จรัญ พงษ์จีน : บรรยากาศมาคุ ในกระแสข่าว ปรับ ครม.ตู่ 5

จรัญ พงษ์จีน

ข่าวที่ว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” จะลงมือปรับปรุงคณะรัฐมนตรีเป็น “ตู่ 5” กลายเป็นประเด็นฮ็อตสุดในช่วงนี้ เพ่งพินิจพิจารณาจากเงื่อนไขหลายๆ ด้าน เชื่อกันว่าน่าจะเป็นการ “ปรับใหญ่” และลงมือกระทำแบบรวดเร็ว เพื่อให้ทุกอย่างเสร็จสรรพก่อนสิ้นเดือนพฤศจิกายน

จับสัญญาณได้จากบรรดา “รัฐมนตรี” ที่อยู่ในข่ายที่จะถูกปรับออก เริ่มรู้ตัวเอง ส่งคนใกล้ชิดไปเก็บข้าวของ เริ่มจาก “พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย” รองนายกรัฐมนตรี กับ “ออมสิน ชีวะพฤกษ์” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งทีมงานเข้าไปเก็บของใช้ส่วนตัว ทยอยขนออกจากตึกบัญชาการทำเนียบรัฐบาล กันล่วงหน้า

แม้จะปฏิเสธเสียงเข้มในเวลาต่อมาว่า ที่ทยอยเก็บ มิใช่เพราะ “พล.อ.ประยุทธ์” บอกใบ้อะไรให้รับทราบ เป็นเพียงการจัดระเบียบห้องทำงาน ตามกิจกรรม “5 ส.” ซึ่งปฏิบัติเช่นนี้มา 2-3 สัปดาห์แล้ว เพียงแต่ผู้สื่อข่าวไม่ได้สังเกตเห็นเองเท่านั้น

หรือแม้กระทั่งการประชุม “ครม.” เมื่อวันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน หลังจาก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เดินทางกลับจากการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 31 ที่กรุงมะนิลา “คณะรัฐมนตรี” ก็มาร่วมประชุมกันเต็มพิกัด

ไม่ขาดตกบกพร่อง แม้กระทั่ง “บิ๊กเข้-พล.ร.อ.ณรงค์” และ “ออมสิน” ทุกคนต่างสวมบท “ใจดีสู้เสือ” แม้จะมีความกดดันอะไรลึกๆ อยู่ก็ตาม

ใครจะตกเก้าอี้ เสนาบดีคนไหนจะหลุดจะร่วง มันต้องมีที่มา ก่อนลัดฟ้าไปประชุมที่ประเทศฟิลิปปินส์ มีข่าวว่า “พล.อ.ประยุทธ์” ได้แจ้งให้คณะรัฐมนตรีทราบกลางที่ประชุมแล้ว ว่าจะปรับปรุงใหม่ เป็นการบอกใบ้

“พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด” โทรโข่งรัฐบาลก็ออกมาตอกย้ำหัวตะปูด้วยความเคารพอีกครั้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้แจ้ง ครม. ที่จะถูกปรับออกเป็นรายบุคคล แต่แจ้งต่อที่ประชุม ครม. เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่านได้แจ้งให้ทราบว่าจะปรับ โดยเน้นว่า การทำงานของเรานั้นยึดประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง ไม่มีโควต้ารัฐมนตรีทหาร หรือพลเรือน

“ใครก็แล้วแต่ที่ยังอยู่ในตำแหน่ง ขอให้ทำงานต่อไป ส่วนใครถูกปรับออกขออย่าโกรธเคือง น้อยใจ เพราะทำด้วยความจำเป็น เพื่อประโยชน์ของชาติ”

นี่คือ “ที่มา”

คนที่ล่วงรู้ตัวเอง ว่าเข้าที่คับขัน โอกาสหลุดจากสนามแม่เหล็กสูง จึงได้แต่นั่งภาวนา อธิษฐานให้หลวงปู่ช่วยลูกช้างด้วยเทอญ ก็เท่านั้น

 

เชื่อกันว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” จะต้องใช้สูตร “ปรับใหญ่” น่าจะ “มากกว่า” เมื่อครั้งปรับ “ตู่ 4” คือเกิน 14 ที่นั่ง แบ่งออกเป็น 3 ภาคส่วนด้วยกัน

1. “ทหาร-พลเรือน” ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการ-ช่วยว่าการ มาตั้งแต่ “ตู่ 1” หลังปฏิวัติ-รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เท่ากับ “รากงอก” มา 3 ปีครึ่ง ผลงานลุ่มๆ ดอนๆ แค่พอไปวัดไปวา ไม่กระตือหวือหวา ส่วนใหญ่เป็น “โควต้าทหาร”

2. เสนาบดี “โลกลืม” มีปะปนระคนกัน ทั้งระนาบว่าการ และรัฐมนตรีช่วย บางรายเคยอยู่ในตำแหน่งแห่งหนอื่น สร้างผลงาน มีชื่อเสียง พอมาที่ทำงานใหม่ หายเข้าป่าช้าสู่ป่าเรไรไปเลย เอ่ยชื่อขึ้นมา ชาวบ้านจำไม่ได้ว่าเป็นรัฐมนตรีตั้งแต่เมื่อไหน กระทรวงไหน

3. “พวกเรียกแขก” แห่ง “ตำบลกระสุนตก” มีข่าวติดลบแบบรายวัน ชักน้ำเข้าลึกตลอด ทำให้ภาพรวมของรัฐบาลเผชิญกับกระแส “ขาลง” โดยในส่วนนี้บางรายมีความผูกพันใกล้ชิดกับ “ท่านผู้นำตู่” อาจจะไว้ไมตรี แค่ “โรเตชั่น” หมุนเวียนตำแหน่งเหมือนนักฟุตบอล เล่นกองหน้า ยิงประตูไม่เป็น ก็ย้ายไปเล่นกองกลาง ทะนุถนอมน้ำใจกันไว้ ไม่ให้คุขุ่น

ถอดรหัสออกมาเป็นรายชื่อบุคคล ทั้ง “เก่าเก็บ-โลกลืม-กระสุนตก” ไม่ต้องบอกว่า ใครหลุดตำแหน่ง ใครได้ต่อวีซ่า…โปรดใช้วิจารณญาณกันเอาเอง

1. “พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ” อดีตเคยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อครั้ง “ประยุทธ์ 1” และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในปัจจุบัน

2. “พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย” จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นรองนายกฯ

3. “นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มาตั้งแต่สมัย “ตู่ 1” ตราบถึงปัจจุบัน

4. “ออมสิน ชีวะพฤกษ์” จากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ

5. “ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล” เคยดังเอามากๆ เมื่อครั้งว่าการสำนักนายกฯ แต่เงียบสงบไปหน้าตาเฉย กับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

6. “พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชื่อเงียบหายไปเลย

7. “สุธี มากบุญ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ถูกบดบังรัศมีโดย “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รัฐมนตรีว่าการ ชื่อเลยหล่นขอบจอไปอย่างน่าเสียดาย

8. “นางอภิรดี ตันตราภรณ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รับศึกหนักมากกว่าช่วงที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์หลายเท่า

9. “พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ถูกแซะเก้าอี้หนัก โอกาสหักมีเปอร์เซ็นต์สูงมิน้อยทีเดียว

สำหรับคนที่มีข่าวว่า “พล.อ.ประยุทธ์” จะดึงมาเสริมใยเหล็กใน ครม. “ตู่ 5” ถูกปล่อยออกมาว่า เบอร์หนึ่งเลยชื่อ “กานต์ ตระกูลฮุน” อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ปูนซิเมนต์ไทย ปัจจุบันเป็นฝ่ายบริหารแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส เป็นคนที่ “บิ๊กตู่” อยากดึงตัวไปร่วมงานมากที่สุด แต่เจ้าตัวยังไม่ตัดสินใจ ถ้าตกลงถือว่าโอเคมากที่สุดคนหนึ่ง

รายที่สองที่ถูกปล่อยคือ “ยุคล ลิ้มแหลมทอง” อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 3. “ไพรินทร์ ชูโชติถาวร” อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปตท. ที่ล่าสุด “บิ๊กตู่” ดึงไปร่วมงานเป็นกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ทีมเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 4. “วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์” อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ไม่ไปเป็นว่าการก็ระนาบช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 5. ชื่อ ก.ไก่นำหน้า เคยเป็นซีอีโอ ไออาร์พีซี ในเครือข่ายของ ปตท.

ขอย้ำอีกครั้งว่า อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ “โปรดใช้วิจารณญาณ”