ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 กุมภาพันธ์ 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศ |
เผยแพร่ |
เป็นภาพที่ดึงความสนใจชาวโลกอย่างมากและทำให้เกิดการตั้งคำถามขึ้นอีกครั้ง กับภาพการปรากฏตัวของเด็กหญิงหน้าตาสดใส ผู้อยู่เคียงข้างกาย คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือไม่ห่าง ที่สื่อทางการเกาหลีเหนือปล่อยภาพชุดใหญ่ออกมาให้โลกได้ยลเมื่อกลางสัปดาห์ก่อน
ทั้งในขณะที่คิม จอง อึน เข้าร่วมในงานเลี้ยงฉลองใหญ่เนื่องในวาระครบรอบ 75 ปีของการสถาปนากองทัพประชาชนเกาหลี (เคพีเอ) ซึ่งถูกระบุว่าจัดขึ้นที่โรงแรมหรูยางกักโด ในกรุงเปียงยาง ในค่ำคืนวันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์
และในขณะที่ผู้นำคิมร่วมชมพิธีสวนสนามของกองทัพประชาชนเกาหลีที่นำเอาอาวุธยุทโธปกรณ์ออกมาอวดโชว์อย่างยิ่งใหญ่ตระการตากลางจัตุรัสในกรุงเปียงยางในค่ำคืนวันต่อมา เพื่อเฉลิมฉลองวาระสำคัญดังกล่าวของกองทัพประชาชนเกาหลีอีกเช่นกัน
แม้สื่อทางการเกาหลีเหนือจะไม่ได้เอ่ยนามของเด็กหญิงผู้นี้ในระหว่างการรายงานข่าวเกี่ยวกับการปฏิบัติภารกิจดังกล่าวของผู้นำคิม
แต่กระบอกเสียงของทางการใช้คำเรียกขานเธอว่าเป็น “ลูกสาวผู้เป็นที่รัก” หรือ “ลูกสาวที่น่านับถือ” ของผู้นำคิมของพวกเขา
นั่นเป็นการยกย่องเทิดทูนที่ตอกย้ำให้เห็นว่าเด็กหญิงตัวน้อยผู้นี้มีความสำคัญมากเพียงไรต่อผู้ปกครองเกาหลีเหนือ
และถึงแม้จะไม่มีการเปิดเผยชื่อของหนูน้อยผู้นี้ออกมาจากสื่อทางการ แต่ก็มีกระแสข่าวจากวงนอกบอกว่าเธอคือ จู แอ ลูกคนที่ 2 ในบรรดาลูก 3 คนของคิม จอง อึน กับรี ซอล จู ผู้เป็นภรรยา ซึ่งคาดเดากันว่าเธอน่าจะมีอายุระหว่าง 9 ถึง 11 ปี
การปรากฏตัวต่อสาธารณชนเคียงข้างพ่อของเธอครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 แล้วนับจากครั้งแรกในช่วงปลายปีที่ผ่านมาขณะผู้นำคิมเดินจูงมือลูกสาวคนนี้มาชมการทดสอบยิงขีปนาวุธฮวาซอง-17 เรียกเสียงฮือฮาไปทั่วโลก และทำให้นักวิเคราะห์สังเกตการณ์คาดเดากันไปว่านี่อาจเป็นการวางตัวผู้สืบทอดอำนาจปกครองเกาหลีเหนือแห่งตระกูลคิมรุ่นต่อไปหรือไม่
การพาลูกสาวออกงานใหญ่สำคัญระดับชาติอีกครั้งของคิม จอง อึน จึงเป็นที่จับตาและถูกนำไปวิเคราะห์ถอดรหัสว่าผู้ปกครองที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานในการทำให้เกาหลีเหนือเป็นหนึ่งในชาตินิวเคลียร์ทรงอิทธิพลผู้นี้ ต้องการส่งสัญญาณอะไรต่อชาวโลก
โดยนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า การพาลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนผู้เป็นดั่งดวงใจของเขาและภรรยา ออกงานใหญ่ของกองทัพด้วยกันเช่นนี้ คิม จอง อึน ได้บอกกับโลก 2 สิ่ง
อย่างแรกคือ ให้รู้ว่า ตระกูลคิมจะปกครองเกาหลีเหนือต่อไป
และอย่างที่สองคือ เกาหลีเหนือจะมีอาวุธนิวเคลียร์เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครจะสามารถกล้าท้าทายดินแดนคอมมิวนิสต์แห่งนี้ได้
ในความเห็นของผู้สันทัดกรณีอย่าง ลีฟ-อีริก อีสลีย์ ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยอีฮวาในกรุงโซล มองว่า คิม จอง อึน ต้องการให้นักสังเกตการณ์ทั้งในและนอกประเทศเห็นว่าตระกูลคิมและกองทัพเกาหลีเหนือมีความเชื่อมโยงกันอย่างไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือศึกษาอย่าง ชอง ซอง ชาง จากสถาบันเซจง ในโซล ที่มองว่านี่เป็นการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนของคิม จอง อึน ว่าลูกสาวของเขาคือทายาทผู้สืบทอดอำนาจแห่งตระกูลคิมรุ่นต่อไป โดยบอกว่า การเสนอข่าวลูกสาวผู้นำคิมของสื่อทางการ ถือเป็นการผลักดันอย่างแข็งขันจากเปียงยางในการยกระดับโปรไฟล์ของเธอสู่เวทีสาธารณะ
ด้วยพัฒนาการเหล่านี้ จึงไม่มีคำถามอีกต่อไปว่า จู แอ ได้รับเลือกให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของคิม จอง อึน หรือไม่
ส่วนคำถามที่ว่า เร็วเกินไปหรือไม่ในการจะวางตัวทายาทสืบทอดอำนาจเร็วเช่นนี้
ชอง ซอง ชาง กล่าวว่า ตระกูลคิมมีแบบอย่างทำนองนี้มาก่อน โดยสมัยคิม จอง อิล อดีตผู้นำเกาหลีเหนือผู้พ่อ ได้ประกาศกับกองทัพของเขาในการวางตัว คิม จอง อึน ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็ก เป็นทายาทผู้สืบทอดต่อจากตนเองในขณะที่คิม จอง อึน ฉลองวันเกิดครบ 8 ขวบ ขณะที่ข่าวลือและการคาดเดาที่มีมานานชี้ว่า คิม จง นัม ลูกชายคนโต หรือไม่ก็ คิม จง ชอล ลูกชายคนที่สองของคิม จอง อิล ที่น่าจะได้ขึ้นเป็นผู้นำเกาหลีเหนือรุ่น 3 แห่งตระกูล
ขณะที่ยังมีนักสังเกตการณ์อีกส่วนหนึ่งที่มองว่าการพาลูกสาวออกงานสำคัญหลายงานของคิม จอง อึน อาจไม่ได้มีนัยซ่อนเร้นใดมากไปกว่าเป็นเพียงวิธีการหนึ่งในการดึงดูดความสนใจของโลกให้กลับมาที่เกาหลีเหนือ!
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022