เปิดเหตุผล “มอลโดวา” หวั่นซ้ำรอยยูเครน

(Photo by Sabine COLPART / AFP)

การทำสงครามรุกรานยูเครนของรัสเซียที่ดำเนินมาครบ 1 ปีเต็มและดูจะยืดเยื้อไปอีกยาว จะเป็นสาเหตุให้มอลโดวา ชาติในยุโรปตะวันออก ที่มีพรมแดนติดอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศยูเครน จะอดรู้สึกหวั่นใจว่าตนเองอาจจะถูกลากเข้าไปเผชิญชะตากรรมเดียวกับที่ยูเครนกำลังประสบอยู่ในเวลานี้ได้ในสักวัน ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ

เพราะมอลโดวาเป็นเพียงชาติเล็กๆ ที่มีประชากรประมาณ 4 ล้านคน และไม่ได้มีกองทัพที่ยิ่งใหญ่อะไรในการจะไปต่อกรกับชาติขนาดใหญ่ที่มีกองทัพที่แข็งแกร่งกว่ามากอย่างรัสเซียได้

ขณะเดียวกัน มอลโดวาก็ไม่ได้เป็นภาคีสมาชิกในองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่จะสามารถช่วยเป็นโล่ปกป้องคุ้มกันภัยแก่ชาติสมาชิกจากภัยคุกคามด้านความมั่นคงใดๆ ให้ได้

ยิ่งไปกว่านั้น มอลโดวายังเป็นประเทศที่รัสเซียเองมีผลประโยชน์เกี่ยวพันอยู่อย่างสำคัญ นั่นคือในดินแดนทรานส์นีสเตรีย ที่อ้างตัวเป็นรัฐอิสระจากมอลโดวา ซึ่งยังเป็นที่มั่นทางทหารของกองทัพรัสเซียมาเป็นเวลานานหลายทศวรรษแล้วอีกด้วย

ทว่า สำหรับประชาคมระหว่างประเทศแล้วทรานส์นีสเตรียยังคงเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศมอลโดวาอยู่นั่นเอง

 

ความหวาดกลัวของมอลโดวาว่าอาจจะตกอยู่ในที่นั่งเดียวกับยูเครนได้ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น หลังจากมอลโดวาจับสัญญาณของความไม่ชอบมาพากลหลายเรื่องที่เกิดขึ้นภายในประเทศของตนเอง

โดย มายา ซันดู ประธานาธิบดีหญิงของมอลโดวา ออกมากล่าวหาเมื่อเร็วๆ นี้ว่า รัสเซียกำลังใช้วิธีสกปรกด้วยการใช้พวกบ่อนทำลาย ปลอมตัวเป็นพลเรือนเข้ามาก่อความไม่สงบรุนแรง เพื่อหวังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอำนาจขึ้นในประเทศมอลโดวา

ขณะที่มอลโดวายังประสบปัญหาวิกฤตหลายด้าน ทั้งการงัดข้อทางการเมืองระหว่างพรรครัฐบาลที่สนับสนุนกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) กับกลุ่มการเมืองฝักใฝ่รัสเซีย ซึ่งออกมาเคลื่อนไหวประท้วงบนท้องถนนในกรุงคีชีเนา ยังมีปัญหาราคาพลังงานที่พุ่งทะยานและภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว

ท่าทีของผู้นำมอลโดวาเป็นท่าทีที่เด้งรับเสียงเตือนของโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ที่ออกมากล่าวอ้างก่อนหน้านี้ว่า หน่วยข่าวกรองยูเครนสามารถสกัดแผนการของรัสเซียในการจะบ่อนทำลายเสถียรภาพความมั่นคงในประเทศมอลโดวาไว้ได้ แต่ไม่ได้มีการลงในรายละเอียดใดถึงแผนบ่อนทำลายดังกล่าว

นอกจากนี้ การที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ออกมากล่าวหายูเครนว่ากำลังวางแผนจะก่อการโจมตีดินแดนทรานส์นีสเตรีย ที่มีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ให้การสนับสนุนรัสเซียและเป็นที่มั่นทางทหารของรัสเซียนั้น

ทำให้มอลโดวามีความหวั่นวิตกมากขึ้นว่ารัสเซียกำลังสร้างบริบทในลักษณะเดียวกันกับที่ปูตินเคยใช้เป็นข้ออ้างในการผนวกดินแดนไครเมียของยูเครนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียได้เป็นผลสำเร็จในปี 2014

และเป็นบริบทเดียวกับที่ปูตินยังใช้เป็นข้ออ้างในการเปิดฉากสงครามโจมตียูเครนเต็มรูปแบบเมื่อหนึ่งปีก่อน

 

ลูเลียน กรอซา อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างประเทศของมอลโดวา กล่าวว่า เห็นได้ชัดว่าภัยคุกคามเหล่านี้จากรัสเซียและความกระหายที่จะขยายสงครามกับมอลโดวานั้นมีสูงมาก และสิ่งที่เราเห็นคือการปลุกสงครามตัวแทนของรัสเซียในมอลโดวาขึ้นอีกครั้ง

ยังมีเสียงเตือนจากหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงของมอลโดวาด้วยว่ามีความเสี่ยงสูงที่รัสเซียจะเปิดฉากบุกรุกรานทางภาคตะวันออกของมอลโดวาภายในปีนี้ การที่มอลโดวาไม่ได้เป็นสมาชิกนาโต ทำให้มอลโดวามีความเปราะบางอย่างมากต่อวาระซ่อนเร้นของปูติน

หากรัสเซียเปิดฉากการรุกรานรอบใหม่โดยพุ่งเป้าไปในพื้นที่ทางตอนใต้ของยูเครนในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ รัสเซียก็อาจเพิ่มการรุกรานไปยังเมืองโอเดซาอีกครั้ง และขยายการรุกคืบไปถึงดินแดนทรานส์นีสเตรีย ที่สามารถสร้างเส้นทางเชื่อมทอดสู่พื้นที่ตอนใต้ของยูเครน

ซึ่งนั่นจะทำให้กองกำลังรัสเซียรุกคืบเข้าใกล้ดินแดนของนาโตมากขึ้นอีกโดยผ่านมอลโดวา!