ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 10 - 16 พฤศจิกายน 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | Cool Tech |
ผู้เขียน | จิตต์สุภา ฉิน |
เผยแพร่ |
ขอเสียงคนโสดหน่อยค่าาาา
ชูมือขึ้นสูงๆ ส่งเสียงตะโกนดังๆ พร้อมกันอย่างภาคภูมิใจ เพราะสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ของเราค่ะ!
วันที่ 11 เดือน 11 หรือวันที่ 11 พฤศจิกายนของทุกปีเป็นวันคนโสด ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า Singles” Day หรือภาษาจีนเรียกว่า กวงกุ้นจิเย๋ ในวันนี้คนโสดจะมีโอกาสได้ฉลองกันอย่างสุดฤทธิ์สุดเหวี่ยง และจะมีวิธีอะไรที่ฉลองแล้วจะฟินมากไปกว่าการใช้เงินที่เราหามาได้มาอย่างเหน็ดเหนื่อยเพื่อซื้อของมาบำรุงบำเรอตัวเองแบบไม่ต้องรู้สึกผิดต่อใคร จริงไหมคะ
อะไรคือ “วันคนโสด”?
แม้จะมีต้นกำเนิดที่เป็นไปได้มากกว่าหนึ่งเรื่อง แต่เชื่อกันว่าวันคนโสดเริ่มต้นมาในยุคเก้าศูนย์ในกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยหนานจิงของประเทศจีน
นักศึกษากลุ่มนี้ริเริ่มการฉลองความเป็นโสดขึ้นมาเพื่อต่อต้านวันวาเลนไทน์ที่เป็นวันแห่งความรัก
และสาเหตุที่เลือกวันที่ 11/11 ก็เป็นเพราะตัวเลข 1 นั้นบ่งบอกถึงความเป็นตัวคนเดียวได้เป็นอย่างดี
และหากจะพูดถึงคนที่เข้าใจความเป็นโสดได้อย่างลึกซึ้งเนี่ย หนุ่มจีนก็น่าจะติดอันดับการครองโสดมากที่สุดในโลกนะคะ เนื่องจากช่องว่างระหว่างจำนวนประชากรหญิงและชายของจีนนั้นถือว่าถ่างออกจากกันห่างมาก
จากการคาดประมาณคือภายในปี 2030 จะมีชายจีนช่วงวัยปลายสามสิบถึง 1 ใน 4 เลยทีเดียวที่ไม่ได้แต่งงาน
ดังนั้น หนุ่มๆ จีนจึงมีสิทธิฉลองวันนี้ได้อย่างเสียงดังกว่าใครๆ
แต่ในความเป็นจริงวันคนโสดก็ฉลองกันได้ทุกเพศค่ะ
“วันคนโสด” มีความหมายพิเศษยังไง?
วันคนโสดเริ่มต้นด้วยการฉลองความโสดในแบบที่ต้องการจะบอกพวกคนมีคู่ทั้งหลายที่ควงแขนกันออกเดตอย่างหน้าชื่นตาบานในวันวาเลนไทน์ว่า ฉันโสดฉันก็โอเคนะยะ
แต่ก็ถูกเปลี่ยนความหมายของมันไปเป็นรูปแบบต่างๆ
เช่น คนโสดหลายคนไม่ได้ใช้โอกาสนี้ในการแสดงออกว่าฉันดูแลตัวเองได้
แต่ใช้มันเป็นวาระในการประกาศความโสดเพื่อเปิดหาคู่ครองให้เดินเข้ามาในชีวิต
ทว่า คนที่นิยามความสำคัญของวันนี้ใหม่ทั้งหมด และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นวันทำรายได้มหาศาล
ก็ต้องยกให้เขาคนนี้ แจ๊ก หม่า และทีมงานอาลีบาบาค่ะ
ฉลองความโสดเกี่ยวอะไรกับอาลีบาบา?
ความสนุกมันอยู่ตรงนี้แหละค่ะ
อาลีบาบาที่เป็นยักษ์ใหญ่แห่งการค้าปลีกออนไลน์ของจีน เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่าไหนๆ คนโสดก็ฉลองวันนี้แล้ว ทำไมไม่ชักชวนให้มาฉลองด้วยการซื้อของออนไลน์บนเว็บไซต์ของตัวเองกันล่ะ
คุณผู้อ่านลองนึกดูสิคะ รายจ่ายส่วนใหญ่ของคนโสดไปตกอยู่ที่ไหนบ้าง
ส่วนใหญ่ก็จะมาใช้จ่ายให้กับสินค้า บริการ ตามความต้องการของตัวเองจริงไหมคะ
เมื่อไม่มีลูก ไม่มีสามี ไม่มีภรรยา ก็ไม่ต้องมีบ่วงมีห่วงที่จะต้องกันรายได้เอาไว้ให้ใคร เงินทั้งหมดที่หามาได้ก็ย่อมต้องแบ่งสัดส่วนมาเป็นการใช้จ่ายให้กับตัวเองได้มากกว่าคนที่มีครอบครัวแล้ว
ในปี 2009 อาลีบาบาก็เลยออกแคมเปญ Double 11 หรือ “ซวงสืออี” (???) แล้วโหมประชาสัมพันธ์อย่างยิ่งใหญ่
คัดเอาดีลช้อปปิ้งดีๆ ลด แลก แจก แถม กระหน่ำลงไปจนเว็บแทบแตก
คนโสดในจีนที่หาโอกาสฉลองวันนี้อยู่แล้วก็เฮกันเข้ามาจับจ่ายซื้อของกันราวกับแจกฟรี
แค่ปีแรกอาลีบาบาก็ทำยอดขายไปได้ห้าสิบล้านหยวนหรือราวเกือบสองร้อยห้าสิบล้านบาท
แค่นั้นยังไม่พอ ในปี 2011 ที่ตัวเลขวันเดือนปีมาบรรจบกันกลายเป็น 11.11.11 พอดิบพอดีนั้น ยอดขายก็พุ่งขึ้นไปเป็นร้อยเท่าเลยทีเดียว
คนจีนนี่เขาช้อปกันโหดจริงๆ
ส่วนอาลีบาบาก็จดเครื่องหมายทางการค้าของคำนี้ และเดินหน้าอัดฉีดเงินเข้าไปในแคมเปญซวงสืออีอย่างยิ่งใหญ่ขึ้นทุกปีๆ
จนกลายเป็นเทศกาลสำคัญที่ทั่วโลกจับตามอง
และประเทศอื่นก็เริ่มหยิบโมเดลนี้ไปใช้ด้วย
สินค้าอะไรน่าซื้อ?
ดีลของสินค้าบริการต่างๆ ที่ขายกันในช่วงเทศกาลคนโสดไม่ได้มีแค่แบรนด์จีนอย่างเดียวเท่านั้นค่ะ เพราะว่าแบรนด์ระดับสากลทั้งหลายต่างก็กระโดดเข้ามาขอร่วมแหวกว่ายท่ามกลางมหาสมุทรเงินหยวนนี้ด้วย
ซู่ชิงลองคลิกเข้าไปดูที่เว็บไซต์เถาเป่า (taobao) ของอาลีบาบา ซึ่งแปะแบนเนอร์ฉลองวัน 11.11 อย่างยิ่งใหญ่ มีแบรนด์ที่เข้าร่วมโปรโมชั่นมาเรียงรายต่อกันยาวเหยียด
ซู่ชิงคลิกไล่ดูจนปวดนิ้วไปหมด มีทั้ง เครื่องใช้ไฟฟ้า แก็ดเจ็ต เครื่องสำอาง โปรโมชั่นรถยนต์ สินค้าแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ ทั้งหมดถูกนำเสนอด้วยสีสันสดใสจนทำให้รู้สึกว่า โอ้โห เป็นคนโสดนี่ดีจังเลยแฮะ 555
ดีลที่เห็นทั้งหมดไม่ได้มีแค่วันที่ 11 วันเดียวเท่านั้นนะคะ แต่เขาปูทางกันมาตั้งแต่เริ่มเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงวันที่ 11 หรือในบางที่ก็ปูยาวไปจนถึงจบเดือนเลยก็มี
จะไม่เสียเงินซื้อของสักชิ้นก็ให้มันรู้ไป
มีเทคโนโลยีอะไรเข้ามาเกี่ยวบ้าง?
นอกจากยอดขายที่สูงจนน่าสะพรึงจะเป็นตัวบ่งชี้ให้เห็นถึงความแพร่หลายของเทคโนโลยี อย่างการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตกันได้กว้างขวางขึ้น การมีโทรศัพท์มือถือที่คนใช้เป็นเครื่องมือในการเข้ามาซื้อของออนไลน์กันถ้วนหน้าขึ้นแล้ว
อาลีบาบาเองก็ยังจัดเต็มด้านการใช้เทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวกให้คนที่เข้ามาซื้อของ ด้วยการเชื่อมเอาการขายออนไลน์เข้ากับความบันเทิง
มีทั้งการเล่นเกมแบบ augmented reality การใช้เทคโนโลยีวีอาร์ให้ลูกค้าทัวร์ร้านขายของเสมือนจริง
หรือใช้ห้องลองเสื้อเสมือนจริงมาช่วยให้ตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าได้ง่ายขึ้น
แถมยังมีการไลฟ์สตรีมคอนเสิร์ต แฟชั่นโชว์ รายการบันเทิงต่างๆ ให้ชมอย่างจุใจด้วย
เป็นยังไงบ้างคะ ศักยภาพและพลังอำนาจในการซื้อของคนโสดเนี่ยเป็นตลาดที่ใหญ่โตเกินกว่าที่คิดกันมากเลยใช่ไหมคะ
ที่น่าสนใจคือตอนนี้ซู่ชิงก็เริ่มเห็นแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์บางแห่งของไทยหยิบไอเดียวันคนโสดมาใช้ในการจัดโปรโมชั่นแล้ว เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ไปจนถึงประเทศทางฝั่งตะวันตก ที่เริ่มจะเล่าลือเรื่องวันคนโสดกันหนาหูมากขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้เชื่อว่าอีกไม่นานหรอกค่ะ ที่วันคนโสดจะกลายเป็นเทศกาลระดับสากลที่คนทั่วโลกร่วมฉลองไปพร้อมๆ กันได้
และเม็ดเงินที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจะนำหน้ายอดขายในวันช้อปออนไลน์ที่เรารู้จักกันดีอย่าง Black Friday หรือ Cyber Monday ไปชนิดเทียบไม่ติด
ซึ่งในความเป็นจริงตอนนี้แม้จะแค่นับยอดขายในจีนอย่างเดียวก็ทิ้งห่างสองวันนั้นไปแบบไม่ติดฝุ่นแล้วค่ะ
วันคนโสดปีนี้ คุณผู้อ่านจะซื้ออะไรให้เป็นของขวัญแด่อิสรภาพของตัวเองกันดีคะ