ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 10 - 16 มีนาคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | โลกทรรศน์ |
ผู้เขียน | อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์ |
เผยแพร่ |
จีนประกาศเพิ่มงบประมาณการป้องกันประเทศ ทางการจีนประกาศว่า การเพิ่มงบประมาณการป้องกันประเทศนี้มีความเหมาะสม
Wang Chao โฆษกสภาประชาชนแห่งชาติจีนกล่าวว่า…การพัฒนาการทันสมัยของทหารจีน จะไม่ก่อการคุกคามประเทศไหน…1
จีนมักกล่าวเป็นประจำว่า การใช้จ่ายทางทหารเพื่อเป้าหมายป้องกันประเทศ เปอร์เซ็นต์การเพิ่มขึ้นยังต่ำเมื่อเปรียบเทียนกับ GDP ของประเทศ
จากรายงานของ Reuters ดังกล่าวสร้างความกังวลของประชาคมโลกต่อจีนไม่น้อย เพราะสงครามรัสเซีย-ยูเครนยังไม่จบสิ้น การแบ่งค่ายของชาติมหาอำนาจ การร่วมซ้อมรบของทั้งฝ่ายสหรัฐอเมริกาและฝ่ายรัสเซีย ถึงแม้มีหลายประเทศเพิ่มงบประมาณการป้องกันประเทศ
แต่การเพิ่มงบป้องกันประเทศ อาจเพิ่มสมรรถนะการแข่งขันทางการเมืองของจีน ช่วงที่จุดยืนด้านกิจการระหว่างประเทศสำคัญยิ่งยวดต่อความขัดแย้งระหว่างประเทศขณะนี้
อย่างไรก็ตาม งบฯ ป้องกันประเทศจีนเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่การที่จีนเป็นผู้ส่งออกอันดับที่ 6 ในบรรดา 25 ประเทศผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่ของโลก พร้อมความเปลี่ยนแปลงทั้งเพิ่มการผลิต ขยายการขาย พัฒนาอาวุธเทคโนโลยีอาวุธสูงขึ้น ล้วนต้องวิเคราะห์บทบาทด้านผู้ผลิตอาวุธจีน
โดยบทความนี้นำบางส่วนของการพัฒนานี้มาเท่านั้น
ยุคใหม่ของอาวุธจีน
หลังงานแสดงสินค้าด้านการทหารประจำปีของรัสเซียจบลงเมื่อเดือนสิงหาคม 2022 ที่ผ่านมา นาย Alexander Mikheyev หัวหน้าหน่วยงานส่งออกอาวุธของประเทศรัสเซียคาดการณ์ว่า รายได้จากการส่งออกอาวุธของประเทศรัสเซียปี 2022 จะลดต่ำลง 26% เมื่อเทียบกับรายได้ปีที่แล้ว
รัสเซียยังคงเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกา ตามรายงานของสถาบันวิจัยด้านสันติภาพชั้นนำของโลก Stockholm International Peace Research Institute
นับว่าเป็นการคาดการณ์ต่ำกว่ามากเรื่องรายได้การขายอาวุธ แต่เป็นที่ชัดเจนว่า เมื่อรัสเซียตัดสินใจรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 กิจการทหารของรัสเซียต้องทำการทดแทนอาวุธของตัวเอง เนื่องจากมีการแซงก์ชั่นจากสหรัฐอเมริกา และผู้ซื้ออาวุธกังวลการสู้รบในยูเครนจะลดความสามารถการส่งออกอาวุธของรัสเซีย
ขณะที่สหรัฐอเมริกาครองตลาดอาวุธระดับโลก มีอาวุธราคาแพง อาวุธเทคโนโลยีสูง ส่วนรัสเซียพยายามอย่างยากลำบากต่อสถานภาพของตนที่เป็นประเทศผู้จัดจำหน่าย อาวุธที่มีความสามารถ และมีประสิทธิภาพทางราคา แต่กลับเป็นอาวุธเทคโนโลยีระดับรองลงมา
ภาษาที่ใช้เรียกอาวุธเหล่านี้ว่า Value arms บทความนี้จะใช้คำว่า อาวุธคุณค่ารอง
มีประเทศที่มีรายได้น้อย เช่น เมียนมา แซมเบียและซิมบับเว ซึ่งซื้ออาวุธคุณค่ารองเหล่านี้
ส่วนประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ได้แก่ บราซิล อินเดีย และไทยด้วย ก็ซื้ออาวุธพวกนี้จำนวนมาก
มีการประมาณการว่า ปี 2022 ค่าใช้จ่ายการป้องกันประเทศส่วนใหญ่ในแอฟริกา เอเชียและประเทศในละตินอเมริกา รวมมูลค่าราว 246 พันล้านเหรียญดอลลาร์
เมื่อสหรัฐอเมริกาไม่ได้เข้าไปแข่งขันในตลาดอาวุธคุณค่ารอง แล้วรัสเซียยังมีความยุ่งยากหลายประการในช่องว่างในตลาดอาวุธกลุ่มนี้ ประเทศที่จะเข้ามาเติมช่องว่างอันนี้คือ จีน
ในแง่การศึกษาทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เราอาจสรุปได้ว่า โดยหลักการ จีนสามารถให้การขายอาวุธที่ใช้ในการป้องกันประเทศ เพื่อสร้างความเข้มแข็งของประเทศที่สัมพันธ์กับชนชั้นนำของประเทสต่างๆ และใช้การขายอาวุธเหล่านี้เพื่อรักษาสถานะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และมีศักยภาพจำกัดความสามารถทางการทหารของประเทศนั้น หากจีนขายอาวุธที่มีความสามารถต่ำมากๆ แก่ประเทศนั้น ที่สำคัญ การเพิ่มขึ้นของการขายอาวุธของจีน ลดทอนอิทธิพลสหรัฐอเมริกาต่อการแข่งขันทางยุทธศาสตร์ที่กำลังดำเนินอยู่
แต่แนวโน้มการลดทอนอิทธิพลสหรัฐอเมริกายังไม่ชัดเจนนัก นี่ยังคงเปิดทางให้สหรัฐอเมริกาและพันธมิตรดำเนินการทดแทนอาวุธรัสเซียที่ผลิตได้น้อยลงและถูกกีดกันด้วยการแซงก์ชั่นของชาติตะวันตก โดยอาวุธที่จะมาทดแทนอาวุธรัสเซีย น่าจะเป็นอาวุธในราคาที่พอรับได้
แนวทางเพื่อครอบครองผู้นำด้านอาวุธ
จากข้อมูลปัจจุบัน จีนอยู่ในอันดับที่ 6 ของ 25 บริษัทผลิตอาวุธรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่จีนมีสัดส่วนเพียง 5% ของตลาดการค้าอาวุธโลก ซึ่งต่ำกว่าอย่างสำคัญเมื่อเทียบกับรัสเซีย ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 19% ของตลาดการค้าอาวุธโลก
ตัววัดนี้แสดงว่า ศักยภาพของจีนเพื่อขยายสัดส่วนในตลาดอาวุธโลกยังมี
จีนมีความได้เปรียบหลายประการ ที่อนุญาตให้จีนก้าวสู่การครอบครองตลาดอาวุธได้
ประเด็นแรกคือ นโยบายการส่งออกอาวุธ นโยบายการส่งออกอาวุธของจีนอยู่ในช่วงการดำเนินการ แต่จีนก็มีภาระกระทบกระเทือนการส่งออกอาวุธ เช่น เรื่องสิทธิมนุษยชนและเสถียรภาพของระบอบการปกครอง
ทั้งนี้ ควรเข้าใจด้วยว่า การแลกเปลี่ยนอาวุธของจีน ไม่ใช่แค่เรื่องเงินและรายได้ แต่อาวุธจีนเปิดโอกาสให้จีนเข้าถึงท่าเรือต่างๆ และทรัพยากรธรรมชาติของประเทศผู้รับอาวุธด้วย
มีการยกตัวอย่างการส่งอาวุธ เช่น เรดาร์ จรวดติดขีปนาวุธ รถหุ้นเกราะแก่เวเนซุเอลาและอิหร่าน เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า จีนสามารถเข้าถึงอย่างมั่นคงต่อเนื่องในน้ำมันจากประเทศเหล่านี้ได้
ประการที่สอง เรื่องใบอนุญาต (license) ผลิตอาวุธ จีนมีประวัติการเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตอาวุธของรัสเซีย การมีใบอนุญาตนี้ได้เพิ่มจำนวนลูกค้าในตลาดอาวุธของจีน เช่น จีนและรัสเซียได้ลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ 1996
จีนได้ใบอนุญาตผลิตเครื่องบินเจ๊ตรัสเซียรุ่น Su-27 Sk Flanker B Fighter ด้วยใบอนุญาตการผลิตและการดำเนินการนี้ ได้ช่วยให้จีนเป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่อันดับ 2 ให้แองโกลา ไนจีเรียและยูกันดา และเป็นผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ที่สุดด้านอาวุธให้บังกลาเทศและเมียนมา
ก่อนความยุ่งยากในปัจจุบันของรัสเซียเนื่องจากสงครามในยูเครน จีนกระจายอาวุธของตนไปแทนที่อาวุธของรัสเซีย เพื่อแข่งขันกับอาวุธเทคโนโลยีสูงของชาติตะวันตก เช่นทั้งหมดในแอฟริกาใช้อาวุธจีน
แต่การขายอาวุธเพิ่มขึ้นในภูมิภาคแอฟริกายังเป็นเพียง 19% ของการส่งออกอาวุธจีน จีนเริ่มขยายโครงข่ายการผลิตอุตสาหกรรมอาวุธ ปากีสถานเป็นตัวอย่างของผู้ผลิตร่วมระบบอาวุธจีน
ประการที่สาม ความได้เปรียบสุดท้ายการผลิตและขายอาวุธจีนคือ ประเด็น แร่หายาก (rare earth) กลุ่มโลหะ คือ erbium และ neodymium ซึ่งใช้ผลิตอุปกรณ์การป้องกันทันสมัยที่สุด ตั้งแต่อุตสาหกรรมเหมืองแร่และการแปลงแร่หายากก่อเกิดขยะพิษจำนวนมากในจีน
จีนหย่อนยานกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม ช่วยให้จีนครอบงำการค้าโลหะในตลาดโลกได้
จีนมีการขายแร่หายากอย่างเข้มงวดโดยข่มขู่ประเทศอื่นๆ ในอดีตการคุกคามการจำกัดการขายแร่หายากให้สหรัฐอเมริกาปี 2019 ส่งผลให้รัฐบาลประธานาธิบดี ทรัมป์ตั้งกำแพงภาษีสินค้าจีนตอบโต้
การผลิต การขายอาวุธและภูมิรัฐศาสตร์
การผลิต การขายและความช่วยเหลือด้านอาวุธ ไม่ได้เป็นเพียงรายได้ และความผูกพันแน่นแฟ้นในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเท่านั้น การเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติ ท่าเรือของประเทศ ยังมีอาวุธเป็น ใบเบิกทาง มากไปกว่านั้น อาวุธมีโอกาสปรับเปลี่ยนสภาพภูมิรัฐศาสตร์อีกด้วย
การขยายสัดส่วนในตลาดอาวุธคุณค่ารองของจีน สามารถขยายการเข้าถึงภูมิรัฐศาสตร์ของจีน
ในขณะที่สหรัฐอเมริกาลดน้อยลงการเข้าถึงท่าเรือและฐานทัพต่างประเทศ
จีนได้การขายอาวุธเพื่อรักษาสิทธิของตนในฐานทัพต่างประเทศ และเปลี่ยนแนวคิดประเทศผู้รับอาวุธจีน ให้ออกห่างอิทธิพลสหรัฐอเมริกา
ดังที่หมู่เกาะโซโลมอน (Solomon Island) ปฏิเสธการอนุญาตขบวนเรือรบสหรัฐอเมริกาและอังกฤษเมื่อสิงหาคม 2022 ไม่กี่เดือนหลังการลงนามความตกลงด้านความมั่นคงกับจีนเมื่อเมษายน 2022
เราตีความได้ว่า เราสามารถประกาศยุคใหม่ (new era) ที่ความสามารถจัดการโลกของสหรัฐอเมริกาถูกท้าทายเพิ่มขึ้น
สรุป
น่าสนใจมาก จากซาอุดีอาระเบียถึงเมียนมา และจากอิรักถึงซาอุดีอาระเบีย รัฐบาลทั้งหลาย ทหารทั้งหลาย ทั่วโลกมีและกำลังสะสมสิ่งเหล่านี้เอาไว้ในโกดังของพวกเขา
มันคือ โดรนต่อสู้ และใช้มันในสนามรบ
อาวุธราคาไม่แพง ใช้ง่าย มีไม่อั้น ช่วยผูกมิตรให้กับจีนทั้งนั้น
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022