ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 มีนาคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | เปลี่ยนผ่าน |
เผยแพร่ |
หมายเหตุ : นี่คือถ้อยแถลงของ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และ “นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช” ประธานคณะกรรมการด้านนโยบายและเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ในช่วง “ประกาศจุดแข็ง” บนเวทีดีเบต “มติชนเลือกตั้ง ’66 : บทใหม่ประเทศไทย #ประชันนโยบาย” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
“จุดแข็งไทยสร้างไทยคืออะไร จุดแข็งของเราก็คือเราคิดต่างค่ะ วันนี้ไทยสร้างไทยเรามาเพื่อที่จะสร้างให้ประชาชนชนะ วันนี้การเมืองที่ผ่านมา 17 ปี มันสร้างความพ่ายแพ้ให้กับประชาชน การเมืองติดลูปความขัดแย้งมา 17 ปี ตั้งแต่รัฐประหารเป็นต้นมา มุ่งที่จะเอาอำนาจของตัวเอง และครั้งนี้ก็เป็นครั้งสำคัญที่เรียกว่าเป็น ‘last war’ (สงครามครั้งสุดท้าย) ของทั้งสองขั้วอำนาจ
“ดิฉันไม่อยากที่จะให้เห็นว่าจบการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการเริ่มต้นของวิกฤตชาติครั้งใหม่ เราต้องการที่จะให้ประเทศไทยสามารถเดินต่อได้ ไทยสร้างไทยไม่ได้คิดเป็น last war ค่ะ แต่เราคือจุดเริ่มต้นของอนาคตประเทศไทย
“และเราจะทุ่มเทเอาประสบการณ์ของตัวดิฉันและผู้ก่อตั้งไทยสร้างไทย ไม่ว่าจะมีมา 20-30 ปี มาสร้างประเทศไทยที่ดีที่สุด เพื่อส่งมอบให้คนรุ่นต่อไปค่ะ เรามาเพื่อเสียสละ ดิฉันคิดอย่างคนเป็นแม่ ที่ห่วงอนาคตของลูกตัวเองแล้วก็ลูกคนอื่น เรามาสร้างให้ประชาชนชนะ ประชาชนแพ้มาตลอด คนไทยต้องอยู่อย่างมีความมั่นคง อยู่อย่างมีศักดิ์ศรีตั้งแต่เกิดจนแก่
“สอง เราคิดเพื่อคนตัวเล็ก เพราะคนตัวเล็กตั้งแต่เอสเอ็มอีถึงเกษตรกรคือคนส่วนใหญ่ของประเทศ คนตัวเล็กคือสเปกของไทยสร้างไทยที่จะ empower (เพิ่มอำนาจ) และ liberate (ปลดปล่อย) เขา ให้เขาหายจนให้ได้ เราจะเปลี่ยนเชฟของเศรษฐกิจ จากสามเหลี่ยมที่รวยกระจุกจนกระจายเป็นลูกรักบี้ รวยนิดเดียว จนนิดเดียว นอกนั้นพออยู่พอกิน
“ต่อไปคือ เรากล้าคิด เราจะทำให้ประเทศยืนหนึ่งบนแผนที่การแข่งขันโลกค่ะ วันนี้เศรษฐกิจเราโตช้า โตต่ำกว่าคนอื่นมาก และที่สำคัญ เราหมดเสน่ห์ในด้านการลงทุนไปแล้ว จากเอฟดีไอ (การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ) ที่เราเคยมี 41 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันเหลือ 4 เปอร์เซ็นต์ เราต้องสร้างเครื่องยนต์ใหม่ ที่จะมารีสตาร์ตเครื่องยนต์เศรษฐกิจไทย
“เมกะโปรเจ็กต์แรกที่เราจะทำ ก็คือ โกลบอล เกตเวย์ เราจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาคและของโลก ด้วยการเชื่อมบีอาร์ไอ (โครงการเส้นทางสายไหมใหม่) อย่างรวดเร็ว และการศึกษาคลองไทยอย่างจริงจัง ทั้งผลดีทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งผลเสียทางด้านสิ่งแวดล้อม เอามาให้ประชาชนตัดสินใจ
“ที่สำคัญ เราต้องสร้างระเบียงเศรษฐกิจใหม่ พื้นที่ที่จะดึงดูดการลงทุนจากคนทั่วโลกให้มาลงทุน เราจะต้องพลิกวิกฤตโลกให้เป็นโอกาส โดยเฉพาะเรื่องภูมิรัฐศาสตร์และห่วงโซ่อุปทาน ที่ต้องย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังประเทศไทย ทั้งอิเล็กทรอนิกส์และอีวี (รถยนต์พลังงานไฟฟ้า)
“ตลาดทุนที่มีปัญหาในฮ่องกง เราจะต้องย้ายตลาดทุนจากฮ่องกง รวมทั้งฮับของเศรษฐกิจดิจิทัลจากฮ่องกงมาไทย เรามองหาโอกาสใหม่ให้กับคนไทยค่ะ
“ทันทีที่ดิฉันได้รับความไว้วางใจ ถ้าเป็นนายกรัฐมนตรี ดิฉันจะเดินทางไปประเทศจีน ไปพบประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ไปพบนายกฯ โมดี (นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย) เพื่อจะชวนกันมาสร้างความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ เป็นโครงการริเริ่มทางเศรษฐกิจระหว่างจีน อินเดีย ไทย เพราะสามประเทศนี้รวมกัน ประชาชนสามพันล้านคน 36 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก ขนาดเศรษฐกิจ 22.33 ล้านล้านเหรียญ เท่ากับ 26 เปอร์เซ็นต์ของขนาดเศรษฐกิจโลก นี่คือโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไทยค่ะ
“และเราคิดต่าง เราคิดสุจริต โมเดลการปราบโกง เราจะทำสงครามกับคอร์รัปชั่น ลากคนโกงทั้งนักการเมืองและข้าราชการมาติดคุก เหมือนเกาหลีใต้ ประธานาธิบดีหญิงที่โกงติดคุกค่ะ
“เราคิดแล้ว เราทำทันที เราไม่มี ส.ส.สักคนในสภา แต่เราได้เสนอกฎหมายเข้าสภาไปแล้วสี่ฉบับ ที่เป็นกฎหมายเกี่ยวกับแต้มต่อและการสร้างพลังให้แก่ประชาชน
“วันนี้ไทยสร้างไทยขอเป็นทางรอดของประเทศไทย ยุติการเมืองขัดแย้งสองขั้ว เรามาช่วยกันจุดไม้ขีดคนละก้าน เพื่อแสงสว่างเผาไล่ความมืดมิด กำจัดการสืบทอดอำนาจเผด็จการคอร์รัปชั่นอำนาจนิยมที่กดหัวคนไทย มาสร้างให้คนไทยชนะ นี่คือสิ่งที่เป็นจุดแข็งของไทยสร้างไทย และเรามั่นใจว่าเราทำได้”
นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช
“สิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้ ไม่ใช่ (เพื่อ) พรรคเพื่อไทยเท่านั้น แต่ผมกำลังจะเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน สิ่งที่เป็นประโยชน์และเป็นยุทธศาสตร์ในการทวงคืนประชาธิปไตยให้กับพี่น้องประชาชนอย่างสันติวิธี
“ผมจะนำเสนอบันไดสามขั้น ทำไมเราถึงพูดถึงเรื่องแลนด์สไลด์ ประเด็นที่หนึ่ง คือ ต้องมีพรรคใหญ่ที่สามารถชนะเลือกตั้ง แล้วยืนอย่างมั่นคงในการที่จะเป็นรัฐบาล เพราะฉะนั้น เป้าหมายอันดับแรกที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอ ก็คือ การที่จะต้องมีเสียงไม่ต่ำกว่า 250 เพื่อที่จะสกัดกั้นการตั้งรัฐบาลของเสียงข้างน้อยสนับสนุนโดยวุฒิสมาชิก
“เราต้องมีอำนาจ ต้องมีเสียงในสภาให้มากพอ แล้วสามารถจัดตั้งรัฐบาลที่สามารถเอาชนะเสียง 250 ส.ว.อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด การเรียกร้องอันนี้คือก้าวสำคัญของการนำคืน ทวงคืนประชาธิปไตย
“ข้อที่สอง การที่จะชูธงระดมพลกำลังของฝ่ายประชาธิปไตยมา เรายึดถือธงเพื่อรายได้ของพี่น้องประชาชนและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พรรคเพื่อไทยได้นำเสนอเรื่องของนโยบายต่างๆ ที่ครอบคลุมทุกส่วนของสังคม ตั้งแต่รายได้ช่วงระยะสั้นและระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพี่น้องเกษตรกร พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ เอสเอ็มอี อุตสาหกรรม และภาคอื่นๆ
“รายได้ที่เกิดขึ้นย่อมจะมีการหมุนเวียน และมาสร้างสิ่งที่เป็นภาษีตามมา ภาษีจะกลับมาดูแลพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้น เราไม่นิยมการที่เอาปลาให้เป็นสำเร็จรูปแล้วกินเป็นมื้อเดียว แต่เราจะสอนวิธีการทำมาหากิน เอาวิธีในการตกปลาให้กับพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม เพื่อให้ยืนอยู่ได้ตลอดไป
“บันไดขั้นที่สาม การแก้ปัญหาระยะสั้นที่ชูธงการชนะการเลือกตั้ง เพื่อที่จะไปแก้ปัญหาระยะยาวในการแก้รัฐธรรมนูญ 2560 ที่ยึดอำนาจของประชาชนไป เราจะใช้กระบวนการที่เป็นประชาธิปไตย คือ ส.ส.ร. (สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ) เราจะหยุดกระบวนการสืบทอดอำนาจ เพิ่มอำนาจให้ประชาชน สร้างกลไกที่เป็นประชาธิปไตย กระจายอำนาจ และตรวจสอบถ่วงดุล
“ขั้นถัดไป ปัจจัยที่จะทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นมีอยู่สามประการ เราจะต้องมีผู้สมัคร ส.ส.ที่ใกล้ชิดกับประชาชน รู้ทุกข์รู้สุขและนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาให้ เราต้องมีนโยบายที่แข็งแรง ระดมสมอง พรรคเรามีความพร้อม มีอดีตรัฐมนตรี นักวิชาการ ผู้ประกอบการต่างๆ และเรายังสามารถนำเอาศักยภาพซ่อนเร้นต่างๆ มาเกิดประโยชน์ให้เต็มที่
“ประการที่สามเพื่อเป็นหลักประกัน เพื่อยืนยันว่าเราคิดใหญ่และทำเป็น เราเสนอตัวแทนที่เป็นนายกฯ เพื่อเป็นหลักประกันของการเข้าไปบริหาร ที่มีความเชี่ยวชาญในทุกเรื่องดังกล่าว
“ผมมายืนวันนี้อาจจะเห็นว่าผมเป็นคนเดียว แต่อย่าลืมว่านโยบายดีๆ ที่เกิดขึ้นของพรรค เกิดขึ้นจากคณะทำงานระดมสมอง อันนี้ผมเอาตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมว่าเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว เราจัดตั้งคณะกรรมการที่มีผู้ใหญ่ ทั้งอดีตรัฐมนตรีและคนภายนอกต่างๆ ทั้งรุ่นที่มีประสบการณ์และรุ่นใหม่
“ทั้งนี้ ได้ทำงานนับเป็นหมื่นชั่วโมง เพราะว่าคนเหล่านี้คือประธานคณะทำงานต่างๆ ไม่ว่าจะดูแลด้านเศรษฐกิจคมนาคม ด้านพลังงาน ด้านเกษตร เป็นต้น
“สิ่งสำคัญ เป้าหมายของเราคือการเอาอำนาจคืนมา เพราะฉะนั้น เราต้องคิดใหญ่คิดครบ เป็นความคิดเชิงยุทธศาสตร์ เห็นตั้งแต่ต่างประเทศยันมาถึงภาคการผลิตและภาคประชาชน นำเสนอวิธีการที่เป็นรูปธรรม นำเสนอยุทธศาสตร์ นำเสนอมาตรการ พร้อมที่จะทำงาน และเรามีประสบการณ์ในการที่ผสมผสานรับฟัง จากรุ่นที่มีประสบการณ์กับรุ่นใหม่ เพื่อยึดอำนาจของประชาชนคืนมา
“พรรคเพื่อไทย คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน”
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022