เจาะคดี ‘แตงโม’ เฟส 2 ‘แม่’ เปิดหลักฐานใหม่ ‘ปอ-เบิร์ต’ รับสารภาพ ฟ้องเพิ่มเรียก 40.8 ล้าน

อาชญากรรม | อาชญา ข่าวสด

 

เจาะคดี ‘แตงโม’ เฟส 2

‘แม่’ เปิดหลักฐานใหม่

‘ปอ-เบิร์ต’ รับสารภาพ

ฟ้องเพิ่มเรียก 40.8 ล้าน

 

ดูท่าจะไม่จบลงง่ายๆ เสียแล้ว สำหรับคดีการเสียชีวิตของอดีตดาราสาว แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ ที่เพิ่งครบรอบเหตุการณ์ 1 ปีไปไม่นาน

เมื่อคุณแม่ของแตงโม ออกมาเปิดเผยว่ามีหลักฐานใหม่ อันจะเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว พร้อมทั้งยื่นขอเป็นโจทก์ร่วมฟ้องกับอัยการในคดีใหม่

และดูจะไม่พอใจกับยอดเงินเยียวยาที่ได้ตกลงกับกลุ่มจำเลยไปก่อนหน้านี้ ที่ตกลงกันเป็นยอดเงินประมาณ 9.2 ล้านบาท

พร้อมยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายอีก 40 ล้านบาท นำมาซึ่งปฏิกิริยาจากฝ่ายจำเลย และการออกมาตอบโต้ ฟ้องกลับในเรื่องหมิ่นประมาท

ในขณะที่ทางคดีความ 2 จำเลยหลักในคดี ทั้งปอ และโรเบิร์ต กลับคำรับสารภาพในคดีแตงโมทุกข้อกล่าวหา ทำให้ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้

ส่วนจำเลยอีก 4 คนให้การปฏิเสธ จึงต้องแยกเป็นอีกคดีฟ้องใหม่ โดยมีแม่แตงโมเป็นโจทก์ร่วม

คดีจะจบลงอย่างไร คงต้องติดตาม!!

แม่เปิดหลักฐานใหม่

แม่แตงโมเผยหลักฐานใหม่

ความสนใจในเรื่องคดีแตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ กลับเป็นกระแสอีกครั้ง เพราะนอกจากจะเป็นห้วงแห่งการครบรอบการเสียชีวิต 1 ปี เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็มีกระแสข่าวว่าคุณแม่ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม เตรียมยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม จากเดิมที่เคยตกลงกันที่ 9.2 ล้านบาท เพิ่มอีก 40.8 ล้านบาท รวมเป็น 50 ล้านบาท

ขณะที่นางภนิดาก็ออกมาให้สัมภาษณ์ในรายการข่าว ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง โดยยืนยันว่ามีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย จะ 100 ล้านบาทก็ได้ แต่เลือกที่จะเลือก 50 ล้านบาท เพราะตอนแรกบอกแล้วว่าจะเรียก 30 ล้านบาท แต่เมื่อไปตรวจสอบเอกสารรายรับของน้องโม พบว่ามีรายรับมากกว่า 50 ล้านบาท ยืนยันว่าเป็นสิทธิที่พึงได้

ต่อมาในการขึ้นศาล จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ศาลนัดพร้อมทั้งฝ่ายจำเลยและฝ่ายผู้เสียหาย โดยจำเลยทั้ง 6 ประกอบด้วย นายตนุภัทร หรือปอ เลิศทวีวิทย์, นายไพบูลย์ หรือโรเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์, น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก จุฑาสุขสวัสดิ์, นายวิศาพัช หรือแซน มโนมัยรัตน์, นายนิทัศน์ หรือจ๊อบ กีรติสุทธิสาทร และนายภีม หรือเอ็ม ธรรมธีรศรี

ขณะที่นางภนิดาเดินทางมาพร้อมนายชัยวัฒน์ โลมากุล ที่ปรึกษากฎหมายและทนายความ พร้อมเปิดเผยว่า จะนำพยานวัตถุเป็นหลักฐานใหม่ในคดี เพื่อยื่นต่อศาล ขอให้ใช้เป็นพยานวัตถุเพื่อนำสืบ เป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และจะขอพูดคุยกับจำเลยทั้งหมดในเรื่องค่าชดเชยเยียวยา

ด้านนายชัยวัฒน์เผยว่า คุณแม่ภนิดามีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายตามสิทธิในคดีแพ่งอยู่แล้ว ไม่ต้องรอในส่วนคดีอาญา สามารถเรียกร้องได้ตลอดเวลา ไม่จำกัดจำนวน ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 44/1 แม้จะทำสัญญาประนีประนอมกับฝ่ายจำเลยไปแล้วก็ตาม เพราะคดีนี้ยังไม่ถึงการพิพากษาเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทำให้สัญญาเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อพบพยานวัตถุใหม่

โดยหลักฐานชิ้นใหม่นี้จะยื่นประกอบการพิจารณากับศาล และพร้อมแถลงต่อศาลขอเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการในการยื่นฟ้องใหม่ด้วย

นางภนิดายังเปิดเผยอีกว่า หลักฐานใหม่นี้คือคลิปจากกล้องหน้ารถของแตงโม ซึ่งบันทึกเสียงสนทนาของคนบนเรือ ที่พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือทั้งหมด พร้อมระบุว่าหลักฐานชิ้นนี้ทนายความยื่นขอของกลางจากตำรวจที่รักษาเอาไว้ร่วมปี มาตรวจสอบดู พบว่ามีข้อมูลบางส่วนถูกลบไป เมื่อให้ผู้เชี่ยวชาญกู้กลับมา พบว่าในรถมีการสนทนาของคนในรถ 2 คน ถึงเรื่องราวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ก็มั่นใจกับหลักฐานชิ้นนี้ จำเสียงบุคคลในคลิปได้ชัดเจน

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า หลักฐานดังกล่าว ภาพจากกล้องหน้ารถในเมมโมรี่การ์ด ที่ติดตั้งไว้ในรถยี่ห้อมาสด้า สีดำ ทะเบียน ฒว 13 กรุงเทพมหานคร ของดารานักแสดงสาวแตงโม เป็นภาพเหตุการณ์ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ที่เกิดเหตุ

หลักฐานใหม่ชิ้นนี้จะนำไปซึ่งบทสรุปอย่างไรคงต้องติดตาม!!!

แซนลั่นฟ้องกลับ

‘ปอ-เบิร์ต’ สารภาพทุกข้อหา

อย่างไรก็ตาม มีข้อเปลี่ยนแปลงทางคดี เมื่อฝ่ายคุณแม่แตงโมยื่นเรื่องของเป็นโจทก์ร่วม และยื่นฟ้องใหม่จำเลยทั้ง 6 คน แต่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 และ 2 ประกอบด้วย ปอ ตนุภัทร และโรเบิร์ต ไพบูลย์ แถลงยอมรับเปลี่ยนแปลงคำให้การในชั้นศาลแล้ว

โดยเปลี่ยนเป็นให้การรับสารภาพทุกข้อหา ทำให้ศาลจังหวัดนนทบุรีมีคำสั่งให้นางภนิดาเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการจังหวัดนนทบุรี ยื่นฟ้องจำเลยที่เหลือทั้ง 4 คน ที่ให้การปฏิเสธทุกข้อหาเป็นคดีใหม่ในความผิดฐานร่วมกันประมาท

ทั้งนี้ นายตนุภัทรหรือปอ ถูกอัยการยื่นฟ้องในความผิดรวมกัน 6 ข้อหา คือ กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่มีประกาศนียบัตรรับรองถูกต้องตามกฎหมาย, ใช้เรือที่มีใบอนุญาตสิ้นอายุ, ทิ้งของปฏิกูลลงแม่น้ำ, ไม่ติดชื่อเรือเป็นอักษรไทยและภาษาอังกฤษที่หัวเรือ และแจ้งความเท็จ

ส่วนนายไพบูลย์หรือโรเบิร์ต ถูกแจ้ง 4 ข้อหา คือกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, เป็นผู้ควบคุมเรือ โดยไม่มีประกาศนียบัตรรับรองถูกต้องตามกฎหมาย, ใช้เรือที่มีใบอนุญาตสิ้นอายุ และทิ้งสิ่งของปฏิกูลลงแม่น้ำ

โดยนางภนิดาระบุว่า รู้สึกเซอร์ไพรส์ รู้สึกดีใจและพอใจที่ปอกับโรเบิร์ตให้การรับสารภาพทุกข้อหา โดยที่ตนไม่คิดมาก่อนว่าทั้งสองจะรับสารภาพ เพราะตั้งแต่รับเป็นลูกมาปีหนึ่งแล้วเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย ตนมองว่าทั้งสองคนมาถูกทางแล้วที่รับสารภาพ เพราะถ้าสู้ต่อไปอาจจะแย่กว่าเดิมจากพยานหลักฐานที่ตนได้เป็นเสียงบันทึกในรถของคนที่อยู่ในเหตุการณ์บนเรือ

ส่วนฝ่ายจำเลยที่เหลืออีก 4 คน อยู่ที่ตัวเขาเลยว่าจะรับสารภาพหรือไม่ ซึ่งทางตนก็ยังคงยืนยันที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจำนวน 40.8 ล้านบาท ต่อไปตามเดิมจากจำเลยทั้ง 4 คนที่เหลือ ซึ่งยังไม่ได้มีการเจรจาพูดถึงในเรื่องการชดเชย

ทั้งนี้ ศาลมีคำสั่งนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 ส่วนคดีที่นางภนิดาร่วมเป็นโจทก์ยื่นฟ้องกับอัยการของจำเลยที่ 3-6 จะยื่นฟ้องในวันที่ 17 มีนาคม 2566 และนัดพร้อมตรวจสอบพยาน หลักฐานเป็นคดีใหม่ในวันที่ 28 เมษายน 2566

ขณะที่แซน วิศาพัช กล่าวว่า แปลกใจมากและไม่รู้มาก่อนเลยว่าปอกับโรเบิร์ตจะกลับคำรับสารภาพในชั้นศาล เพราะที่ผ่านมาทั้งสองไม่เคยบอกมาก่อน และเพิ่งมารู้วันนี้เช่นเดียวกัน จึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างเซอร์ไพรส์สำหรับตน แต่ก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะหลังจากนี้ตนก็จะเดินหน้าสู้คดีให้ถึงที่สุดโดยไม่ต้องเกรงใจกัน

เดือดกันตั้งแต่ยังไม่ยื่นฟ้อง!!

เดือดต่อ! แซนฟ้องเรียก 40.8 ล้าน

นอกจากนี้ แซนยังระบุอีกว่า เตรียมที่จะฟ้องกลับคุณแม่อย่างแน่นอน เนื่องจากก่อนหน้านี้ คุณแม่กับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้ฟ้องแซนกับพวกในข้อหาฆาตกรรมมาก่อน ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง โดยมีลายเซ็นของคุณแม่เซ็นไว้ในเอกสารที่ฟ้อง จึงต้องดำเนินการฟ้องกลับและเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 40.8 ล้านบาทเช่นกัน ส่วนจะฟ้องเอาผิดกับคุณแม่ข้อหาอะไรนั้น ขอกลับไปปรึกษากับทีมทนายก่อน

ต่อมาแซนโพสต์ข้อความในอินสตาแกรม ระบุว่า ข้อเท็จจริงสำหรับคุณแม่และทางทีมทนายเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องไม่บิดเบือนนะคะ แซนเป็นผู้โดยสารไปในฐานะเพื่อน ไม่ใช่ผู้รักษาความปลอดภัยประจำเรือ ที่จะต้องมีหน้าที่คอยดูแลรับผิดชอบผู้โดยสารทุกคน

ต้องเข้าใจด้วยนะคะว่าอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด อย่าใช้วิกฤตเป็นโอกาสเลยนะคะ ทุกคนสูญเสียมาพอแล้ว ถ้ายังไม่จบ แซนจะไม่เพิกเฉยต่อทุกความผิด ทุกการกระทำ จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แซนจะใช้ทุกสิทธิที่มีปกป้องตัวเองให้ถึงที่สุดค่ะ

ขาไปเป็นผู้โดยสาร ขากลับเป็นจำเลย ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน อุบัติเหตุคนตกรถโดยสาร โดนข้อหาประมาททั้งคันไหมคะ ทีมทนายใหม่ฝ่ายโจทก์ปล่อยข่าวปลอมทำให้แซนเสียหายแบบนี้ เข้าข่ายหมิ่นประมาท พวกคุณเป็นทนายน่าจะทราบความรู้พื้นฐานพวกนี้อยู่แล้ว แปลว่าคุณตั้งใจกระทำความผิดโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายเลยนะคะ

ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องเงิน 40.8 ล้านบาท ก็ถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์ เพราะค่าเสียหายที่แซนจะฟ้อง ตรงกับตัวเลขที่นางภนิดาจะยื่นขอค่าเสียหายเพิ่ม ซึ่งแต่เดิมตกลงในการประนอมหนี้ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2565 กันที่ 9.2 ล้านบาท อันประกอบด้วยเงินสดและแคชเชียร์เช็ค 2 ล้านบาท และจ่ายเงินรายเดือนให้อีกเดือนละ 3 หมื่นบาท เป็นเวลา 20 ปี ขณะที่กระติกและแซน ให้ของขวัญคุณแม่เป็นต่างหูมุก มูลค่า 5 หมื่นบาท

เป็นอีกคดีที่ยืดเยื้อแน่นอน!!!