตอนนี้คือ 310 ส.ส. เพื่อมีสิทธิเด็ดขาดในการจัดตั้งรัฐบาล

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เท่ากับเพื่อไทยจะชนะ พล.อ.ประยุทธ์แบบชนะน็อกเลยทีเดียว

แถมเพื่อไทยคือพรรคที่โดน พล.อ.ประยุทธ์ก่อรัฐประหารโค่นล้มเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 คราวนี้ได้เวลากลับมาล้ม พล.อ.ประยุทธ์ผ่านการเลือกตั้งได้

เพื่อไทยอาจจะถือว่าเป็นพรรคศัตรูขั้วตรงข้ามทางการเมืองที่ พล.อ.ประยุทธ์จับจ้องมากที่สุด

ไม่น่าแปลกใจที่ พล.อ.ประยุทธ์ออกอาการกับนายเศรษฐา ทวีสิน ที่คาดว่าจะเข้ามาเป็นคู่ชิงตำแหน่งนายกฯ ที่น่ากลัวที่สุด ด้วยการตั้งคำถามว่า เขาเก่งอะไร เขาทำธุรกิจ ประเทศนี้ไม่ใช่ธุรกิจ

ตามด้วยเครือข่ายฝ่ายอนุรักษนิยมการเมือง ที่ออกมาเน้นโจมตีความเป็นนักธุรกิจของนายเศรษฐา ทำนองว่าเข้ามาเล่นการเมือง โดยคิดแบบพ่อค้า ต้องมีกำไร ลงเอยต้องทุจริตแน่นอน

ขณะเดียวกัน ในคำกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ว่า ประเทศนี้ไม่ใช่ธุรกิจ นำมาซึ่งเสียงวิจารณ์จากคนในสังคมว่า ถ้าประเทศนี้ไม่ใช่ธุรกิจ ก็ต้องย้ำว่าประเทศนี้ไม่ใช่ค่ายทหารเช่นกัน และประชาชนไม่ใช่ลูกน้องของ พล.อ.ประยุทธ์อีกด้วย

ประเด็นนักธุรกิจเข้าสู่การเมือง แล้วถูกสกัดด้วยข้อหา คิดแบบพ่อค้าจะต้องมาหากำไรนั้น อันที่จริงไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ได้ซับซ้อน เพราะนักธุรกิจเข้ามาเล่นการเมืองก็เป็นวิถีประชาธิปไตย เปิดเผย โดนตรวจสอบได้

แต่ผู้มีอำนาจจากกองทัพ นักการทหาร ที่เข้ามาเล่นการเมือง มักอยู่ในระบบที่ตรวจสอบได้ยาก ซึ่งทุกระบบทุกวงการต้องมีปัญหาคอร์รัปชั่นแน่นอน แต่ถูกปกปิดกลบเกลื่อนง่ายกว่า

ขณะเดียวกันสิ่งที่นักธุรกิจมีเหนือกว่านักการทหารแน่นอน นั่นคือ วิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจ มุมมองกว้างไกลทันโลก

แต่นักการทหาร ปิดตัวเองในกรอบ ยากจะรอบรู้เศรษฐกิจ และพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ในยุคนายพลเป็นผู้นำรัฐบาล

นักธุรกิจ มีระบบค้ากำไรแน่นอน แต่นักการทหาร ในแวดวงราชการ ก็เต็มไปด้วยนักจัดซื้อจัดจ้าง คอมมิสชั่น เงินทอน

เอาเป็นว่าเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเองว่า เขาต้องการนักธุรกิจหรือนักการทหาร!