เผยแพร่ |
---|
“ทรงอย่างยุทธ์”
ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แสดงให้เห็นบนเวทีอีเวนต์ใหญ่ 9 มกราคม ที่สมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ นั้น
มี”ทรง”หนึ่ง ที่ถูกพูดถึงพอสมควร
นั่นคือ การโชว์วาทกรรม ทั้งในและนอกสคริปต์
“ในสคริปต์”แน่นอนย่อมผ่านการเตรียมการทั้งจากพล.อ.ประยุทธ์และทีมงานมาล่วงหน้า
แต่แม้จะมีการเตรียมล่วงหน้า ซึ่งก็ถูกวิพากษ์ไม่น้อยว่า มิได้ทำการบ้านเพื่อก้าวไปข้างหน้า พูดแต่สิ่งเดิมๆ
และแม้บอกว่าจะไปต่อ แต่ก็ไปต่อแบบเพื่อที่จะสะสางงานซึ่งมีมากมายและยังไม่เสร็จ ทั้งที่เคยบอก จะขอเวลาไม่นาน แต่ก็ยื้อมากว่า 8ปีแต่ก็มีสิ่งคั่งค้าง ไม่แล้วเสร็จ ต้องขอโอกาสไปทำต่ออีก
ส่วนงานใหม่ๆ ปรากฏว่าในสคริปต์ที่เตรียมมาแทบจะไม่ได้กล่าวถึง
พล.อ.ประยุทธ์ เลยเสีย”ทรง”ไปนิด
ที่น่าสนใจอีกประการหนึ่ง ระหว่างการโชว์วาทกรรมในอีเวนต์ใหญ่เดียวกัน
มี การพูดนอกสคริปต์ด้วย
จะสังเกตุว่า ระหว่างพล.อ.ประยุทธ์พูด จะแวบออกนอกทางเป็นระยะๆ แม้ในหลายจังหวะจะเรียกเสียงกรี๊ดกับมุขสดๆที่พล.อ.ประยุทธ์ งัดมาใช้
แต่กระนั้น ก็ทำให้เนื้อหาการปราศัย กระโดดไปกระโดดมา ไม่ต่อเนื่อง จนหลายครั้งพล.อ.ประยุทธ์ ต้องดึงตัวเองกลับเข้ามาสู่สคริปต์ที่เตรียมไว้
“ทรง”แบบนี้ว่าไปแล้วมิใช่มีเฉพาะเวทีนี้เท่านั้น มีหลายๆครั้ง ที่เราเห็น ภาวะนอกสคริปต์ของพล.อ.ประยุทธ์ นอกสคริปต์เพื่อเรียกเสียงฮา เสียงกรี๊ดบ้าง ซึ่งหลายครั้งก็ได้ผล
แต่ก็หลายครั้งเช่นกัน เป็นไปเพื่อระบายจุดเดือดหรือความไม่พอใจต่อบางสิ่งบางอย่าง จนทำให้เสียเรื่องไปก็มี
ภาวะ “ทวิทรง” ของพล.อ.ประยุทธ์ คือทั้งแบบ”ในสคริปต์” และ”นอกสคริปต์” นี้ ว่าไปก็ถือเป็นจุดแข็ง และจุดอ่อน พร้อมๆกัน
แต่สำหรับ อีเวนต์บิ๊กเบิ้มเปิดตัวเข้าสู่พรรครวมไทยสร้างชาติ นั้นดูเหมือนภาวะนอกสคริปต์นั้น จะถูกวิจารณ์ไปในทางลบ มากกว่าบวก
อย่างไรก็ตามสำหรับพล.อ.ประยุทธ์และทีมงานจะประเมินไปในทาง”ลบ”หรือไม่ ไม่แน่ใจเหมือนกัน
เพราะเท่าที่ติดตาม ดูเหมือนพล.อ.ประยุทธ์ จะใช้ “ทวิทรง” หรือ “หลายๆทรง” ในการขับเคลื่อนเพื่อประโยชน์ทางการเมืองอยู่ตลอดเวลา
อย่างตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ พยายามใช้”ทรงนายกฯ”กับ”ทรงสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ”ให้เป็นประโยชน์”คู่ขนาน”อย่างเต็มที่
อย่างเรื่อง การตั้งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่เป็นกระทู้ดุเดือดในสภาเมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา
โดยด้านหนึ่งพล.อ.ประยุทธ์อ้าง การตั้งคนในพรรครวมไทยสร้างชาติหลายคนมาเป็น ที่ปรึกษานายกฯเป็นการบริหารราชการปกติ แถมยังอ้างอีกว่าเป็นการเสียสละมาทำงานโดยไม่รับเงินเดือนอีกด้วย
แต่ก็คงเป็นอย่าง ที่นายนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ที่อภิปรายในสภาว่า แม้ที่ปรึกษานายกฯจะไม่มีเงินเดือน แต่กำหนดให้ส่วนราชการให้เงินสนับสนุน และให้อำนวยความสะดวกตามที่ร้องขอ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการปฏิบัติงานสามารถเบิกจ่ายจากสำนักนายกรัฐมนตรีได้
ดังนั้นจะมีเงินเดือนหรือไม่มี จึงแทบจะไม่แตกต่างกัน
และแถมแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติที่ได้สวมหมวกที่ปรึกษานายกฯ เหล่านี้ยังได้ประโยชน์”นอกสคริปต์”อีกหลายๆเรื่อง อย่างที่ทราบกัน
นี่คือตัวอย่างหนึ่งในประโยชน์จาก “ทวิทรง”ของพล.อ.ประยุทธ์
ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้ คงจะมีการหาประโยชน์จากภาวะเช่นนี้อย่างเข้มข้นในอีกหลายเรื่อง
ทั้งนี้ เพื่อหวังได้เปรียบ และให้คู่แข่ง”แซด”ในศึกชิงอำนาจนั่นเอง
————-