‘รับเงินหมา กาเพื่อไทย’ อุ๊งอิ๊งประกาศ ‘เอาลุงกลับไป’ พร้อมพาเพื่อไทยแลนด์สไลด์

‘รับเงินหมา กาเพื่อไทย’ อุ๊งอิ๊งประกาศ ‘เอาลุงกลับไป’ พร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯ พาเพื่อไทย สู่แลนด์สไลด์

 

การปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อไทยและครอบครัวเพื่อไทยที่จัดขึ้นกลางทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี

น่าสนใจไม่เพียงเป็นการขึ้นเวทีแบบเปิดครั้งแรกของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

แต่ยังเป็นการประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการว่า พร้อมรับหน้าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งที่ใกล้จะมาถึง

กับอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะ จ.อุดรธานี ถือเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง ฐานเสียงมวลชนขนาดใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ยืนยันด้วยการกวาดที่นั่ง ส.ส.แบบยกจังหวัด 8 เขต ในการเลือกตั้งปี 2562 และ 9 เขตในการเลือกตั้งปี 2554

ครั้งนี้ จึงไม่แปลกที่พรรคเพื่อไทยจะเลือกมาเปิดตัว น.ส.แพทองธาร ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ที่ จ.อุดรธานี

แม้นายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง อีกคนที่มีชื่อเป็น 1 ในแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยจะไม่ได้มาร่วมเวที ด้วยเพราะต้องรอช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสมกว่านี้

“เรื่องแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคใช้หลักการว่า เราจะเปิดทั้งหมด 3 รายชื่อ เป็นรายชื่อที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ส่วนจะเปิดเมื่อไหร่นั้น หากยุบสภา เราจะประกาศทันที แต่หากสภาอยู่ครบวาระ เราก็จะดูเวลาที่เหมาะสม อาจจะเป็นระยะวลาใกล้ๆ ประมาณต้นเดือนมีนาคม” นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยระบุ

อย่างไรก็ตาม การที่พรรคเพื่อไทยได้ทั้ง น.ส.แพทองธาร และนายเศรษฐา มาเป็นแกนชูโรง ถือเป็นมิติใหม่ทางการเมืองน่าสนใจ เพราะถือว่าได้ทั้งคนรุ่นใหม่และคนมีประสบการณ์ทางธุรกิจอย่างนายเศรษฐา มาร่วมสู้ศึกใหญ่

การขยับขับเคลื่อนของพรรคเพื่อไทยจากนี้จึงเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองน่าจับตา

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยวางแผนเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ตามไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้

“อิ๊งพร้อม เพราะอิ๊งรู้สึกว่าเราลงมาจุดนี้ เราอยากให้พรรคแลนด์สไลด์ เพื่ออะไร เพื่อนำนโยบายต่างๆ ที่สัญญากับประชาชนทุกจังหวัด ผลักดันให้เกิดขึ้นจริงๆ ให้ได้”

“แต่แน่นอนว่าเป้าหมายของอิ๊ง คือนโยบายที่ผลักดันให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ถ้าสุดท้ายแล้วพรรคมีคนที่เหมาะสมกว่า อิ๊งก็พร้อมเหมือนกัน”

สำหรับนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ถ้าจะมาช่วยหาเสียงก็ถูกต้องตามกฎหมาย

น.ส.แพทองธารยืนยันมีโอกาสเห็นทั้งตนเองและนายเศรษฐา ลงพื้นที่ร่วมกันแน่นอน และที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยก็แอบขอคำปรึกษานายเศรษฐาอยู่เรื่อยๆ ทั้งเรื่องนโยบายและเศรษฐกิจ เพราะเป็นบุคคลมีความรู้ความสามารถ

ความคึกคักในการลงพื้นที่ จ.อุดรธานี ของพรรคเพื่อไทยและ น.ส.แพทองธาร เริ่มตั้งแต่ที่สนามบินอุดรธานี เมื่อมีประชาชนนับพันคนมารอต้อนรับกันเนืองแน่น

ส่วนเวที “อีสานยามใด๋ เพื่อไทยทอนั่น” ที่จัดขึ้นกลางทุ่งศรีเมือง มีประชาชนจำนวนมากราว 3 หมื่นคน มารอติดตามฟังการปราศรัยใหญ่ครั้งนี้

ท่ามกลางแกนนำพรรคที่สลับขึ้นปราศรัยทั้ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย เป็นต้น

เมื่อถึงช่วงไฮไลต์ น.ส.แพทองธารก้าวขึ้นเวทีด้วยความมุ่งมั่นจริงจัง กล่าวปราศรัยช่วงหนึ่งว่า ฝากไปบอกคนที่ไม่มาฟังปราศรัยวันนี้ด้วยว่า เอาลุงกลับไป เพื่อไทยมาแล้ว เอาลุงกลับไปเลี้ยงหลาน ลุงโทนี่ก็น่าจะได้กลับมาเลี้ยงหลานบ้าง

ตอนนี้เหตุการณ์ในปัจจุบันพี่น้องเป็นหนี้สินกันเยอะ ใกล้เลือกตั้งแล้วเมื่อมีคนเอาเงินมาให้ ขอให้รับไว้ เพราะเรามีหนี้มีสินมานาน

“รับเงินหมา กาเพื่อไทย ขอให้ชาวอุดรฯ เลือกทั้งคนและพรรคทั้ง 9 เขต” น.ส.แพทองธารกล่าวปราศรัยเสียงดัง

พร้อมเล่าย้อนไปถึงนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดาด้วยว่า

ตอนนั้นเกิดน้ำท่วมที่อุดรฯ คุณพ่อเป็นนายกฯ ก็สั่งระเบิดถนนทำให้น้ำท่วมหมดไป และอุดรฯ น้ำก็ไม่เคยท่วมอีกเลย การที่จะช่วยพี่น้องแก้ปัญหาเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ แต่เราถูกขัดขวางบ่อยครั้ง

มาครั้งนี้เพื่อไทยขออาสา ขอให้เลือกเพื่อไทยทั้งคนและพรรค โดยจะขออาสาแก้ไขปัญหาทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้ง แม้จะใช้เงินเยอะแต่เราก็ต้องทำ เพื่อไทยไม่กลัว เพราะเราหาเงินเป็น เราจะทำให้การเกษตรอยู่ดีกินดี ร่ำรวยกันหมด

เราต้องคิดใหญ่ทำเป็น เราจะใช้เทคโนโลยีเข้ามาให้พี่น้องประชาชนแลกเปลี่ยนกับชาวต่างชาติ อยากให้เด็กมีอาชีพเพื่อสร้างรายได้ให้ตนเองและครอบครัว

“คนไทยต้องมีเกียรติและศักดิ์ศรี ให้มีค่าแรง 600 บาท เพื่อไทยทำได้จริง 600 บาทไม่ไกลเกินจริง เพราะเราเคยทำ 300 บาทมาแล้ว ภายในปี 2570 ค่าแรง 600 บาททำได้แน่นอน” ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย กล่าวบนเวที

เป็นลีลาการปราศรัยหาเสียงที่เข้มข้นจริงจัง ล้อไปกับบรรยากาศการเลือกตั้งที่ใกล้เข้ามาเกือบที่สุดแล้ว

วลี “รับเงินหมา กาเพื่อไทย” ที่ออกจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ทำเอาสะท้านสะเทือนไปถึงการเมืองฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะเหล่าองครักษ์พิทักษ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่ น.ส.แพทองธารประกาศอยากเห็นนายโทนี่กลับมาเลี้ยงหลาน และยุชาวบ้านให้รับเงินหมา กาเพื่อไทย เป็นการพูดหยาบคายแบบเดิมๆ

หากไม่มีหลักฐานก็ไม่ต้องออกมาปราศรัย พูดลักษณะว่ามีพรรคการเมืองใดไปแจกเงินให้ประชาชน อย่าเอาดีใส่พรรคตัวเอง

ไม่ควรออกมาประกาศว่าอยากเห็นนายโทนี่กลับมาเลี้ยงหลาน เพราะเป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่า ที่ น.ส.แพทองธารอยากชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์และได้เป็นรัฐบาล เพื่อเอานายโทนี่กลับประเทศ

ยืนยันว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีวันยอมอย่างแน่นอน

“หากนายโทนี่อยากกลับประเทศ สามารถกลับได้ตลอดเวลา ไม่มีใครห้าม แต่ต้องมารับโทษตามกฎหมาย ไม่ใช่รอให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลก่อน”

ไม่หมดแค่นั้น ยังมี “ขาประจำ” อย่างนายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทน “ลุง”

“การปราศรัยว่าเอาลุงกลับไป แต่เอาทักษิณกลับมา เพื่อที่จะเลี้ยงหลาน ในความเป็นจริงไม่มีใครห้ามนายทักษิณกลับบ้าน สามารถกลับได้ตลอดเวลา แต่เมื่อกลับมาแล้วต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย”

สิ่งที่ชัดเจนคือ นายทักษิณถูกศาลพิพากษาจำคุก 10 ปี และยังมีคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาอีก 3-5 คดี ดังนั้น ประเด็นที่ว่าจะเอากลับมาเลี้ยงหลาน คงไม่ได้เลี้ยงหลาน แต่ต้องติดคุก หรือถูกดำเนินคดี

นายสนธิญายังส่งสัญญาณไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ด้วยว่า หลังจากนี้อีก 3 เดือนจะเลือกตั้งใหญ่ ขณะนี้กระบวนการหาเสียงของพรรคการเมืองจะเข้มข้นขึ้นตามลำดับ

ต้องพึงระมัดระวัง กฎหมายบางข้อนำไปสู่การยุบพรรคได้

(Photo by AFP)

คํากล่าว “รับเงินหมา กาเพื่อไทย” ไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกบนเวที “อีสานยามใด๋ เพื่อไทยทอนั่น” จากปาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เพราะหากใครเป็นแฟนพันธุ์แท้พรรคเพื่อไทย

ก็จะเคยได้ยินประโยคนี้มาตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2554 ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ในบัญชีรายชื่ออันดับ 1 พรรคเพื่อไทย เทียบเท่ากับการเป็น “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” ของพรรค ซึ่งครั้งนั้น เชื่อกันว่าบรรดาพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครลงแข่งขัน มีการใช้จ่ายเงินจำนวนมหาศาล

รับเงินหมา กาเพื่อไทย กลายเป็นแรงผลักดันหนึ่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประสบความสำเร็จสูงสุด ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกฯ หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ด้วยระยะเวลาสั้นๆ เพียง 49 วัน

ต่อเนื่องถึงการเลือกตั้งในปี 2562 มีการแชร์ภาพรถตุ๊กตุ๊กคันหนึ่งติดป้าย “รับเงินหมา กาเพื่อไทย” เผยแพร่ต่อๆ กันในโลกออนไลน์

โดยมีผู้ตั้งข้อสงสัยในขณะนั้นว่า ข้อความดังกล่าวเป็นความผิดหรือไม่ ทำให้ กกต.ตอบคำถามชี้แจงว่า “ถ้าใครเสียหายให้ฟ้องอาญาเอาเอง”

จากจุดกำเนิดเมื่อ 12 ปีที่แล้ว “รับเงินหมา กาเพื่อไทย” ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งในการปราศรัยหาเสียงของ น.ส.แพทองธาร ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย บนเวที “อีสานยามใด๋ เพื่อไทยทอนั่น” เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา

ต่อมาวันที่ 18 มกราคม แกนนำพรรคเพื่อไทย พร้อม น.ส.แพทองธาร ลงพื้นที่พบปะประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าตามตลาดต่างๆ ใน จ.นนทบุรี

น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี บางคนก็ทนไม่ไหวบอกว่าอยากเลือกตั้งแล้ว ถือว่าเป็นกำลังใจที่ทำให้เราอยากเดินสายหาเสียงต่อ เพื่อบอกว่าเราพร้อมจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น

“นโยบายของเราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีคนบอกว่าเลือกมาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยแล้ว พร้อมทั้งโชว์บัตรสมาชิกที่มีลายเซ็นของคุณพ่อ (ทักษิณ ชินวัตร) รู้สึกชื่นใจที่ประชาชนไว้วางใจเรามาเกือบ 20 ปี แน่นอนว่าเราจะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง”

จากนี้ต้องจับตา “รับเงินหมา กาเพื่อไทย” จะปลุกกระแสช่วยให้ “อุ๊งอิ๊ง” ประสบความสำเร็จเหมือน “อาปู” และพรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ได้ จริงหรือไม่