คอลัมน์ประจำ

“มิย่า-อชิ” คู่รักลูกดารา “พ่อพีท” บอก โปรไฟล์เหมาะสมทั้งคู่

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 20 - 26 มกราคม 2566
คอลัมน์Siveยัดไส้
เผยแพร่

เริ่มต้นจากกระแสข่าวลือช่วงปลายปีที่ผ่านมา ที่ว่า…มีลูกดารากำลังซุ่มคบหาดูใจกัน!!

ทำเอาเรดาร์นักสืบโซเชียลทำงานอย่างหนัก ซึ่งคู่ที่ถูกจับตาก็คือคู่ของหนุ่มสาววัยใส ‘อชิ’ อชิรวัตติ์ มัสยวาณิช กับ ‘มิย่า’ พิชชา ทองเจือ

‘อชิ’ ลูกชายพ่อ ‘ฟลุค เกริกพล’ กับแม่ ‘โบ ชญาดา’ ส่วน ‘มิย่า’ ก็ลูกสาวพ่อ ‘พีท’ กับแม่ ‘เจ็ง วิไลลักษณ์’

เหตุเพราะทั้งคู่มีโมเมนต์ใกล้ชิดกันอยู่บ่อยๆ แล้วยังแซวกันไปมาอยู่ในโซเชียล ที่เอาฟินหนัก

จนกระทั่งในวันเคาต์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2566 ก็มีภาพการรวมตัวใกล้ชิดของทั้งสองครอบครัว ออกมาให้เห็น

ซึ่งแน่นอนว่ามีภาพคู่ ‘อชิ-มิย่า’ ออกมาให้ฟินกันอีกระลอก

วันนี้ลองมาฟังจากปากของสาว ‘มิย่า’ กันว่า ความสัมพันธ์กับหนุ่ม ‘อชิ’ คืออะไรยังไงกันแน่!!?

“เป็นคนสนิทกันค่ะ เป็นคนคุยกัน ถามว่ากดดันไหมที่มีคนจับตาความสัมพันธ์ ก็เฉยๆ เวลาไปข้างนอกก็มีคนรู้จักอยู่แล้ว คนก็อาจจะจับตามองเยอะขึ้น ก็โอเค เรายอมรับว่าเราเป็นคนสาธารณะก็ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้ตกใจ อชิเขาอาจจะไม่ชินเท่าเรา ด้วยความที่เราออกงานเจอคนเยอะกว่า แต่อชิเขาไม่ค่อยได้เจอคนเยอะ เขาอาจจะรู้สึกเดี๋ยวคนจะเห็นรึเปล่า บอกเขาว่าเดี๋ยวทุกอย่างก็โอเค”

‘มิย่า’ ตอบชัดเจนว่า ‘อชิ’ เป็นคนสนิท เป็นคนคุยกัน แบบนี้ ทางพ่อ ‘พีท’ กับแม่ ‘เจ็ง’ ก็เลยมีความเห็นออกมา

พ่อ ‘พีท’ อดีตพระเอกฮอตบอกเลยว่า นี่เป็นเรื่องของวัยรุ่น ถ้าให้พูดกันแบบบ้านๆ ก็ต้องบอกว่าโปรไฟล์ทั้งคู่เหมาะสม เป็นเพื่อนกัน ยังไม่มีบทสรุป ส่วนตัวหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นไปเรื่อยๆ แต่ถ้ามีอุปสรรคก็ต้องถือเป็นการเรียนรู้ชีวิต

“ได้เจอกันทั้งพ่อฟลุค-แม่โบ ครอบครัวก็กินข้าว แฮงเอาต์ด้วยกัน ครอบครัวค่อนข้างจะคุ้นกัน ไม่ใช่คนแปลกหน้า จริงๆ แล้วน้องเขาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เจอกันแทบจะวันเว้นวันอยู่แล้ว”

ถามว่าพ่อแม่โอเคไหม ลูกมีแฟน? คุณพ่อคนดังบอกเลยว่า ชีวิตวัยรุ่น ยิ่งห้ามมันยิ่งจะแย่ไปกว่าเดิม คนรุ่นใหม่เราก็จะเลี้ยงลูกกันด้วยวิธีใหม่ๆ เราต้องรับรู้และยินดี ถ้าไม่มีอะไรเสียหายเราก็สนับสนุน

ความรู้สึกอาจจะรู้สึกบ้าง แต่ความเป็นจริงในปัจจุบันมันเป็นไปไม่ได้ เพราะเด็กทุกคนต้องใช้ชีวิตและเรียนรู้ชีวิตของตัวเอง

ด้านแม่ ‘เจ็ง’ บอกว่าตนเองก็ไม่รู้ว่าสถานะของเด็กๆ จะต้องใช้คำว่าอะไร แต่เธอเองรู้ทุกเรื่องของเด็กๆ แล้วก็เห็นเด็กกลุ่มนี้มานานแล้ว มีอะไรก็จะมาเล่าให้ฟัง

ทุกคนเป็นเด็กดี เชื่อใจลูกๆ รวมทั้งเชื่อใจเพื่อนๆ ลูกด้วย เลยไม่รู้สึกห่วงอะไร

“จะมีคำถามที่คนชอบถามว่าแล้วไม่หวงลูกสาวเหรอ ก็หวงนะ คำว่าหวงของเราเจ็งมองว่ามันไม่ใช่การห้าม คำว่าหวงคือการปล่อยให้ลูกทำอะไรอิสระตามความคิดเขา แต่ต้องอยู่ในกรอบ และขอบเขตที่ผู้ใหญ่รับรู้และเห็น ต้องไม่ได้ไปทำอะไรผิด ให้เราหวง เราห่วงในเรื่องแบบนี้มากกว่า”

“เรียกว่าก็ดูแลกันอย่างใกล้ชิด ถ้าพากันไปในทิศทางที่ดี ไม่มีอะไรเสียหาย ก็พร้อมสนับสนุน เราเคยเป็นวัยรุ่น เคยผ่านจุดนี้มา มันคือส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต ฉะนั้น ถ้าลูกไม่ได้ปิดบัง ไปทำอะไรเสียหาย เราเป็นพ่อแม่ เราไม่ปิดกั้น อย่างทุกๆ ครั้งที่ลูกไปกินข้าว พ่อแม่รับรู้ ส่วนมากเจ็งจะเป็นคนไปส่งและไปรอรับ ทุกอย่างอยู่ในสายตา”

เป็นการคบหากัน โดยอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ สบายใจหายห่วง