ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 10 - 16 พฤศจิกายน 2560 |
---|---|
เผยแพร่ |
คอลัมน์ แนวโน้ม
กระทิง-เรืองโรจน์ พูนผล ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้ร่วมบริหารกองทุน 500 Tuk Tuks เปิดเผยว่า สังคมสูงวัยจะมาเร็วกว่าที่คิด ปัญหาสุขภาพจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่กลับมีการพัฒนาทั้งอุปกรณ์และแอพพลิเคชั่นน้อยมาก ทั้งที่ไทยพยายามผลักดันในการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์
แม้ว่าปี 2560 จะเป็นปีทองของสตาร์ตอัพในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ แต่คาดว่าอีก 2 ปีข้างหน้าจะเป็นโอกาสของกลุ่มเฮลธ์แคร์
แต่ต้องเริ่มพัฒนาสินค้าและบริการทันที
การลงทุนด้านเฮลธ์แคร์ในสตาร์ตอัพไทยยังมีน้อยมาก ทั้งที่จะเป็นธุรกิจที่เปลี่ยนชีวิตคนจำนวนมหาศาล
เฮลธ์แคร์สำหรับผู้สูงวัยในไทยมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 1 เท่านั้น จึงมีโอกาสอีกมาก และมองว่าปี 2561 สตาร์ตอัพหรือเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจกลุ่มประกันก็น่าจะมีความต้องการ หากสตาร์ตอัพสามารถเชื่อมโยงธุรกิจกับกลุ่มเป้าหมายได้จะยิ่งเพิ่มโอกาส
แม้ว่ากลุ่มเทเล เมดิซีน จะยังไม่ถูกกฎหมายในไทย แต่เชื่อว่าในอนาคตจะสำคัญมากขึ้น ร้อยละ 70 ของประเทศที่พัฒนาแล้วจะเห็นความสำคัญด้านสุขภาพประชาชน การลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลด้วยการให้ข้อมูลจะช่วยแก้ปัญหาเบื้องต้นในการรักษาได้
ในประเทศที่พัฒนาแล้วจำนวนเตียงคนไข้ 10,000 คน จะอยู่ที่ 90 เตียง แต่ของไทยมีเพียง 2 เตียงเท่านั้น ส่วนจำนวนแพทย์ที่ให้บริการ 1 ต่อ 1,000 คนสำหรับในประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งไทยสัดส่วนน้อยมาก
หากไม่มีเทคโนโลยีหรือแอพพลิเคชั่นมารองรับความต้องการของประชาชนคงลำบากแน่