ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 25 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | เปิดตา |
ผู้เขียน | อัษฎา อาทรไผท |
เผยแพร่ |
แฮมเบอร์เกอร์นิวยอร์ก นั้นเป็นเช่นไร? ขนมปังที่ใช้จะนุ่มละมุนหรือแข็งกระด้าง เนื้อในจะหนาจะเกรียมแค่ไหน? ข้างในมีผัก แตงกวาดอง ชีส และมะเขือเทศไหม จะอร่อยกว่าแฮมเบอร์เกอร์สยามสเต็คหรือไม่? และมันจะดีไปกว่าแม็คโดนัลหรือเปล่า? ผมขอนำประสบการณ์ส่วนตัวของผมเอง ที่ถือเป็นคนชอบทานแฮมเบอร์เกอร์อย่างมาก จนได้พากระเพาะไปเติมแฮมเบอร์เกอร์ตามที่ต่าง ๆ ที่นิวยอร์ก ที่เขาว่าดี จนน้ำหนักขึ้นแล้วขึ้นอีก มาลองตอบคำถามเหล่านี้ครับ
จากการค้นหาจากฮาร์ดดิสค์ในสมองของผม จำได้แม่นว่าครั้งแรกที่ได้ลิ้มลองแฮมเบอร์เกอร์ ที่ไม่ได้มาจากบรรดาแฟรนไชส์ฟาสฟู๊ดชื่อดังแล้ว เห็นจะเป็นแฮมเบอร์เกอร์ที่โรงเรียนประจำที่ผมเคยร่ำเรียนที่นิวยอร์ก ซึ่งมีอยู่สองแบบ แบบแรกคือที่มากับอาหารกลางวันของโรงเรียนที่โรงอาหาร และแบบที่เขาทำขายที่ร้านคาเฟ่ในโรงเรียน แน่นอนว่าที่เขาทำขายย่อมอร่อยกว่า เพราะของโรงอาหารนั้นมีแค่ขนมปังแข็ง ๆ เย็น ๆ ประกบกับเนื้อแห้ง ๆ ตรงกลาง ส่วนที่คาเฟ่นั้น เนื้อเขาฉ่ำมาก เกรียมหน่อย ๆ ขนมปังก็นำมาปิ้งบนกริล แถมมีหัวหอม มะเขือเทศ แตงกวาดอง ครบครัน งับเข้าไปอร่อยเหาะจนคำสุดท้าย
จากนั้นชีวิตผมก็ไม่ได้วนเวียนไปใกล้เบอร์เกอร์แบบนั้นอีกเลย เพราะมักจะไปฝากท้องกับแม็คโดนัลหรือไม่ก็เบอร์เกอร์คิงตลอดมา ซึ่งก็อร่อยดี แต่ระยะหลังมานี้เขาฮิตแฮมเบอ์เกอร์แบบ Shake Shack ร้านแฮมเบอร์เกอร์ดัง ที่ถือกำเนิดมาจากนิวยอร์ก โดยเชฟร้านหรูที่ทดลองทำแฮมเบอร์เกอร์ขายเล่น ๆ ในสวนสาธารณะ จนไป ๆ มา ๆ กลายเป็นทีเด็ดของนิวยอร์ก และขยายสาขาไปมากมาย รวมถึงจะมาที่ไทยด้วย
โชคดีที่ช่วงหลัง ๆ มานี้ ผมมีโอกาสได้เดินทางไปนิวยอร์กหลายครั้ง เลยถือโอกาสตามไปรับประทานแฮมเบอร์เกอร์ตามร้านดัง ๆ ต่าง ๆ หลายแห่ง เพื่อหาคำตอบว่าแฮมเบอร์เกอร์นิวยอร์กนั้นมันอร่อยอย่างไรกัน ซึ่งในโอกาสนี้ผมขอบรรยายถึง 4 ร้านแฮมเบอร์เกอร์ 4 อรรถรส แห่งนิวยอร์ก ให้อ่านรองท้องกันไปเพลิน ๆ ครับ

ที่แรกแน่นอนว่าต้องเป็น Shake Shack ร้านแฮมเบอร์เกอร์ชื่อดังของที่นี่ ซึ่งสมัยก่อนสาขามีน้อย กว่าจะได้ทานต้องต่อแถวกันยาวเหยียด แต่ปัจจุบันเขาเปิดอยู่ทุกหัวระแหง ไม่ต้องรอคิวนาน ๆ ก็อร่อยได้ ซึ่งเมนูเด็ดของเขาคือ Shack Burger ซึ่งก็คือชีสเบอร์เกอร์นั่นเอง ความอร่อยของเบอร์เกอร์เจ้านี้ เริ่มตั้งแต่ขนมปัง ที่ไม่ได้ใช้ขนมปังแบบสมัยก่อน แต่ใช้ brioche ขนมปังผสมไข่ไก่ ยีส และเนย นุ่มนวลลิ้น (ภายหลังมานี้มีหลายเจ้าก็พากันมาใช้ขนมปังแบบนี้กันเยอะ) ข้างในมีผักสด และมะเขือเทศ ส่วนชีสก็หลอมละลายอยู่บนเนื้อชิ้นโตที่เกรียมหน่อย ๆ หอมกลิ่นไหม้นิด ๆ กัดเข้าไปฉ่ำมาก อร่อยอย่าบอกใคร อร่อยยิ่งกว่าที่เคยทานสมัยเรียน อร่อยจนกระเพาะเรียกผมกลับมาซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่กลัวแคลอรี่

ร้านต่อมาคือร้านเด็ด ที่แนะนำโดยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่งใน Long Island ชื่อร้าน Burger City เป็นร้านเล็ก ๆ ที่มีสาขาเดียว แต่ได้รับการโหวตให้เป็น The Best of Long Island จุดเด่นของที่นี่คือราคาที่ถูกกว่าเจ้าแรกถึงครึ่งหนึ่ง ทำให้เป็นขวัญใจของคนทำงานละแวกนี้ และด้วยความอร่อยระดับต้องบอกต่อ ทำให้หลาย ๆ คน ต้องขับรถไกล ๆ มาลองแฮมเบอร์เกอร์ของเขาดูสักที ซึ่งเมื่อผมได้ลองชีสเบอร์เกอร์ของที่นี่ อย่างแรกเลยที่รู้สึกคือชิ้นเท่าเจ้าดังแต่จ่ายครึ่งเดียว อย่างที่สองคือขนมปังเขาเป็น brioche เช่นกันกับ Shake Shack แต่ความหลอมละลายของชีสยังไม่เข้ากับเนื้อนัก ส่วนเนื้อจะมีความแห้งกว่า อย่างไรก็ตามมันยังอร่อยอยู่กว่าแฮมเบอร์เกอร์เจ้าใหญ่ ๆ ที่เราคุ้นเคยในไทยอยู่ดี


ร้านที่สามผมขับรถ 2 ชั่วโมงกว่า ไปไกลเกือบสุดเกาะ Long Island เพื่อไปลองแฮมเบอร์เกอร์ของร้าน John’s Drive-In ที่ดำเนินกิจการโดยคนผิวดำ ที่นี่ต้องสั่งก่อนเขาถึงจะไปเริ่มทำ เราเลยมั่นใจได้ว่าแฮมเบอร์เกอร์เขาสดใหม่แน่นอน ครั้งนี้ผมโกงนิดหน่อย เพราะนอกจากจะสั่งชีสเบอร์เกอร์แล้ว ยังใส่เบคอนเข้าไปด้วย ร้านนี้ก็ใช้ขนมปัง brioche เช่นกัน ทำให้กัดเข้าไปแล้วนิ่มละมุนมาก เนื้อมีความฉ่ำและหนากว่าร้านที่สอง แต่ไม่มีความเกรียม ทว่าอร่อยอยู่ดี ยิ่งทานพร้อมเบค่อนด้วย ความสุนทรีย์เพิ่มทวีคูณ ทานหมดแล้วอยากจะสั่งอีกสองสามชิ้น แต่เกรงใจสุขภาพ แต่ก็ขับรถกลับไปใหม่อีกครั้งจนได้ในเดือนต่อมา


ร้านสุดท้ายเป็นร้านดังของ Long Island ชื่อ All American ที่คู่ชีวิตชาวอเมริกันของญาติผมเล่าว่า เคยมาที่นี่นานแล้ว ต้องต่อแถวรอยาวเหยียดกว่าจะได้ทาน โดยร้านนี้โด่งดังมาจากภาพยนต์เรื่อง Forrest Gump ที่ในหนังเพื่อนพระเอกได้มาเปิดร้านนี้ และลดต้นทุนด้วยการใช้เนื้อที่มีรูตรงกลางใส่ในแฮมเบอร์เกอร์ ส่วนในโลกความจริง มีข่าวลือเล่าว่าร้านนี้เป็นร้านโปรดของผู้มีอิทธิพลในละแวกนั้น และเจ้าของเคยจะปิดกิจการแต่มีคำสั่งให้ไม่ให้ปิด เพราะท่านที่ชอบร้านนี้ไม่อยากให้ปิด เลยยังเปิดอยู่จนทุกวันนี้ วันที่ผมไป คิวยาวเหยียดจริง ๆ แต่รอไม่นานก็ถึงคิว สำหรับแฮมเบอร์เกอร์ของที่นี่ มีความเหี่ยวไม่ตรงปก แต่ก็อร่อยกำลังดี และราคาไม่ถูกที่สุดแต่ก็ถูกกว่าเจ้าแรก จะว่าไปแล้วสาเหตุของกการเหี่ยวของเบอร์เกอร์น่าจะเป็นเพราะเขาใช้ขนมปังแบบดั้งเดิม ไม่ได้ใช้ brioche แบบเจ้าอื่น ซึ่งก็พอจะยอมกันได้ เพราะยังอร่อยกว่าแฟรนไชส์ดังสีแดงเหลืองอยู่ดี


สรุปแล้ว แฮมเบอร์เกอร์ของนิวยอร์ก ก็ไม่ต่างไปจากร้านข้าวกระเพราไก่บ้านเรา แต่ละร้านก็อร่อยไปคนละแบบ วัตถุดิบคล้าย ๆ กัน แต่ก็มีความแตกต่างกันไปตามแต่รสมือของพ่อครัวแม่ครัว ฉะนั้นหากคุณเป็นคนชอบทานข้าวกระเพาะไก่ ไปที่ไหนก็น่าจะอร่อยไม่มากก็น้อย (ยกเว้นกระเพราะไก่ที่ขายในร้านแฟรนไชส์แฮมเบอร์เกอร์) แฮมเบอร์เกอร์ก็เช่นกันครับ อย่างไรก็ตามการตามล่าแฮมเบอร์เกอร์ของผมนั้นยังไม่จบ และยังมีอีกหลายร้านที่ต้องไปลอง แล้วถ้าไขมันไม่จุกอกไปก่อน ผมจะมาเล่าให้ฟังอีกครับ