Red Nails

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

หนัง Conan the Barbarian ภาคแรก ปี 1982 เล่าเรื่องโคแนนตั้งแต่แรกเกิด มีนางเอกชื่อ วาลีเรีย ซึ่งชื่อนี้ได้มาจากนวนิยายโคแนนของโรเบิร์ต อี โฮเวิร์ด เรื่อง Red Nails โดยที่ไม่มีอะไรเกี่ยวกันกับต้นฉบับเลย

พ่อมดงูที่ฆ่าพ่อแม่และเผาหมู่บ้านโคแนนตอนเป็นเด็กชื่อ ทูลซา ดูม ก็เป็นพ่อมดชั่วร้ายที่เป็นคู่ปรับตลอดกาลของคิงคัล ไม่นับว่าโคแนนไม่เคยต้องเป็นแกลดิเอเตอร์อย่างที่เห็นในหนัง เป็นคิงคัลต่างหากที่เคยเป็นแกลดิเอเตอร์ก่อนจะมาเป็นราชา

คิงคัลเป็นนักสู้ที่แบกน้ำหนักมงกุฎไว้บนศีรษะและเป็นต้นแบบของโคแนนในเวลาต่อมา มีเรื่องหนึ่งที่โคแนนโดดเด่นออกจากคิงคัลอย่างเห็นได้ชัดคือเรื่องผู้หญิง

โคแนนออกอาการไล่ตามผู้หญิงหลายครั้ง ครั้งหนึ่งคือไล่ตามเร้ดซอนย่าโดยบทบรรยายเขียนไว้ชัดเจนว่าด้วยแรงกำหนัดต้องการสมสู่ แต่เร้ดซอนย่าในหนังสือการ์ตูนมิใช่งานเขียนของโฮเวิร์ด หากเป็นงานเขียนของนักเขียนการ์ตูนรอย โทมัส

นวนิยายเรื่อง Red Nails เป็นงานเขียนของโฮเวิร์ดและเป็นงานเขียนชุดโคแนนเรื่องสุดท้ายใน 18 เรื่องที่ตีพิมพ์ปีที่โฮเวิร์ดยังมีชีวิตอยู่ แต่ถ้านับเวลากันละเอียดเรื่องนี้ตีพิมพ์หลังจากที่โฮเวิร์ดยิงตัวตายในเดือนมิถุนายน 1936 เพียงไม่นาน โดยที่เขาเขียนเป็น 3 ตอน ตอนแรกวางตลาดในเดือนกรกฎาคม

โฮเวิร์ดเขียนเรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องก่อนๆ เนื้อเรื่องดุดันกว่า เซ็กซ์ชัดกว่า และโคแนนออกอาการติดตามหญิงแกร่งน่าเย้ายวนโดยไม่ปิดบัง หนังสือถึงเลือดถึงเนื้อมากกว่าที่เคยเป็นมาก่อน

เขาเขียนจดหมายถึงเฮช พี เลิฟคราฟท์ ถึงความขัดสนทางการเงินที่สำนักพิมพ์ไม่จ่ายค่าเขียนเรื่องให้แก่เขาในสภาวะที่เขามีรายจ่ายเรื่องความเจ็บป่วยของคุณแม่

รอย โทมัส เขียน Red Nails เป็นการ์ตูนสามตอนจบเช่นเดียวกัน ด้วยฝีมือการเขียนภาพและลงสีโดยแบรี่ วินด์เซอร์-สมิธ เช่นเดิม หนังสือการ์ตูนได้รับการชื่นชมมากจากนักวิจารณ์และนักอ่านได้รับการตีพิมพ์ทั้งในรูปแบบขาวดำถมดำกับสี่สีอึมครึมหลายต่อหลายครั้ง

ผมมีทั้งสองเวอร์ชั่นด้วยงดงามไปคนละแบบ มีความพยายามจะสร้างเรื่องนี้เป็นหนังแต่ไม่สำเร็จ

เนื้อเรื่องออกจะซับซ้อนแต่คงการผจญภัยในแดนลึกลับอันจะเป็นต้นแบบของหนังแนวนี้อีกหลายเรื่องในเวลาต่อมาโดยเฉพาะหนังตระกูลมัมมี่คืนชีพหรือหญิงสาวอมตะ ที่สมัยใหม่รู้จักกัน เช่น ไตรภาค Mummy 1999 ฉบับเบรนแดน เฟรเซอร์ สมัยยังหนุ่มแน่นร่างยักษ์มัดกล้ามน่าจะพอไปวัดกับอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ได้

มาอ่านด้วยกันครับ

เปิดเรื่องด้วยหญิงสาวในชุดทะมัดทะแมงพักม้าเพื่อดื่มน้ำที่หนองน้ำแห่งหนึ่ง

หากไปอ่านต้นฉบับโฮเวิร์ดบรรยายรูปร่างและการแต่งกายของเธอเต็มหน้า รอยก็วาดภาพตามเฉกเช่นเดียวกัน

เธอเป็นหนึ่งในกลุ่มโจรสลัดแดงและเพิ่งสังหารชายโฉดที่หวังข่มขืนเธอมาหมาดๆ

แต่ว่าตอนนี้มีชายอีกคนติดตามเธอมา

ชายที่ติดตามมาคือโคแนน เขาเลื่อมใสระคนหลงใหลหญิงแกร่งรูปร่างชวนมองรายนี้ เธอชื่อวาลีเรีย เขาปรากฏตัวและขอติดตาม “ใกล้ชิด” ดื้อๆ แต่ไม่ทันจะอะไรยังไงพลันปรากฏสัตว์ยักษ์สีแดงคล้ายสเตโกซอรัสไล่ต้อนชายหนุ่มหญิงสาวหนีขึ้นหน้าผาสูง

เหตุเพราะสัตว์ร้ายนี้มีเกราะแข็งฟันแทงไม่เข้า โคแนนใช้ผลไม้พิษอาบปลายหอกแทงลิ้นของสัตว์ยักษ์ถึงตาย จากนั้นชวนวาลีเรียเดินทางไปที่ปราสาทที่เห็นตั้งโดดเดี่ยวบนพื้นราบที่ไม่มีอะไรเลยในระยะไกล

เมื่อสองคนเข้าใกล้จึงพบว่าปราสาทนั้นสร้างด้วยโลหะมีซากปรักหักพังของท่อส่งน้ำด้านนอก แต่นอกจากนี้ไม่มีอะไรอีกเลยสุดลูกหูลูกตา

วาลีเรียตั้งข้อสังเกตว่าชาวเมืองจะมีอะไรกินถ้าไม่มีพืชพันธุ์ธัญญาหารให้เห็นเลยแม้แต่น้อย

สองหนุ่มสาวเข้าไปในตัวปราสาท แล้วก็ต้องตะลึงว่าเป็นปราสาทที่ว่างเปล่ามีห้องโถงขนาดมโหฬารที่ตรงกลางทอดยาวเป็นทางเดินจากหน้าไปหลังโดยมีห้องหับซ่อนอยู่ด้านข้างเรียงรายขึ้นไปหลายชั้น

รอบโถงทางเดินขนาดใหญ่นี้บุด้วยหยกสีเขียวงดงามไปทุกพื้นที่ อัญมณีล้ำค่าแฝงอยู่ในโครงสร้างโลหะแปลกประหลาด

ช่างเป็นสถานที่ที่มีกลิ่นอายของความตายเนิ่นนาน

(จะรู้สึกได้ว่าบทบรรยายช่วงนี้ในหนังสือของโฮเวิร์ดเองอาจจะได้อิทธิพลจากงานเขียนของเลิฟคราฟท์ นั่นคือให้ความรู้สึกไม่น่าไว้วางใจโดยไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรมากมาย)

โคแนนและวาลีเรียแยกทางกันสำรวจ วาลีเรียไปพบชายร่างเล็กไม่น่าวางใจชื่อเท็คโชต์ล หลังจากฉากต่อสู้กับชายลึกลับอีกกลุ่มหนึ่งพอหลั่งเลือดนองห้องโถง เท็คโชต์ลก็ชักนำสองหนุ่มสาวไปพบราชาออลเม็ค

ราชาออลเม็คเป็นชายพุงพลุ้ยเคราดำกักขฬะ ที่แท้เมืองปราสาทนี้มีมาก่อนที่คนพวกนี้จะมาถึง เมืองนี้มีชื่อว่าซูโชต์ล

ในตอนแรกชนเผ่าที่มาถึงเป็นชนเผ่าเดียวกัน ทาสในเมืองคนหนึ่งชื่อโทลคีเม็คทรยศเจ้าเมืองเปิดประตูให้ข้าศึกเข้ามาและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่อยู่ก่อน

ข้าศึกที่ว่าคือบรรพบุรุษของราชาออลเม็คนั่นเอง เป็นพี่น้องสองคนชื่อ เท็คคูลี กับ โซทาแลง ซึ่งจะปกครองเมืองปราสาทร่วมกันจนกระทั่งวันหนึ่งเท็คคูลีลักพาเจ้าสาวของโซทาแลงไป เมืองจึงแตกออกเป็นสองส่วน

ราชาออลเม็คและราชินีทาสคีล่าเป็นพวกที่สืบเชื้อสายมาจากเท็คคูลี ส่วนทาสโทลคีเม็คผู้ทรยศปลุกปั่นสองพี่น้องให้ฆ่ากันเองแล้วหายไปในสุสานใต้ดินนั้นไม่มีใครเคยเห็นอีกเลย หลังจากนั้นลูกหลานของสองพี่น้องก็ฆ่าฟันกันเรื่อยมาจนถึงวันนี้

ราชินีทาสคีล่าออกอาการสนใจวาลีเรียและหมายมอมยาเธอ แต่ไม่ทันจะอะไรยังไงพวกโซทาแลงบุกเข้ามา เกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ วาลีเรียได้รับบาดแผลฉกรรจ์แต่ก็ขับไล่ศัตรูไปได้

ราชาออลเม็คอุ้มวาลีเรียเข้าห้องหมายปลุกปล้ำแต่กลับถูกขัดขวางโดยราชินีทาสคีล่า

ที่แท้ทาสคีล่าคือเจ้าสาวที่เป็นต้นเหตุให้สองพี่น้องฆ่ากันเองตั้งแต่ครั้งโบราณ เธอเป็นอมตะ

ทาสคีล่าต้องการความสาวของวาลีเรียเพื่อยืดความสาวของเธอเอง เธอจับวาลีเรียไปขึงพืดเพื่อทำพิธีสังเวย (พล็อตสาวอมตะและการฟื้นคืนชีพนี้จะไปปรากฏในหนังภาคสองของโคแนน Conan the Destroyer ปี 1984 ที่โคแนนเองก็เกือบจะเชื่อว่าสามารถชุบชีวิตคนรักวาลีเรียที่ตายไปแล้วขึ้นมาได้)

โคแนนฆ่ามือสังหารสองคนที่ราชาออลเม็คส่งมาลอบทำร้าย เขาฆ่าราชาออลเม็ค ตามด้วยฆ่าผีดิบโทลคีเม็คที่ออกมาจากสุสานใต้ดินพร้อมคทาลำแสงพิฆาต โคแนนเข้าขัดขวางราชินีทาสคีล่าอย่างบ้าคลั่ง และระหว่างที่จะเพลี่ยงพล้ำต่อเวทมนตร์ของราชินีนั้นเอง วาลีเรียซึ่งหลุดจากพันธนาการก็แทงกริชเข้ากลางหลังทาสคีล่าทะลุหัวใจถึงตาย

เป็นการ์ตูนที่เซ็กซ์อบอวลอยู่รอบๆ โดยไม่มีฉากโป๊หรือเข้าด้ายเข้าเข็มเลยกับการฆ่าบั่นหัวติดๆ กันไม่หยุดในครึ่งหลัง

จะว่าไปเรื่องราวทำนองนี้เป็นหนังเกรดบีอยู่ยุคหนึ่งก่อนที่จะถูกยกระดับขึ้นมาเป็นซีรีส์แฟนตาซีมากมายหลายเรื่องที่สตรีมกันอยู่ทุกวันนี้

 

เขียนมายืดยาวหลายตอน

เพื่อระลึกถึงนักเขียนที่บ้านเราอาจจะไม่รู้จักมากนักคือ โรเบิร์ต อี โฮเวิร์ด และ เฮช พี เลิฟคราฟท์

สองคนนี้รู้จักกัน มีประวัติชีวิตที่ยากลำบากคล้ายๆ กัน

และถึงแก่กรรมในเวลาห่างกันไม่นานโดยที่อายุยังน้อยทั้งคู่ •

 

การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์