ปูดแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 3 ส. เสือตัวใหญ่ แผนสกัด ‘เพื่อไทย’ แลนด์สไลด์

กลายเป็นประเด็นร้อน มีผล-ได้เสียในทางการเมือง ต่อพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่อยู่ระหว่างเดินหน้าหาเสียงเลือกตั้งด้วยยุทธศาสตร์ ชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ทั้งประเทศ เพื่อไปสู่เป้าหมายได้เสียง ส.ส.มากกว่า 250 ที่นั่ง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อโหร ส.ว. อย่าง “วันชัย สอนศิริ” สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวหัวข้อ “แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย อักษรย่อ ส.” โดยระบุว่า เห็นประกาศท้าทายกันโครมๆ ว่าเมื่อเพื่อไทยแลนด์สไลด์ได้ถึง 200-250 รวมกับพรรคอื่นอีกเกือบ 300 เสียง จะดูสิว่า ส.ว.จะโหวตให้หรือไม่ หากไม่โหวตให้ก็น่าจะมีเรื่อง และพูดในทำนองว่าประชาชนคงไม่ยอม จะโกลาหลอลหม่านทั้งในสภาและนอกสภา ก่อนหน้านี้สภาก็เคยถูกล้อม ส.ส. ส.ว.ตกน้ำตกท่ากันมาแล้ว ครั้งหน้าคงหนักหนาสาหัสกว่า ทั้งพุ่งเป้าไปที่ ส.ว. 250 โดยตรง ผมก็แปลกใจในเมื่อแลนด์สไลด์แล้วทำไมไม่พุ่งเป้าไปที่ ส.ส.

หากรวมกันได้ 300 จริง ดึง ส.ส.มาอีก 76 เสียงก็เป็นนายกฯ ได้แล้ว จะไปกดดัน ส.ว.ทำไม คนไหนอยากโหวตก็โหวตไป ส.ว.คนไหนไม่โหวตก็ช่าง ทั้งดึงทั้งดูดทั้งดันเอาเฉพาะ ส.ส.ด้วยกันนี่แหละ บ้านเมืองก็สงบเรียบร้อยทั้งในสภาและนอกสภา ไม่ต้องไปหาเรื่องกับใครทั้งนั้น ถ้าจะหาเรื่องก็หาเรื่องกับ ส.ส.ด้วยกันเพราะมาจากการเลือกตั้งเหมือนกัน เป็นพวกประชาธิปไตยเหมือนกัน ไม่สนับสนุนพวกเดียวกันมันน่าด่ากว่าพวก ส.ว.เสียอีก

ส.ว.วันชัยยังระบุด้วยว่า “อีกเรื่อง อยากจะบอกว่าแคนดิเดตนายกฯ ของเพื่อไทยทั้งอุ๊งอิ๊งและเศรษฐา เวลานี้อาจไม่ใช่เวลาของทั้งสองคน เอาไว้โฆษณาประชาสัมพันธ์ เอาไว้สลับสับขาหลอกก็พอได้ แต่ถ้าจะเอาเป็นนายกฯ ตัวจริง อย่ามองกันในเฉพาะพรรคเพื่อไทยเท่านั้น”

“ต้องมองถึงเสียงทั้งหมดในสภาว่าเขาเอาด้วยหรือไม่ ต้องยอมรับกันว่าคุณทักษิณหรือ พล.อ.ประยุทธ์เหมาะกับสถานการณ์นั้นเวลานั้นเท่านั้น แต่เวลานี้กับสถานการณ์นี้อาจไม่ใช่ เช่นเดียวกัน เวลานี้และสถานการณ์นี้อาจไม่ใช่ของอุ๊งอิ๊งและเศรษฐา เขายังไม่ถึงเวลา และทุกคนที่ประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ นั้นก็เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด แท้ที่จริงก็ใช่ว่าจะเป็นนายกฯ ทุกคน โดยเฉพาะอักษรย่อว่า อ. หรือ พ. หรือ ศ. ในช่วงที่ราหูและมฤตยูยังมีอิทธิพล ไม่เป็นมงคลกับดวงเมืองนัก ยังไปไม่ถึงดวงดาว”

“และมีข่าวว่าเพื่อไทยจะเสนอแคนดิเดตนายกฯ ตัวจริงเสียงจริงคือคนที่ชื่อ ส. ตัวใหญ่ เห็นเขาว่าเข้าได้กับทุกคนรอบทิศทั้งซ้ายขวาหน้าหลังล่างบน ส่วนอุ๊งอิ๊งก็เป็นเวลาให้นมลูกอยู่กับคุณตาไปพลางก่อน หรือจะไปสะเดาะเคราะห์ที่วัดไก่เตี้ย เขตตลิ่งชันบ้างก็ดีนะ”

วันชัย สอนศิริ

ภายหลังที่ ส.ว.วันชัยเปิดแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 3 ผ่านอักษรย่อ “ส.” ออกมานั้น หลายฝ่ายต่างนำสเปก ตลอดจนคุณสมบัติของบุคคลดังกล่าวมาถอดรหัสจนได้ความชัดเจนว่า บุคคลดังกล่าวคือ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ

เพราะด้วยคุณสมบัติของ ดร.สุรเกียรติ์ ในด้านความรู้ความสามารถ ที่เป็นทั้งนักคิดและนักบริหาร ผ่านเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมัยรัฐบาลบรรหาร ศิลปอาชา รวมทั้งเข้ามามีบทบาททางการเมืองในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ทั้งในตำแหน่งรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในทางการเมืองถือว่าอยู่ในขั้นครบเครื่อง

ขณะที่ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นประธานคณะมนตรีเพื่อสันติภาพและความปรองดองแห่งเอเชีย, รองประธานที่ปรึกษาและประธานกรรมการบริหารมูลนิธิอาสาพึ่ง (ภา) ยามยาก สภากาชาดไทย และประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน

ยิ่งสถานะในทางครอบครัวของ “ดร.สุรเกียรติ์” ที่มีภริยา คือ ท่านผู้หญิง ดร.สุธาวัลย์ เสถียรไทย ธิดาท่านผู้หญิงหม่อมราชวงศ์บุษบา (กิติยากร) สธนพงศ์ พระขนิษฐาในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ล้วนมีนัยยะส่งผลต่อการเป็นผู้นำประเทศที่มีคุณสมบัติพิเศษ ในการเดินหน้าความปรองดอง

สุรเกียรติ์ เสถียรไทย

ที่มาที่ไปของกระแสข่าวดังกล่าวเกิดจากการพูดคุยของ “กลุ่ม 40 ส.ว.” กระทั่งมาถึงการเปิดอักษรย่อ ส. โดยโหร ส.ว.คนดังกล่าว ซึ่งจังหวะเวลา รวมทั้งไทม์มิ่ง ของการปล่อยชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พท.คนที่ 3 ผ่านอักษรย่อ “ส.” ย่อมส่งผลต่อยุทธศาสตร์การชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ในทางลบต่อพรรค พท.โดยตรง

เนื่องจากถูกฝ่ายตรงข้ามฟันธงตรงกันว่า หากมีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ อักษร “ส.” ขึ้นมานั้น เป็นการตอบโจทย์และความต้องการทางการเมืองอันสูงสุดของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ซึ่งเป็นผู้มีบารมีตัวจริงของพรรค พท. ในการได้กลับมาเลี้ยงหลานที่ประเทศไทย ผ่านบทบาทและคุณสมบัติของแคนดิเดตนายกฯ ของอักษรย่อ “ส.” เป็นการตอบสนองทางการเมืองของคนคนเดียว ไม่ได้มุ่งหวังจะขับเคลื่อนนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องให้กับประชาชนตามที่ได้หาเสียงไว้

และย่อมจะกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อแฟนคลับ และผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ตัดสินใจจะเลือกผู้สมัคร ส.ส. และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พท.อย่างปฏิเสธไม่ได้

ขณะที่แกนนำพรรค พท. ทั้ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรค พท. รวมทั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ต่างออกมาปฏิเสธถึงกระแสข่าวแคนดิเดตนายกฯ อักษรย่อ “ส.” ว่าไม่ได้มีการพูดคุยหรือเปิดดีลกับบุคคลตามกระแสข่าวแต่อย่างใด พรรค พท.ยังคงเดินหน้ายุทธศาสตร์เลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์เหมือนเดิม ขอให้ประชาชนที่สนับสนุนพรรค พท.เชื่อมั่นในวิถีทางและจุดยืนของพรรค พท.ต่อไป

ประเด็นดังกล่าว หากพรรค พท.ไม่รีบแสดงจุดยืนในเรื่องดังกล่าวให้มีความชัดเจนโดยเร็วที่สุด เพื่อตรึงแฟนคลับให้ยังคงอยู่กับพรรค พท.เหมือนเดิม ไม่ให้เปลี่ยนใจเทคะแนนเสียงให้กับพรรคในขั้วประชาธิปไตยที่มีความก้าวหน้า อย่างพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่เป็นทั้งขั้วเดียวกัน และเป็นคู่แข่งคนสำคัญในการช่วงชิงคะแนนเสียง อาจจะส่งผลให้ยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ของพรรค พท.กลายเป็นแค่ความฝัน

นับจากนี้ไปจนถึงวันเลือกตั้ง ขวางหนามจะยิ่งถาโถมพุ่งเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง หากพรรค พท.ตั้งรับไม่ดี อาจต้องน้ำตาตกใน นั่งตบยุงทำหน้าที่แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านไปอีกวาระได้เช่นกัน