คอลัมน์ประจำ

มิตซูฯ ‘เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส’ รถครอบครัวอารมณ์สปอร์ต

สันติ จิรพรพนิต
ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 3 - 9 มีนาคม 2566
คอลัมน์ยานยนต์
ผู้เขียนสันติ จิรพรพนิต
เผยแพร่

มิตซูฯ ‘เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส’ รถครอบครัวอารมณ์สปอร์ต

 

หลังจากค่ายมิตซูบิชิ ปล่อย “เอ็กซ์แพนเดอร์” รถครอบครัว 7 ที่นั่งเจเนอเรชั่นที่ 2 ออกมาพักใหญ่ ตอนนี้ถึงเวลารุ่นพิเศษแต่งครบๆ มาวาดลวดลายบ้าง

ในชื่อ “เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส” ใหม่

ออกแบบได้อารมณ์ความสปอร์ตและสมบุกสมบันมากขึ้น

รวมถึงเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่เข้ามาอีก

มีสีให้เลือกแบบธรรมดา และทูโทน

ภาพลักษณ์ภายนอกต้องบอกว่าดุดันกว่าของเก่าพอสมควร

กระจังหน้าใหม่แบบ Advanced Dynamic Shield เสริมอารมณ์เอสยูวี

ไฟหน้าแบบ LED ยกชุด ทั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) แบบ LED ไฟเลี้ยว LED และไฟตัดหมอก LED

โดยไฟหน้ามีระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วย

เสริมดีไซน์สุดเท่ด้านหลังรถด้วยไฟท้ายแบบ LED และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ติดตั้งตำแหน่งสูงเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยขณะขับขี่ช่วงเวลากลางคืน

ตกแต่งกระจังหน้า กันชนหน้าและหลัง แผงตกแต่งข้างประตู และซุ้มล้อแบบ “ครอสดีไซน์” (CROSS Design)

ล้ออัลลอยสปอร์ตทูโทนขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางที่มีขนาดใหญ่ขึ้น

อีกจุดเด่นไม่พ้นตัวรถที่สูงจากพื้นถึง 220 ม.ม. ลุยถนนได้หลากหลายมากขึ้น และยังเพิ่มทัศนวิสัยยามขับขี่ด้วย

ด้วยความเป็นรถครอบครัว ทำให้วิศวกรออกแบบภายในเป็นพิเศษ

ใช้สีทูโทนดำ-น้ำเงิน แซมด้วยวัสดุแบบนิ่ม เพิ่มความหรูหรามากขึ้น

พวงมาลัย 4 ก้านหุ้มหนังดีไซน์ใหม่ พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น

สวิตช์ควบคุมระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย (Cruise Control)

สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียง

ปุ่มรับสาย-วางสายโทรศัพท์

รออกแบบแผงควบคุมด้วยแนวคิด Horizontal Axis จอแสดงข้อมูลการขับขี่ (Dashboard) แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว ปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ

ตรงกลางเป็นหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบลอยตัวรองรับ Bluetooth และการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto

ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล พร้อมฟังก์ชั่น Max Cool เย็นสบายเร็วทันใจดวยการสั่งงานเพียงปุ่มเดียว ติดตั้งแผ่นกรองอากาศ PM 2.5 มาให้ด้วย

ขณะที่เพดานมีช่องดูดลมแอร์เพื่อเป่าไปยังที่นั่งด้านหลัง แบบแยกอิสระ พร้อมแผงควบคุมและช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

หัวเกียร์ขนาดใหญ่จับกระชับมือ ใกล้กันระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบ Brake Auto Hold ช่วยการขับขี่ขณะจราจรติดขัดสะดวกมากขึ้น

มีช่องต่ออุปกรณ์ USB-A เชื่อมต่อความบันเทิงด้านหน้า

ส่วนที่นั่งแถว 2 มีช่องต่ออุปกรณ์ USB-A และช่องต่อ USB-C สําหรับชาร์จไฟ

มีช่องจ่ายกระแสไฟ DC 12 โวลต์ บริเวณคอนโซลหน้า และเบาะแถวที่สาม

เบาะหนังที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนสีทูโทน ดำ-น้ำเงิน

ที่นั่งแถว 2 ตรงกลางสามารถดึงลงมาเป็นที่เท้าแขนพร้อมช่องวางแก้ว 2 ตำแหน่ง

เบาะแถว 3 อาจจะคับแคบไปสักนิดหากเป็นผู้ใหญ่ ถ้าเป็นเด็กไม่มีปัญหาใดๆ

อย่างไรก็ตาม ให้ดีเบาะแถว 3 พับลงราบเพื่อปรับเป็นพื้นที่เก็บของจะเหมาะกว่า

อีกหนึ่งสิ่งที่มิตซูบิชิภูมิใจนำเสนอคือความเงียบภายในห้องโดยสาร เพราะเพิ่มฉนวนกันเสียงในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นภายในรถหรือภายในห้องเครื่องยนต์

รวมถึงกระจกหน้าซับเสียงได้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม

ส่วนกระจกมองหลังเป็บแบบปรับแสงอัตโนมัติ

ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ MIVEC DOHC 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที

ระบบเกียร์อัตโนมัติ ECO-Dynamic CVT ตอบสนองการทำงานกับเครื่องยนต์อย่างรวดเร็ว นุ่มนวล และประหยัดน้ำมัน

ช่วงล่างหน้าหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง และเหล็กค้ำหัวโช้ก

ส่วนด้านหลังทอร์ชั่นบีม

เทคโนโลยีความปลอดภัย และตัวช่วยให้ขับขี่ง่ายขึ้นยังใส่มาให้ครบครัน

ที่เพิ่มเติมเข้ามาคือระบบช่วยเสริมความปลอดภัยขณะเข้าโค้ง “เอวายซี” (AYC – Active Yaw Control)

ช่วยควบคุมการขับเคลื่อนให้เข้าโค้งได้กระชับและแม่นยำ ด้วยการควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกของล้อหน้าด้านซ้ายและด้านขวา เพิ่มสมรรถนะการเข้าโค้งและรักษาเสถียรภาพการขับขี่ได้ดีบนถนนที่เปียกลื่น

หากเปิดระบบนี้โอกาสที่รถเข้าโค้งแล้วบานออกนอกเลนจะน้อยลง

ส่วนอื่นๆ เช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Active Stability Control : ASC)

ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (Traction Control System : TCL)

ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist : HSA)

ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS – Anti-Lock Braking System)

ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรก แบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD – Electronic Brake Force Distribution)

ระบบเสริมแรงเบรก (BA – Brake Assist)

ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ (Emergency Stop Signal System : ESS)

ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ฯลฯ

คานเหล็กนิรภัยกันกระแทกบริเวณแผงประตูและการออกแบบตัวถังด้านหน้า ช่วยลดความรุนแรงจากแรงกระแทกของรถที่เกิดขึ้นกับคนเดินถนน

มีให้เลือก 4 สี มีสีใหม่ คือ สีเขียว (Green Bronze Metallic) สีขาวมุก (Quartz White Pearl) สีเงิน (Blade Silver) และสีเทา (Graphite Gray)

พร้อมกับมีสีทูโทนอีก 2 สไตล์ ได้แก่ สีเขียวหลังคาดำ (Green Bronze Metallic with Black Roof) และสีขาวหลังคาดำ (Quartz White Pearl with Black Roof)

“เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส” ราคา 946,000 บาท ปรับเพิ่มจากรุ่นเดิม 7,000 บาท •

 

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]