ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 มีนาคม 2566 |
---|---|
เผยแพร่ |
บทความพิเศษ |ศรัณยู ตรีสุคนธ์
IU ศิลปินหญิงที่ยังคง ‘ยืนหนึ่ง’
ในอุตสาหกรรมเพลงเค-ป๊อป
อุตสาหกรรมดนตรีป๊อปในประเทศเกาหลีใต้เป็นซีนดนตรีที่มีการแข่งขันกันสูงมาก
ไม่ใช่แค่เพียงในทวีปเอเชียเท่านั้นแต่รวมถึงอุตสาหกรรมดนตรีโลกด้วย
และด้วยการต่อสู้ที่สูงขนาดนี้ทำให้ศิลปินแต่ละคนต้องผลักดันผลงานเพลงที่ดีที่สุดออกมาเพื่อแข่งกับคุณภาพงานเพลงโดยรวมของทั้งอุตสาหกรรมที่มีมาตรฐานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งวงการเพลงเค-ป๊อป มีจุดที่น่าสนใจอยู่อย่างหนึ่งที่ถือว่าทั้งโดดเด่นและท้าทายมากๆ
นั่นก็คือถึงแม้ว่าจะมีการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
แต่ค่ายเพลงก็พยายามผลักดันศิลปินในสังกัดให้ผลิตทั้งงานเพลงและภาพลักษณ์ของแต่ละวงและแต่ละคนออกมาให้มีเสน่ห์เฉพาะตัว
จนทำให้ศิลปินหรือไอดอลแต่ละคนมีฐานแฟนเพลงเฉพาะกลุ่มเป็นจำนวนมากแทบทุกคน
นี่คือสิ่งที่เหลือเชื่อสำหรับวงการเพลงเค-ป๊อป เพราะในเมื่อคุณภาพในการทำเพลงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อการแย่งชิงพื้นที่ทางการตลาดก็ทำให้มาตรฐานอุตสาหกรรมเพลงเค-ป๊อปโดยรวมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ซึ่งเป็นเทรนด์ที่แม้กระทั่งอุตสาหกรรมดนตรีป๊อปฝั่งตะวันตกยังต้องจับตามองเพื่อให้ทันกระแส
ถ้าให้เทียบภาพให้ชัดขึ้นก็ต้องบอกว่า เค-ป๊อปเป็นเหมือนคลื่นสึนามิขนาดมหึมาที่โหมกระหน่ำเข้าซัดชายฝั่งแห่งวงการดนตรีป๊อปแบบอนุรักษนิยมจนในตอนนี้
ไม่ใช่แค่เฉพาะบริษัทในวงการเค-ป๊อปเองเท่านั้นที่จะต้องทำการบ้านอย่างหนักเพื่อแย่งชิงพื้นที่เพื่อให้ศิลปินในสังกัดเฉิดฉาย
แต่มันรวมถึงศิลปินเพลงป๊อปทั่วโลกด้วย
เพราะลิซ่า และวงอย่าง BLACKPINK, BTS, SEVENTEEN, TWICE, Tomorrow x Together ต่างก็ได้เข้าชิงหรือแม้กระทั่งได้รับรางวัลบนเวทีมอบรางวัลระดับโลกมาแล้ว
บทความนี้ไม่ได้ต้องการวิเคราะห์ยุทธศาสตร์การวางแผนของวงการเพลงเค-ป๊อป ที่มองการณ์ไกลถึงการเจาะตลาดวงการดนตรีโลกมาตั้งแต่แรก
แต่ที่เกริ่นมาเสียยืดยาวก็เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนขึ้นในการวางแผนเพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นศิลปินหญิงเดี่ยวที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในวงการเพลงเค-ป๊อป ของ IU (ไอยู)
ที่มีการวางแผน, ฝึกฝน และต่อสู้อย่างหนักกว่าที่เธอจะก้าวขึ้นมายืนหนึ่งในฐานะ โซโล่ อาร์ตติสต์ ที่ไม่ใช่แค่เฉพาะในวงการเพลงเท่านั้น
แต่หมายถึงการเป็นทั้งนักแสดง, พรีเซ็นเตอร์ และเอนเตอร์เทนเนอร์ที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงเป็นอันดับต้นๆ ในวงการบันเทิงเกาหลีในยุคนี้ด้วย
IU มีชื่อจริงว่า อีจีอึน
ส่วน IU ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้ในวงการเป็นการนำเอาคำว่า I and You หรือ “ฉันและเธอ” มาผสมกันเพื่อสื่อว่าไม่ว่าใครก็ตามก็สามารถเป็นหนึ่งเดียวกันได้ด้วยเสียงดนตรีและบทเพลง
IU เข้ามาเป็นเด็กฝึกกับทางสังกัด LOEN Entertainment ในปี 2007
ก่อนที่จะเดบิวต์ในวัยเพียง 15 ปีเท่านั้น โดยอีพีชุดแรกของเธอมีชื่อว่า Lost and Found (2008) ที่มีเพลง Lost Child ซึ่งเป็นเพลงบัลลาดที่ไพเราะมากๆ
หลังจากนั้นเธอก็มีอีพี IU…IM, Real และสตูดิโออัลบั้มชุดแรกในชีวิตอย่าง Growing Up ตามออกมา
ซึ่งถือเป็นงานเพลงที่เติบโตมากขึ้นทั้งในแง่องคุณภาพงานเพลงและเนื้อหาของหลายบทเพลงก็พูดถึงการยืนหยัดอย่างเด็ดเดี่ยวด้วยความเป็นนักสู้ของเพศหญิงที่แข็งแกร่งไม่แพ้ผู้ชาย
แต่ถึงจะอย่างไรก็ตาม ผู้หญิงก็ปรารถนาความรักที่อ่อนโยนจากผู้ชายในอุดมคติ
พูดในอีกแง่หนึ่งก็คือบทเพลงในอัลบั้มยุคแรกๆ ของ IU พูดแทนความฝันในส่วนลึกของผู้หญิงโดยรวมที่ต้องการผู้ชายดีๆ สักคนมาอยู่เคียงข้าง
แต่ก็ยังมีบางเพลงที่แฝงเนื้อหาที่ว่าผู้หญิงก็สามารถยืดหยัดด้วยตัวเองได้โดยที่ไม่ต้องบุรุษเพศที่มองไม่เห็นคุณค่าของพวกเธอ
IU มีอีพี, สตูดิโออัลบั้มทั้งภาษาเกาหลีและญี่ปุ่น รวมถึงซิงเกิลอัลบั้มมากกว่า 20 ชุด
ท่ามกลางงานเพลงเหล่านี้แสดงให้เห็นความเติบโตทั้งในแง่การมองโลก, ความรักและชีวิตส่วนตัวด้วยมุมมองส่วนตัวที่มีความลึกซึ้งขึ้นตามวัยและประสบการณ์
สาเหตุที่ทำให้ IU ตั้งชื่ออัลบั้ม Palette (2017) ที่แปลว่า “จานสี” มาจากการมองจานผสมสีในคลาสเรียนศิลปะและครุ่นคิดว่าจริงอยู่ที่จานสีเป็นเพียงแค่เครื่องมือในการสร้างงานศิลปะเท่านั้น
แต่ IU มีความเชื่อว่าถ้าหากจานสีมีเจตจำนงของมันเองแล้วละก็ อุปกรณ์ผสมสีธรรมดาๆ นี้ก็สามารถเป็นศิลปินได้
และ IU ได้ผสมสีสันและจิตวิญญาณความเป็นศิลปินลงไปในจานสีที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเธอเอง
ด้วยความสดใสร่าเริงและไร้เดียงสาทำให้ IU ได้รับฉายาว่าเป็น “น้องสาวแห่งชาติ”
บวกกับใบหน้าที่สวยงามได้รูปและรูปร่างที่บอบบางก็ทำให้เธอเป็นที่ชื่นชอบของแฟนคลับทั้งหญิงและชาย
งานเพลงของเธอเป็นเพลงป๊อปที่ผสมผสานดนตรีที่หลากหลายทั้งบัลลาด, ริธึ่มแอนด์บลูส์, แจ๊ซ, บอสซ่า โนว่า, สะวิง, ฮิปฮอป, เรโทร ป๊อป, ป๊อป ร็อก
นอกจากนี้ก็ยังมีหลายเพลงที่มีกลิ่นอายของ Trot ซึ่งเป็นเพลงลูกทุ่งเกาหลี
IU เล่นดนตรี, แต่งเพลงให้กับทั้งตัวเองและศิลปินคนอื่นแถมยังโปรดิวซ์เพลงได้ด้วย
เธอมีเสียงร้องในโทนโซปราโนและมีความกว้างของช่วงเสียงอยู่ที่ C#3 – C6 ซึ่งถือว่าร้องเสียงไฮโน้ตได้อย่างเป็นธรรมชาติละมีความแม่นโน้ตสูง
นอกจากนี้ เธอยังร้องเสียงหลบได้ดีซึ่งทำให้เปลี่ยนเสียงได้เร็ว มีเซนส์หรือสัมผัสทางด้านจังหวะเพลงสูง เนื้อเสียงอ่อนหวานนุ่มนวลน่าฟังเป็นเอกลักษณ์ของเธอเอง
IU ได้สร้างที่ทางที่เหมาะสมกับตัวเธอเองเอาไว้ได้อย่างมั่นคงแล้วจากความมุ่งมั่นและความสามารถที่หลากหลายของเธอ
อาจจะกล่าวได้ว่ามาตรฐานในการสร้างผลงานเพลงของ IU นั้นสูงในระดับที่เรียกได้ว่านักวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดในวงการเพลงเค-ป๊อป อาจต้องดูเส้นทางการสร้างผลงานของ IU เป็นพิมพ์เขียวในการผลักดันให้ศิลปินหญิงทั้งที่เป็นศิลปินหญิงเดี่ยวและไอดอลหญิงจากเกิร์ล กรุ๊ป ที่กำลังจะปล่อยงานเพลงเดี่ยวของตัวเองออกมา
IU เคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Elle ว่า “เวลาฉันทำเพลง ฉันไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นแค่นักร้องหรือว่านักแต่งเพลงเพียงอย่างเดียว ฉันมองว่าตัวเองเป็นผู้สร้างงาน (Producer) ด้วย เป้าหมายของฉันก็คือการใช้ดนตรีในการดึงความรู้สึกส่วนลึกออกมาไม่ว่าจะต้องตีความหรือว่ามีความหมายตรงตัวก็ตาม ดนตรีคือตัวตนที่แท้จริงของฉัน ซึ่งต่างไปจากงานแสดงที่ฉันต้องสวมบทเป็นคนอื่น”
อัลบั้ม Palette ได้รับการยกย่องจากทาง Billboard ว่าเป็น “อัลบั้มเค-ป๊อป ที่ดีที่สุดแห่งปี 2017”
ส่วน Lilac (2021) เป็นงานเพลงที่โดยส่วนตัวแล้วมองว่าเป็นสตูดิโออัลบั้มที่ครบเครื่องที่สุดชุดหนึ่งของ IU (ส่วนอีพีขอยกให้อัลบั้ม Love Poem)
สไตล์ดนตรีในอัลบั้ม Lilac มีทั้ง ซิตี้ ป๊อป, ฟังก์, อินดี้ ป๊อป, บัลลาด, ซินธ์ฯ ป๊อป, อีดีเอ็ม, ดิสโก้ ไปจนถึงเร็กเก้ มีทั้งเพลงช้าและเพลงเต้นรำที่ตกผลึกทั้งในแง่ของเนื้อหาและดนตรีเพื่อเป็นการบอกลาตัวเธอเองในวัยเลข 2 นำหน้าก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ผู้หญิงในวัยเลข 3 นำหน้าอย่างมั่นใจ
ถึงแม้ว่า IU จะเคยให้สัมภาษณ์ว่าประสาทหูของเธอเริ่มเสื่อมลงจากการทำงานเพลงมานาน ส่งผลให้เธอเริ่มหาทางดูแลร่างกายมากขึ้นเพื่อที่จะทำเพลงให้ดีที่สุดต่อไปเพื่อตัวเธอเองและเพื่อแฟนเพลงทุกคนต่อไป
IU พักงานเพลงชั่วคราวเพื่อกลับมารับงานแสดงซีรีส์เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี
สำหรับงานเพลงใหม่ๆ ยังไม่มีข่าวออกมา
แต่ก็เชื่อเหลือเกินว่าเธอจะต้องคัมแบ๊กพร้อมกับเพลงดีๆ ให้แฟนๆ ได้ตื่นเต้นกันอีกไม่นานเกินรอนี้แน่นอน
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022