เรื่องเล่าจากหนังสือ ‘สแปร์’ ของตัวสำรองอย่าง ‘เจ้าชายแฮร์รี’

ที่สุดแล้ว “สแปร์” (Spare) หนังสือบันทึกความทรงจำ ของเจ้าชายแฮร์รี ดยุคแห่งซัสเซกซ์ ที่ให้นักเขียนเงาเขียนให้ ก็ได้ฤกษ์วางแผงอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา

หลังจากเนื้อหาบางส่วนของหนังสือได้รั่วไหลออกมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้

ซึ่งเจ้าชายแฮร์รีได้ให้เหตุผลของการตัดสินใจตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้ไว้ว่า เพื่อปกป้องตัวเองจากการถูกสื่อปั่นและบิดเบือนเรื่องราวของพระองค์อยู่ตลอดเวลา

“38 ปีที่เรื่องราวของเราได้รับการบอกเล่าโดยคนมากมายที่จงใจปั่นและบิดเบือน ทำให้รู้สึกเหมือนว่าเป็นเวลาที่ดีที่จะได้เป็นเจ้าของเรื่องราวและสามารถบอกเล่าด้วยตัวเราเองได้” เจ้าชายแฮร์รีทรงกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ไอทีวีก่อนที่หนังสือจะวางแผงอย่างเป็นทางการ

สำหรับที่มาของชื่อสแปร์ ที่แปลว่า “สำรอง” นั้น ก็หมายถึง ตำแหน่งพระอนุชา หรือน้องชาย ของเจ้าชายวิลเลียม

ซึ่งเจ้าชายแฮร์รีได้ตรัสไว้ว่า มีเรื่องเล่ากันว่า เมื่อครั้งที่เจ้าหญิงไดอานา พระมารดาของพระองค์ ทรงให้กำเนิดเจ้าชายแฮร์รีออกมา กษัตริย์ชาร์ลส์ หรือเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ขณะนั้น ซึ่งเป็นพระบิดาของเจ้าชายแฮร์รี ได้ตรัสกับเจ้าหญิงไดอานาว่า งานของพระองค์ได้เสร็จสิ้นแล้ว

เนื่องจากมีเจ้าชายวิลเลียม พระโอรสองค์โต ผู้เป็นทายาทลำดับแรก และมีเจ้าชายแฮร์รี เป็นทายาทสำรอง หรือสแปร์

จึงกลายเป็นที่มาของชื่อหนังสือเล่มนี้

เครดิตภาพ “เอเอฟพี”

ทั้งนี้ ในหนังสือบันทึกความทรงจำของเจ้าชายแฮร์รีนี้ มีเรื่องราวประเด็นเผ็ดร้อนมากมาย และมีหลายเรื่องที่ไม่เคยถูกเปิดเผยต่อสาธารณะมาก่อน จึงกลายเป็นหนังสือที่ถูกจับตามองมากที่สุดเล่มหนึ่งในตอนนี้

หนึ่งในนั้นคือเรื่องความขัดแย้งระหว่างเจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐา กับเจ้าชายแฮร์รี ที่ปรากฏเป็นข่าวมานานหลายปี แต่ก็ไม่ได้มีอะไรออกมาให้เห็นชัดเจนถึงความขัดแย้งดังกล่าว

แต่ตอนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ ระบุไว้ว่า เจ้าชายวิลเลียมเคยทำร้ายร่างกายเจ้าชายแฮร์รี เนื่องจากทั้งสองพระองค์มีปากเสียงกัน เกี่ยวกับเรื่องเมแกน มาร์เคิล พระชายาของเจ้าชายแฮร์รี เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2019 ที่บ้านพักของเจ้าชายแฮร์รี

โดยทั้งสองพระองค์เริ่มมีปากเสียงกันหลังเจ้าชายวิลเลียมตรัสถึงเมแกน มาร์เคิล ว่า เป็นคนที่เข้าใจยาก หยาบคาย และน่ารำคาญ เมื่อสถานการณ์ระหว่างทั้งสองพระองค์เริ่มบานปลาย เจ้าชายวิลเลียมพูดซ้ำๆ บรรยายถึงเมแกน “ราวกับนกแก้ว นกขุนทอง”

ในหนังสือระบุว่า เจ้าชายวิลเลียมวางแก้วน้ำลง และเรียกชื่อเจ้าชายแฮร์รีอีกชื่อคือ “แฮโรลด์” แล้วเจ้าชายวิลเลียมเดินเข้าหาเจ้าชายแฮร์รี ก่อนจะคว้าคอเสื้อเจ้าชายแฮร์รี และต่อยจนล้มลงกับพื้น จนทำให้เจ้าชายแฮร์รีล้มลงไปทับถาดอาหารของสุนัขจนแตก และเศษของถาดดังกล่าวก็ทิ่มเข้าที่หลังของเจ้าชายแฮร์รี

เจ้าชายแฮร์รีบอกว่า “เรานอนอยู่ตรงนั้นสักพักด้วยอาการมึนงง จากนั้นเราก็ลุกขึ้นมา และสั่งให้เขา (เจ้าชายวิลเลียม) ออกไป”

จากนั้น เจ้าชายวิลเลียมทรงท้าให้เจ้าชายแฮร์รีต่อยพระองค์คืน ซึ่งเจ้าชายแฮร์รีปฏิเสธที่จะทำร้ายกลับ ต่อมา เจ้าชายวิลเลียมกลับมาหาเจ้าชายแฮร์รีด้วยท่าทีที่รู้สึกผิด และดูเหมือนต้องการที่จะขอโทษ

เจ้าชายวิลเลียมทรงหันกลับมาหาเจ้าชายแฮร์รีพร้อมกับตรัสกับพระองค์ว่า “นายไม่ต้องบอกเมแกนเรื่องนี้ก็ได้นะ” เจ้าชายแฮร์รีตอบกลับพระเชษฐาว่า “นายหมายถึงเรื่องที่นายทำร้ายฉันหรือเปล่า”

เจ้าชายวิลเลียมทรงตอบกลับไปว่า “ฉันไม่ได้ทำร้ายนาย แฮโรลด์”

 

นอกจากนี้ เจ้าชายแฮร์รียังทรงอ้างว่าได้ปรึกษาพระเชษฐาถึงความเป็นไปได้ที่จะจัดพิธีเสกสมรสของพระองค์กับเมแกน ที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ หรือมหาวิหารเซนต์พอล

แต่เจ้าชายวิลเลียมตรัสว่า เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าชายแฮร์รีและเมแกนจะจัดพิธีเสกสมรสในสถานที่ดังกล่าว

เพราะมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์เป็นที่จัดพิธีเสกสมรสของคิงชาร์ลส์ ที่ขณะนั้นทรงเป็นเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ กับเจ้าหญิงไดอานา ส่วนมหาวิหารเซนต์พอลเป็นที่จัดพิธีเสกสมรสของเจ้าชายวิลเลียมและเคท พระชายา

โดยเจ้าชายวิลเลียมทรงแนะให้เจ้าชายแฮร์รีจัดงานเสกสมรสของตนเองที่โบสถ์ใกล้พระตำหนักไฮห์โกรฟ ในคอต์สวอลด์สแทน

อย่างไรก็ดี พิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน จัดขึ้นที่โบสถ์เซนต์จอร์จ ในปราสาทวินด์เซอร์ ในเดือนพฤษภาคม ปี 2018

 

นอกเหนือจากประเด็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างสองเจ้าชายแล้ว ก็ยังมีความรู้สึกของเจ้าชายแฮร์รี จากการสูญเสียครั้งใหญ่ คือการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานา จากอุบัติเหตุที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 1997

ซึ่งเจ้าชายแฮร์รีระบุว่า ความโศกเศร้าต่อการสิ้นพระชนม์ของพระมารดา ทำให้ต้องไปขอความช่วยเหลือจากสตรีที่อ้างว่า มีพลังพิเศษ ที่บอกว่า เจ้าชายแฮร์รีกำลังดำเนินชีวิตในแบบที่พระมารดาประสงค์ให้เป็น

เจ้าชายแแฮร์รียังเคยเปิดเผยความรู้สึกกับเจ้าชายวิลเลียมว่า เจ้าหญิงไดอานาทรงชี้นำให้พระองค์ได้รู้จักกับเมแกนด้วย

นอกจากนี้ พระองค์ยังเคยไปดูเส้นทางที่เจ้าหญิงไดอานาประสบอุบัติเหตุ โดยทรงขอให้คนขับรถพาลอดอุโมงค์ดังกล่าวด้วยความเร็วเท่ากัน และทรงยอมรับว่ายังมีหลายคำถามที่คาใจ

ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของเจ้าชายแฮร์รีอีกมากมายในหนังสือเล่มนี้ ที่ยังไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน และน่าจะเผ็ดร้อนไม่น้อย สำหรับหนังสือที่เรียกได้ว่า ฮอตสุดตั้งแต่ยังไม่วางแผง