คอลัมน์ประจำ

จตุพร-เสื้อแดงและเพื่อไทย

วงค์ ตาวัน
ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 3 - 9 กุมภาพันธ์ 2566
คอลัมน์ชกคาดเชือก
ผู้เขียนวงค์ ตาวัน
เผยแพร่

ชกคาดเชือก | วงค์ ตาวัน

 

จตุพร-เสื้อแดงและเพื่อไทย

 

กรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ หนึ่งในแกนนำเสื้อแดง ที่ออกโรงแฉแหลกนายทักษิณ ชินวัตร เป็นประเด็นที่สร้างความเกรียวกราวพอสมควร เพราะเป็นการออกมาพูดในฐานะผู้เคยเป็นแกนนำขบวนการมวลชนที่แนบแน่นอยู่กับนายทักษิณและพรรคเพื่อไทยมาตลอด

คนเคยใกล้ชิดกัน พอเอาเรื่องที่คนทั่วไปไม่เคยรู้ ออกมาพูดออกมาแฉ ย่อมเป็นที่สนใจใคร่รู้ของประชาชนวงกว้าง

แน่นอนว่าแม้ทักษิณจะมีมวลชนที่ยังรักและสนับสนุนอย่างมากมาย แต่ก็เป็นปุถุชนคนธรรมดา มีดีมีเสีย มีผิดพลาดได้ เป็นเรื่องปกติธรรมดา การออกมาแฉของนายจตุพร ถือเสียว่าทำให้ได้ข้อมูลได้ความรู้ เพื่อนำไปวิเคราะห์แยกแยะต่อไป

แต่หากจะวิเคราะห์ปรากฏการณ์จตุพร ว่าสะท้อนถึงความสัมพันธ์ของขบวนการเสื้อแดงกับทักษิณหรือกับพรรคเพื่อไทยแล้ว คงจะกล่าวเช่นนั้นไม่ได้

เพราะบทบาทของนายจตุพรช่วงหลัง ออกมาในนามคณะหลอมหลวมประชาชน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ผสมผสานอดีตแกนนำทุกสีทุกกลุ่ม ประกาศก้าวข้ามความขัดแย้งเรื่องสีไปแล้ว

ภาพของนายจตุพร เริ่มไม่ใช่ภาพของเสื้อแดงอีกต่อไป

นายจตุพรยังเป็นนักเคลื่อนไหวมวลชนที่มีกิจกรรมต่อเนื่อง แต่แนวก้าวข้ามสี

ก่อนหน้านี้พยายามเคลื่อนไหวเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้พ้นจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มนายจตุพรออกมาเคลื่อนไหวประเด็นนี้ ในขณะที่ช่วงนั้นม็อบ 3 นิ้ว มีการเคลื่อนไหวชุมนุมบ่อยๆ เช่นเดียวกัน

จนทำให้เด็กรุ่นใหม่มองม็อบของนายจตุพรอย่างคลางแคลงใจไม่น้อย เพราะการขับไล่ประยุทธ์ เหมือนพยายามลดกระแสม็อบ 3 นิ้วเสียมากกว่า

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ประเด็นการเคลื่อนไหวของม็อบนายจตุพรยังถือว่าเป็นม็อบในแนวทางประชาธิปไตย

ส่วนการดับเครื่องชนนายทักษิณในช่วงระยะนี้ ก็มีการตั้งข้อสังเกตอีกว่า เป็นช่วงใกล้จะมีการเลือกตั้งพอดี

เลยเป็นที่วิเคราะห์เบื้องหน้าเบื้องหลังกันในหลายแง่มุม

บทบาทของนายจตุพรก็ยังต้องจับตามองต่อไป ข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับนายทักษิณที่นำมาเปิดเผย ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดวิเคราะห์ ทำให้คนได้รับฟังรับรู้ได้ประโยชน์

แต่ถึงที่สุด การเคลื่อนไหวของนายจตุพรก็มิใช่ภาพของขบวนการเสื้อแดง

ไม่อาจมองได้ว่าเป็นความขัดแย้งระหว่างเสื้อแดงกับนายทักษิณและกับพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด!

 

มีอีกกลุ่มที่มักออกมาแสดงตัวเป็นผู้นำหมู่บ้านเสื้อแดง แต่เคลื่อนไหวตรงกันข้ามกับแนวทางเดิมๆ ของเสื้อแดง ล่าสุด กลุ่มที่เรียกตัวเองว่าเป็นประธานหมู่บ้านเสื้อแดง แห่กันเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อไป

ประเด็นนี้เรียกเสียงฮาไปทั่ว เพราะเสื้อแดงตัวจริงที่ยังเคลื่อนไหวเป็นเรื่องเป็นราว ตอนนี้กำลังทวงความเป็นธรรมให้กับเหยื่อกระสุนจริงจากการสลายม็อบเมื่อปี 2553 ที่ตายไป 99 ศพ

เพิ่งไปยื่นเรื่องขอให้มีการเดินหน้าทำสำนวนชันสูตรพลิกศพคนเสียชีวิตในเหตุการณ์นองเลือดดังกล่าว

เพราะเดิมที มีการทำสำนวนชันสูตรพลิกศพ นำขึ้นไต่สวนชั้นศาล จนสุดท้ายศาลได้ชี้ผลไปแล้วว่า มี 17 ศพ ที่ตายด้วยกระสุนปืนจากทหาร หรือยิงจากฝั่งทหาร

แต่หลังจากการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 การชันสูตรพลิกศพก็ชะงักไป

ตอนนี้จึงเคลื่อนขบวนเสื้อแดง เพื่อทวงถามความเป็นธรรมให้กับคนตาย 99 ศพกันอีกระลอก

ประเด็นสำคัญคือ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหนึ่งในผู้นำกองทัพ ที่อยู่ในเหตุการณ์สลายม็อบ 99 ศพ และผลจากการรัฐประหารที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ ก็ทำให้คดีนี้เงียบหายไปทันที

ทั้งนี้ น่าสังเกตว่า เบื้องหลังขบวนการสมคบคิด ที่ก่อม็อบชัตดาวน์ ทำประเทศให้ถึงทางตัน เพื่อให้เกิดรัฐประหารปี 2557 นั้น ทั้งพลเรือนและผู้นำทหาร ล้วนเป็นกลุ่มที่เกี่ยวพันกับคดี 99 ศพทั้งสิ้น จนน่าเชื่อว่าคดีนี้เอง ที่เป็นหนึ่งในชนวนอันจำเป็นต้องล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์และประชาธิปไตย

เช่นนี้แล้วจะมีเสื้อแดงที่ไหนประกาศตัวไปสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์

เสื้อแดงของจริงมีแต่กำลังทวงหนี้ชีวิต 99 ศพ จากการสลายม็อบเมื่อปี 2553

เป็นไปไม่ได้เลย ที่ขบวนการเสื้อแดงของจริง จะไปรักใคร่สนับสนุนผู้นำกองทัพ แถมเป็นกลุ่มที่โยงใยกับเหตุสังหาร 99 ศพ รวมทั้งเป็นผู้ก่อรัฐประหารล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ขบวนการเสื้อแดง เป็นมวลชนรากหญ้า ให้การสนับสนุนนายทักษิณและพรรคเพื่อไทยมาตลอด เพราะแนวนโยบายของพรรคนี้ได้แก้ปัญหาปากท้องชีวิตความเป็นอยู่ของคนยากจนในชนบทได้อย่างเป็นรูปธรรรม

เสื้อแดงกับเพื่อไทยจึงเป็นความสัมพันธ์ที่มีความเป็นมาชัดเจนคือ นโยบายที่ทำให้ประชาชนคนชนบทเห็นความสำคัญของการเลือกตั้งและของประชาธิปไตย เพราะทำให้ได้รัฐบาลที่มีนโยบายเอื้อประโยชน์ต่อความเป็นอยู่ การทำมาหากินของคนยากคนจนนั่นเอง

กับ พล.อ.ประยุทธ์และกับรัฐบาลทหาร มีแต่ยืนอยู่ตรงกันข้าม เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีเสื้อแดงตัวจริงไปร่วมสนับสนุน

 

แกนนำเสื้อแดงคนสำคัญๆ เช่น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ยังคงมีบทบาทหลักอยู่ในครอบครัวเพื่อไทย ร่วมเดินสายปราศรัยหาเสียงให้กับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด แถมยังนำเสื้อแดงไปร่วมการชุมนุมสนับสนุนการต่อสู้ของม็อบคนรุ่นใหม่อย่างแนบแน่นอีกด้วย

ยังยืนในหลักประชาธิปไตย สนับสนุนการต่อสู้ของคนรุ่นใหม่ที่มีเป้าหมายผลักดันสังคมที่มีเสรี มีอนาคต

ภาพรวมของขบวนการเสื้อแดงในวันนี้ จึงยังต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ต่อต้านผู้นำกองทัพที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ 99 ศพ และสนับสนุนพรรคเพื่อไทย เพราะนโยบายตอบสนองคนรากหญ้า

ความแนบแน่นของเสื้อแดงกับเพื่อไทย จึงยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สำหรับการเลือกตั้ง 2566 ที่ใกล้จะมาถึง

การเลือกตั้งทุกๆ ครั้งในหลายปีหลัง มวลชนเสื้อแดงที่หนาแน่นในภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง ยังเป็นฐานคะแนนที่สำคัญของพรรคเพื่อไทย

ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง เสื้อแดงยังคงอยู่ในแนวทางฝ่ายประชาธิปไตย ยังเลือกเพื่อไทยเป็นหลัก

อาจจะมีบางส่วนที่หันไปเลือกพรรคก้าวไกล เพราะเห็นด้วยกับแนวทางแบบคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมทั้งโครงสร้าง

ขบวนการเสื้อแดงส่วนใหญ่ไม่มีทางที่จะเอนเอียงไปให้กับพรรคที่มีแนวทางอนุรักษนิยมการเมือง เชื่อมโยงขุนศึกขุนนาง

ที่สำคัญ ในหมู่คนเสื้อแดงยังมีความหวังอย่างมากว่า หากพรรคฝ่ายประชาธิปไตยชนะเลือกตั้งอย่างท่วมท้น และได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลในสมัยหน้า

ย่อมเป็นโอกาสอันดี ที่คดี 99 ศพ ซึ่งเสื้อแดงถูกเข่นฆ่า ถูกปราบปรามอย่างโหดร้ายรุนแรงเมื่อปี 2553

จะได้รับการรื้อฟื้นเพื่อสะสางคดีอีกครั้ง ในยุครัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย!