E-DUANG :  แล้ว”ปรับทัศนคติ” ก็ “ขยายวง”

ภาพของแกนนำเกษตรกรชาวสวนยาง ไม่ว่าที่ตรัง ไม่ว่าที่พัทลุง ถูกเชิญตัวเข้าค่ายทหาร”ปรับทัศนคติ”

เห็นแล้วคุ้น-คุ้น

เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในห้วงแรกหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษ ภาคม 2557

เพียงแต่เกิดขึ้นใน”ภาคเหนือ” และ”ภาคอีสาน”

เป็นภาพที่ทหารเดินทางไปเยี่ยมและเชิญตัว”แกนนำ”ให้เข้าไปในค่ายทหารแล้ว”ปรับทัศนคติ”

เป็นภาพที่ชินตาของคนเหนือ ของคนอีสาน

เพียงแต่เมื่อวันที่ 11และ 12 พฤศจิกายน เกิดขึ้นที่ตรัง เกิดขึ้นที่พัทลุงทาง “ภาคใต้”เท่านั้นเอง

แต่ด้วยเป้าหมายเดียวกัน คือ “ปรับทัศนคติ”

 

การเชิญ”แกนนำ”เข้า“ปรับทัศนคติ”ไม่ว่าที่ค่ายรัษฎานุประดิ๋ษฐ์ ไม่ว่าที่ค่ายอภัยบริรักษ์ ส่งผลอย่างฉับพลัน

ไม่มีชาวสวนยางจากตรัง จากพัทลุงไป”กทม.”

แทนที่จะได้ “พวงหรีด” ในวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ ปรากฏภาพ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ออกมารับช่อดอกไม้

เรียกร้องให้เป็นรัฐมนตรี”เกษตร” ต่อ

เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ ไม่ว่าจะเป็นการมอบช่อดอกไม้ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเชิญตัวแกนนำเกษตรกรเข้าค่ายทหารปรับทัศนคติ

แต่ถามว่า ปัญหาราคายางพาราเสื่อมทรุดตกต่ำได้รับการแก้ไขหรือไม่

 

ไม่ว่าการเชิญตัว”แกนนำ”จากที่ใดเข้า”ปรับทัศนคติ”ล้วนเป็นเรื่องน่าเห็นใจ

เพียงแต่ปรากฎการณ์”ยางพารา”สะท้อนการขยายวง

การปรับทัศนคติมิได้มีแต่ต่อแกนนำภาคเหนือ ภาคอีสานเท่านั้น หากแต่เริ่มเกิดขึ้นในภาคใต้

เท่ากับมีความเสมอภาคอย่างถ้วนหน้า

ในอีกด้านหนึ่งก็สะท้อนให้เห็นว่าปัญหามิได้มีอยู่ในภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง หากแต่ชาวบ้านในภาคใต้ก็เริ่มประสบ

คำถามก็คือ วิธีการทาง”การเมือง”จะสามารถแก้ปัญหาทาง”เศรษฐกิจ”ได้หรือไม่