ภาพยนตร์ นพมาส แววหงส์ THOR : RAGNAROK “ตำนานแห่งกาลปาวสาน”

นพมาส แววหงส์

ภาพยนตร์ / นพมาส แววหงส์

THOR : RAGNAROK “ตำนานแห่งกาลปาวสาน”

กำกับการแสดง Taika Waititi

นำแสดง Chris Hemsworth, Tom Hiddleton, Cate Blanchett, Idris Elba, Jeff Goldblum, Tessa Thompson, Mark Ruffalo, Anthony Hopkins, Benedict Cumberbatch, Karl Urban

ซูเปอร์ฮีโร่ของมาร์เวลที่ชื่อ “ธอร์” นี้เป็นเทพเจ้าแห่งสายฟ้าจากปกรณัมปรัมปราของชาวนอร์ส ซึ่งอยู่ทางเหนือของยุโรป หรือที่เรามักเรียกกันว่าพวกไวกิ้ง

เมื่อมาร์เวลนำเอาซูเปอร์ฮีโร่ในสังกัดมารวมทีมกู้โลกให้รอดปลอดภัยจากภัยคุกคามของเหล่าซูเปอร์วายร้าย ธอร์ก็มาร่วมทีม The Avengers โดยมี คริส เฮมส์เวิร์ธ มารับบทบาทของเทพเจ้าแห่งสายฟ้าผู้ถือค้อนคู่ใจเป็นอาวุธ และมาหลงรักมนุษย์สาวชาวโลก (นาตาลี พอร์ตแมน) ในภาคก่อนๆ

ธอร์มีภารกิจในการติดตามค้นหา “อินฟินีตี้ สโตนส์” อันทรงอิทธิฤทธิ์ จึงหายหน้าไปจากทีมอเวนเจอร์ภายใต้การนำของ “ไอออนแมน”/โทนี สตาร์ก และ “กัปตันอเมริกา” นับแต่ภารกิจกอบกู้โลกในเรื่อง The Avengers : Age of Ultron

กลับมาอีกทีก็ในหนังที่เป็นชื่อของตัวเอง คือ Thor : Ragnarok นี่แหละ

ในหมู่นักเล่นวิดีโอเกมในช่วงไม่เกินยี่สิบปีที่ผ่านมานี้ คำว่า “แร็กนาร็อก” คงจะคุ้นหูอยู่แล้ว เพราะเป็นเกมยอดนิยมเกมหนึ่ง (ที่ผู้เขียนรู้จักดีเพราะลูกชายติดเกมนี้ แล้วลูกยังแปลกใจอีกว่าทำไมแม่ถึงรู้จักแร็กนาร็อกเหมือนกันด้วย แหม…ก็ออกมาจากตำนานเก่าแก่ที่เคยเรียนมาสมัยอยู่มหาวิทยาลัย แล้วต่อมายังได้แปลหนังสือที่ใช้ชื่อไทยว่า “ปกรณัมปรัมปรา” อีกนี่นา)

คำว่า แร็กนาร็อก มีต้นตอมาจากเรื่องปรัมปราของชาวนอร์ส ซึ่งมีคำพยากรณ์ถึงกาลอวสานของโลกและสวรรค์ที่เรียกว่า “อัสการ์ด” โดยเรียกช่วงเวลานั้นว่า “แร็กนาร็อก”

ผู้เขียนจึงรู้สึกเหมือนธอร์เป็นเพื่อนเก่าคนหนึ่งในโลกจินตนาการ ธอร์เป็นลูกของเทพเจ้าสูงสุดโอดินผู้เศร้าสร้อย ซึ่งปกครองดินแดนอัสการ์ด หรือสวรรค์ของชาวนอร์ส โอดินตาบอดข้างหนึ่ง และมีลูกชายนอกคอกชื่อ “โลกิ” ซึ่งเป็นน้องชายของธอร์

ในหนังของมาร์เวล โลกิแสดงโดย ทอม ฮิดเดิลตัน ในบทตัวโกงจอมปลิ้นปล้อนแบบเอาตัวรอดในทุกสถานการณ์ ซึ่งร้ายกาจจนครองใจคนดู

ดังนั้น เมื่อโลกิตาย หลังจากก่อความวินาศสันตะโรให้แก่โลกมนุษย์ใน Age of Ultron ในเทรลเลอร์ท้ายเรื่อง เราจึงเห็นว่าอันที่จริงโลกิจอมมารยาและจอมมายา ผู้ทรยศหักหลังธอร์มานับครั้งไม่ถ้วน เสแสร้งสร้างภาพลวงของความตายของตนเอง

และกลับมาโผล่หน้าอีกครั้งในฐานะจอมมายาที่แปลงร่างเสวยสุขอยู่ในอัสการ์ดในฐานะมหาเทพโอดิน ขณะที่โอดินตัวจริงโดนเนรเทศไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้

เรื่องเริ่มที่ธอร์ (คริส เฮมส์เวิร์ธ) ถูกจองจำอยู่ในกรงเล็บของเซอร์เชอร์ ซึ่งเป็นภูตแห่งไฟบรรลัยกัลป์ ที่มุ่งหมายทำลายล้างอัสการ์ดให้สิ้นซาก และแล้วธอร์ก็ปราบเซอร์เชอร์ลงได้ โดยริบเขาบนหัวของภูตตนนี้ไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัยในอัสการ์ด

ธอร์กลับอัสการ์ดและพบว่าไบฟรอสต์ ซึ่งเป็นประตูทางเข้าอัสการ์ดที่ปกติมีไฮม์ดัล (ไอดริส เอลบา) เป็นผู้พิทักษ์ ตอนนี้มีสเคิร์จ (คาร์ล เออร์บัน) เป็นคนเฝ้าแทน และโลกิปลอมตัวเป็นโอดิน ครองบัลลังก์อยู่

ธอร์ติดตามหาพระบิดาโอดิน (แอนโทนี ฮอปกินส์) ระหว่างทางเจอเข้ากับ ดร.สเตรนจ์ (เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์) ผู้มีเวทมนตร์คาถาเหมือนผู้วิเศษ ซึ่งเสกให้เขาได้พบโอดินผู้เศร้าสร้อย ขณะที่กำลังจะจากไปชั่วนิรันดร์ แต่ก็ไม่ก่อนที่โอดินจะเล่าให้ฟังถึงลูกสาวคนโตผู้ชั่วร้าย ชื่อเฮลา (เคต แบลนเช็ตต์) ผู้หวังจะครองครองอัสการ์ดด้วยอิทธิฤทธิ์ที่เพิ่มพูนขึ้น

เฮลาทำลายค้อนอันทรงฤทธิ์ของธอร์ได้ และทำให้ธอร์หลุดไปสู่ภพอื่น ซึ่งปรากฏว่าเป็นดาวเคราะห์ที่ทิ้งขยะ และเขาถูกสาวขี้เหล้าซึ่งเป็นนักล่าเงินรางวัลจับตัวไปขายให้แก่แกรนด์มาสเตอร์ (เจฟฟ์ โกลด์บลัม) ซึ่งเป็นเหมือนนักค้าทาสและจัดการแข่งขันชิงความเป็นผู้ชนะในสังเวียนแบบแกลดิเอเตอร์ของชาวโรมัน

ธอร์พบว่าคู่ต่อสู้ของเขาในสังเวียนคือ ฮัลก์ผู้ทรงพลัง ตัวตนอีกตัวของ บรูซ แบนเนอร์ (มาร์ก รัฟฟาโล) ฮัลก์เคยเป็นเพื่อนร่วมทีมอเวนเจอร์

หลังจากซูเปอร์ฮีโร่สองคนต่อสู้ฟาดฟันกันเองอย่างถึงพริกถึงขิง ทั้งคู่ก็ร่วมมือกันหนีจากดาวเคราะห์ดวงนี้ โดยขโมยยานบินผ่านรูหนอนมาสู่อัสการ์ด

มาฟาดฟันชิงชัยกับเฮลา ผู้มีสุนัขยักษ์เป็นสมุน และยังปลุกคนตายให้คืนชีพมาเป็นกองทัพต่อสู้ให้

เมื่อปราศจากค้อนคู่ใจ ธอร์ก็แทบจะเอาตัวไม่รอด เพราะขาดความเชื่อมั่นในอิทธิฤทธิ์ของตน ตราบจนต้องมีคนเตือนให้เขารู้ว่าเขาไม่ใช่เทพเจ้าแห่งค้อนสักกะหน่อย แต่เป็นเทพเจ้าแห่งสายฟ้าต่างหาก

แถมเมื่อถึงที่สุดของที่สุดแล้ว เขายังนึกถึงคำของพระบิดาที่ว่า “อัสการ์ดไม่ใช่สถานที่ แต่อัสการ์ดคือผู้คน” ซึ่งหมายความว่าผู้คนต่างหากที่ทำให้อัสการ์ดเป็นอัสการ์ดขึ้นมา

เช่นเดียวกับหนังอเวนเจอร์สเรื่องอื่นๆ หนังของธอร์เรื่องนี้เป็นหนังรวมดารา นักแสดงบทสำคัญที่เป็นคนหน้าใหม่ของเรื่อง คือตัวร้าย ที่เล่นโดย เคต แบลนเช็ตต์ แบบที่เป็นนางมารร้ายที่เราต้องจดจำไปอีกนาน เคตเป็นนักแสดงสุดยอดฝีมือคนหนึ่งของวงการ เล่นเรื่องไหนก็ตีบทแตกกระจุย และแปลงโฉมแปลงแคแร็กเตอร์ได้อย่างน่าทึ่งเหลือเกิน

เจฟฟ์ โกลด์บลัม ซึ่งหายหน้าไปจากวงการหลายปี กลับมาในบทที่มีรสมีชาติ แต่เนื่องจากการเป็นหนังรวมดารา บทบาทก็เลยต้องเฉลี่ยกันไปคนละนิดคนละหน่อย

ยกเว้นบทของธอร์และโลกิ ซึ่งเป็นบทที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับตัวละครคู่นี้

เมื่อแร็กนาร็อกกลายเป็นจริงขึ้นสมดังคำพยากรณ์แล้ว ผู้คนของธอร์ก็มุ่งหน้าสู่ดินแดนแห่งเดียวที่ดูจะปลอดภัยสำหรับพวกเขา (ยกเว้นสำหรับโลกิ ซึ่งสร้างความวินาศสันตะโรแก่โลกไว้ในภาคก่อนๆ) นั่นคือโลกมนุษย์นี้เอง

คราวหน้าก็ต้องคอยติดตามดูกันต่อไปอีก ว่าวัฒนธรรมสมัยใหม่ของเราจะเอาตำนานเก่ามาเล่าใหม่ให้กลายเป็นอย่างไรต่อไป

หนังสนุกมากนะคะ มีอารมณ์ขันอย่างฟุ่มเฟือย ผู้เขียนดูแล้วแอบนึกด้วยซ้ำว่าใช้มุขเหมือนหนังไทยเลย แต่ก็อดขำไม่ได้สักที

เวิร์กค่ะ