หากเส้นทางแห่งพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล สร้างจุดต่างอย่างเห็นได้ชัดกับพรรคการเมืองเก่า

อย่าว่าแต่พรรคพลังประชารัฐ อย่าว่าแต่พรรคภูมิใจไทย หากแม้กระทั่งพรรคอันถือได้ว่าเป็นพรรคการเมืองวิถี”ใหม่”

ไม่ว่าจะเป็นพรรคแนวร่วมสังคมนิยม ไม่ว่าจะเป็นพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังใหม่ อันล้วนเป็นผลิตผลและแรงสะเทือนเนื่องแต่สถานการณ์การต่อสู้เมื่อเดือนตุลาคม 2516

กล่าวไปแล้วก็ยังแตกต่างไปจากพรรคพลังธรรม พรรคพลังธรรมอันเป็นประดิษฐ์กรรมทางการเมืองผ่าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และส่งผลสะเทือนเป็นอย่างสูงในการต่อสู้เดือนพฤษภาคม 2535

การเกิดขึ้นของพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล ก็แตกต่างจากกรณีของพรรคพลังธรรม พรรคพลังใหม่ และพรรคสังคมนิยม แห่งประเทศไทย

การเกิดขึ้นของพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกลจึงดำเนินไปเช่นเดียวกับการเกิดขึ้นของสิ่งที่เรียกว่า”คณะราษฎร 2563”

เห็นได้จากกรณีของ”ธนาธร” เห็นได้จากกรณี”ตะวันแบม”

สายตาของพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ที่มองไปยัง พรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกลจึงเห็นว่าเป็นของแปลก

แปลกเพราะว่าแทบมองเห็นใบหน้าของนักการเมือง”เก่า”ไม่พบทั้งที่เป็น ส.ส. ทั้งที่เป็นกรรมการบริหาร

ยิ่งหัวหน้าพรรค นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เลขาธิการพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล และหัวหน้าพรรค นายพิธา ลิ้มเจริญ รัตน์ เลขาธิการพรรค นายชัยธวัช ตุลาธน ยิ่งใหม่

เมื่อพรรคอนาคตใหม่ไม่มีระบบ”หัวคะแนน” ไม่ถือเงินเป็นเครื่องนำหน้าในการขับเคลื่อน พรรคก้าวไกลก็สืบทอดและพัฒ นากลไกนี้ให้เดินหน้าต่อไปอีก

ทั้งๆที่มิได้มีรากฐานแน่นหนาเหมือนกับพรรคการเมืองรุ่น

ก่อนแต่เมื่อถูกยุบพรรคกลับสามารถขึ้นและเดินหน้าไปได้

จึงกระบวนการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ได้ก่อให้พรรคอนาคตใหม่ได้แจ้งเกิด กระบวนการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม 2566 ก็จะยิ่งเป็นการพิสูจน์ทราบ เป็นการพิสูจน์ทราบเหมือนการดำรงอยู่ของ”คณะราษฎร”

คณะราษฎรแตกต่างไปจากเมื่อเดือนตุลาคม 2516 แตกต่างไปจากเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535

 พรรคก้าวไกลก็ต่างไปจาก พรรคการเมืองในอดีตเหมือนกัน