เปิดตา | มามหานครนิวยอร์ก คงไม่ถึงหากไม่ได้ทานสตรีทฟู๊ดที่ The Halal Guys

อัษฎา อาทรไผท

สมัยที่ผมยังเป็นนักศึกษาอยู่ที่อเมริกา หากมาเยือนมหานครนิวยอร์ก เราจะพบกับรถเข็นขายของกินประปรายอยู่ตามข้างถนน ส่วนใหญ่จะขายอยู่สามอย่าง นั่นคือ 1. ฮ็อทดอกใส่หัวหอมซอย แตงกวาดอง กินกับซอสมะเขือเทศและมัสตาด 2. เพรทเซิ่ลก้อนโต ซึ่งเป็นคนละแบบกับที่มีขายที่ไทย เพราะขอเขาจะสีคล้ำ ๆ สัมผัสสาก ๆ โรยเกลือแสนเค็ม หรือ 3. ถั่วลิสงเคลือบน้ำตาลแสนหวานมัน ทั้งหมดคืออาหารที่หล่อหลอม เอาวัฒนธรรมการรับประทานของผู้อพยพมาจากยุโรป ผสมกับความอเมริกันที่สร่างสมมาเป็นศตวรรษ กลายมาเป็นอาหารสตรีทฟู๊ทของนิวยอร์กที่คนสมัยนั้นคุ้นเคย

ส่วนชาวเอเซียอย่างผม มาไกลบ้านก็จะอยากทานอาหารที่เป็นข้าวอยู่เสมอ ซึ่งที่นิวยอร์กเขาไม่มีรถเข็นขายข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง หรือข้าวราดแกงแน่ ๆ แต่จะมีอาหารจีนสไตล์อเมริกัน ที่ต้องไปทานที่ร้านเท่านั้น การมาเดินหาสตรีทฟู๊ดทานในยุคนั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าอร่อยเลยสักนิด ทานครั้งสองครั้งก็เบื่อเสียแล้ว

ผู้ที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่นิวยอร์กหลายท่าน ที่ไม่ค่อยอินกับของกินอเมริกันจ๋า 3 อย่างที่กล่าวถึงข้างต้น ต่างต้องทนกับการไม่มีของถูกใจให้หาทานง่าย ๆ มานาน จนกระทั้งชาวอเมริกันที่มาจากอียิปต์สามคน นามว่า Mohamed Abouelenein, Ahmed Elsaka และ Abdelbaset Elsayed ได้ริเริ่มสิ่งแปลกใหม่สู่วงการสตรีทฟู๊ดนิวยอร์กเมื่อราวปี ค.ศ. 1992

รถเข็นสตรีทฟู๊ด The Hallal Guys

ตอนแรกพวกเขาเริ่มจากการขายฮ็อทดอกเหมือนชาวบ้านเขา แต่ผ่านไปสักระยะ เริ่มเล็งเห็นว่ามีอีกหลายกระเพาะในนิวยอร์กที่ถวิลหาอาหารจารข้าว โดยเฉพาะพี่น้องชาวมุสลิม ที่มาขับแท็กซี่ในมหานครใหญ่นี้กันมากมาย ต่างก็อยากหาของกินถูกปาก ที่หาทานได้ง่าย ๆ The Halal Guys จึงถือกำเนิดขึ้น

พวกเขาเริ่มด้วยรถเข็นแบบเดียวกับที่เคยมีมา แต่นำเสนออาหารจานเด็ด ชื่อเรียกง่ายว่า Chicken and Rice ซึ่งก็คือข้าวบาสมาติคลุกเคล้าเนยยี่หร่าและขมิ้น หุงออกมาสีเหลืองอร่าม เสริฟพร้อมไก่ย่างสไตล์เมดิเตอเรเนี่ยน เคล้าผักผักกาดสดและมะเขือเทศสดซอยละเอียด ราดซ้อสขาว White Sauce ซึ่งเจ้าซ้อสนี้ถือเป็นทีเด็ดของเขา ทำมาจากมายองเนส ผสมน้ำมะนาว พริกไทยดำ น้ำตาล และโยเกิร์ตกรีก ส่วนใครชอบเผ็ดเขาก็มีซ้อสเผ็ดให้มาด้วย นอกจากอาหารจานข้าวแล้ว เขายังมีทางเลือกเป็นพิต้า หรือจะนำทุกอย่างที่เล่ามามาห่อเป็น wrap ก็ได้

ชาวนิวยอร์กต่อแถวรอสั่งอาหาร

ความอร่อยรูปแบบใหม่นี้ ทำให้ The Halal Guys ทะยานจากการเป็นรถเข็นเพียงคันเดียวแถว ๆ ถนน 6th Avenue ตัดกับ 53rd Street กลายเป็นแฟรนไชส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเจ้าหนึ่งของมหานครนิวยอร์ก และได้ไปเปิดสาขาในเมืองใหญ่อื่น ๆ ของอเมริกา รวมทั้งต่างประเทศอีกด้วย

ปัจจุบันไม่ใช่แค่คนมุสลิมที่มาอุดหนุน ทุกคนในนิวยอร์กต่างรู้จักข้าวและไก่ของเขาดี ไม่ว่าจะเป็นคนเชื้อสายอะไร ก็พากันมาอร่อยกันที่นี่ นักท่องเที่ยวก็ต้องมา คนแถวนั้นก็คุ้นเคย จนกลายเป็นอาหารที่ต้องมาลองหากมาเยือนนิวยอร์กซิตี้ไปโดยปริยาย

ด้วยความเอร็ดอร่อยไม่เหมือนใครของเขา หากจะมาทานช่วงที่คนเยอะ จะต้องต่อยืนต่อคิวกันยาวนานเป็นชั่ว และเคยมีเหตุคนโดนแทงตายเพราะทะเลาะกันเรื่องแซงคิวมาแล้ว เมื่อปี ค.ศ. 2006 เป็นเครื่องยืนยันว่าเรื่องความหิวไม่เข้าใครออกใคร และถ้ามาแซงคิวที่นี่อาจตายได้

เตรียมอาหารครั้งละมาก ๆ ก่อนจะทยอยเสริฟ

ผมเองได้ทราบเกี่ยวกับร้านนี้มานานแล้ว แต่คำสอนของอาจารย์ที่พร่ำเตือนไม่ให้ทานอาหารรถเข็นที่นิวยอร์ก ยังคงดังก้องอยู่ในสมอง เขาบอกว่าบรรดารถเข็นต่าง ๆ เมื่อปิดร้านตอนดึก จะเข็นจอดทิ้งเอาไว้ตามตรอกซอกซอย และไม่ได้ทำความสะอาด พอไม่มีคนบรรดาหนูและแมลงสาปก็จะมาทำหน้าที่เก็บเศษอาหารบนรถให้เอง รุ่งเช้าคนขายก็มาเอารถไปเปิดขายอาหารวนไปทุกวี่วัน

ฟังแบบนั้นผมก็ไม่ค่อยไว้ใจอาหารแนวนี้ จนในที่สุดความคิดที่ว่าถ้าไม่ลองแล้วจะรู้ได้อย่างไร (และความหิวเมื่อเดินผ่านแล้วเห็นคนอื่นกินอยู่) ก็ลอยมากลบความคิดเก่า ๆ จนมิดจนต้องขอลอง และจากนี้จะเป็นประสบการณ์ตรงของผม กับ The Halal Guys ครับ

เมนูอาหารไม่มาก สั่งเป็น A B C

แม้จะมี The Halal Guys อยู่ทั่วนิวยอร์กซิตี้ไปหมด แต่ผมเลือกไปทานที่จุดดั้งเดิมของเขา ตรงถนน 6th Ave ตัดกับ 53rd Street และเพื่อให้แน่ใจว่าจะคนไม่เยอะ ผมเลือกไปถึงสักราวบ่ายโมง

ปรากฏว่าเมื่อเดินไปถึง ก็เห็นรถเข็นสีเหลือง ๆ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของร้านเขา มีคนต่อคิวยาวมาแต่ไกล แต่คงไม่ยาวเท่าช่วงพักเที่ยง ที่เหล่ามนุษย์เงินเดินจากตึกระฟ้าต่าง ๆ พากันมาเติมพลังด้วย Chicken and Rice อันโอชา

เสริฟในถุง

บรรยากาศการต่อแถวเรียกน้ำย่อยได้ดีนัก คนขายย่างไก่ควันโขมง กลิ่นไก่ย่างและเครื่องเทศหอมอบอวลไปทั่ว และในขณะที่เขาทำอาหาร จะไม่มีการขาย หากใครเคยดูคลิ๊ปวีดีโออาหารรถเข็นที่อินเดียมาแล้ว ของ The Halal Guys เป็นแบบเดียวกัน นั่นคือเขาจะทำอาหารเป็นรอบ ๆ รอบหนึ่งทำจำนวนมาก จากนั้นค่อยตักแบ่งให้คนที่มารอ

อาหารหมดเมื่อไหร่ คนที่ยังไม่ได้ก็ต้องยืนดูเขาทำรอบต่อไปด้วยความหิวโหย แต่ก็ไม่นานนัก สำหรับเรื่องความสะอาด คนทำอาหารของที่นี่เขาจะใส่ถุงมือ และไม่จับเงิน ส่วนเศษอาหารก็หกเลอะฟุตปาตไปหมด จนแถวนั้นเต็มไปด้วยนกพิราบ นกกระจอก ที่มาคอยจิกกินตามพื้นอย่างอิ่มหมีพลีมัน

หลังจากต่อแถวรอราว ๆ ครึ่งชั่วโมง ผมก็ได้ Chicken and Rice ของผมมา เขาจะใส่ในถาดฟอยมีฝาปิดใส่ถุงอย่างดี เผื่อเราจะเอากลับไปทานที่บ้าน แต่ส่วนมากก็จะหาที่ทานกันแถวนั้น ซึ่งเขาก็มีที่นั่งหน้าอาคารแถวนั้นอยู่ เราสามารถไปนั่งได้ แต่ก็ต้องคอยรบกับบรรดานกใจกล้า ที่พยายามมาร่วมทานไปพร้อม ๆ กับเราด้วย

สำหรับ Chicken and Rice ของผมนั้น สั่งแบบปกติ ราคา 10 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยราว 3 ร้อยกว่าบาท เบื้องต้นพบว่าปริมาณเขาเยอะราว 3 เท่าของข้าวมันไก่ 1 จานที่บ้านเรา ทั้งไก่ ผัก ข้าว อัดกันมาแน่นจนไม่มีที่ว่าง หากไม่ทราบอาจไม่รู้ว่ามีข้าวอยู่ข้างใต้ไก่ เพราะพื้นผิวหน้าทั้งหมดของอาหารจานไก่นี้ ถูกปกคลุมด้วยเนื้อไก่เต็มบริเวณ โปะด้วยผักและพิต้าอีกที

แถม White Sauce และซ้อสเผ็ด พร้อมอุปกรณ์การกิน

ผมมองไปข้าง ๆ เห็นชาวจีนกำลังแบ่งกันทานสามคน ตรงกับที่ผมนึกพอดีว่ามันน่าจะทานได้สามคนอิ่มกำลังดี แต่ในเมื่อมาคนเดียว ผมก็ต้องรับผิดชอบละเลียดคนเดียว และยอมรับว่าของเขาอร่อยจริง ๆ ผมขอสารภาพว่าก่อนหน้ามาลองที่นี่หนึ่งวัน ผมไปลองอาหารเมนูเดียวกันนี้จากรถเข็นยี่ห้ออื่นมา พอดีเห็นเลยลองแบบไม่สนใจ ซึ่งก็รู้สึกพึงพอใจอยู่ แต่พอมาเปรียบเทียบกับของ The Halal Guys ของที่นี่อร่อยกว่าจริง ๆ และความแตกต่างสำคัญน่าจะมาจากเจ้า White Sauce ที่เป็นทีเด็ดของที่นี่นี่เอง ที่สำคัญเขาให้มาแบบไม่หวงของถึง 2 ซองใหญ่ด้วย

Chicken and Rice จานเด็ดของ The Halal Guys

ขณะกำลังทานอย่างมีความสุข ผมเหลือบไปเห็นคนทำอาหารทำที่คีบไก่หลุดมือ ตกลงไปที่พื้นถนน เลยแอบมองตามว่าเขาจะทำอย่างไรกับมัน สังเกตุอยู่จนจบพบว่าผู้ช่วยได้หยิบที่คีบอันนั้น แล้วเดินห่างออกไปอีกจุด หยิบขวดสเปรย์อะไรสักอย่างออกมา แล้วฉีดลงบนที่คีบหนึ่งที จากนั้นเอากระดาษเช็ดสองสามที แล้วนำกลับมาแขวนรอใช้งานต่อไป นี่แหละคือสเน่ห์ของสตรีทฟู๊ด

บรรยากาศการนั่งทานข้างถนน มีวิวเป็นรถเข็น The Hallal Guys สีเหลืองอยู่ไกล ๆ

ไม่นานข้าวและไก่ที่นึกว่าให้มาเยอะเกินไป ก็พากันพาเหรดไปอยู่ในกระเพาะผมกันหมดแบบไม่เหลืออะไรให้นกเลย การมาลองครั้งนี้ ทำให้ผมเข้าใจเลยว่าทำไม The Halal Guys ถึงได้ปฏิวัติวงการอาหารรถเข็นของนิวยอร์ก ในมหานครแห่งนี้ มีคนกินข้าวอาศัยและทำงานอยู่ไม่น้อย และนี่คืออาหารแห่งจิตวิญญาณของพวกเขา เป็นการเติมพลังที่ถูกใจของคนกินข้าวโดยแท้จริง