อังเดร ไกด์ นักเขียนรางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม นักเขียนชาวฝรั่งเศส เคยกล่าวเอาไว้ว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างถูกพูดเอาไว้หมดแล้ว แต่ในเมื่อไม่มีใครฟังเราก็เลยจำเป็นต้องกลับไปพูดเรื่องเดิมอีกครั้ง” (จากหนังสือ 100 วิชา ยอดคน ที่ห้องเรียนไม่มีสอน โดย ภัทระ ฉลาดแพทย์ และวัชระ จึง)

ย้อนนึกถึงวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม 2557 แล้วเปรียบเทียบกับวันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2566

ฉากหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อกว่า 8 ปีก่อน ทหารพร้อมอาวุธครบมือ ใช้ปืนจี้แล้วเอาถุงดำคลุมหัวคุมตัวรักษาการนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีขึ้นรถบึ่งออกจากศูนย์กลางแห่งความเจริญ ในขณะที่อารยธรรมทางการเมืองที่เสรีชนฝันใฝ่ร่วงดิ่งลงสู่หุบเหว

ต่อมาก็มีเสียงเพลงกระหึ่ม

“…เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา

เราจะทำอย่างซื่อตรง ขอแค่เธอจงไว้ใจ และศรัทธา…”

แต่จากประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทย เคยมีใครหรือ ที่ปล้นชิงอำนาจได้มาแล้วจะ “ไม่สืบทอดอำนาจ”

 

ผ่านไป 8 ปี 8 เดือน อีกฉากหนึ่งถูกจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

“รวมไทยสร้างชาติ” พรรคการเมืองใหม่ จัดประชุมใหญ่วิสามัญพร้อมเปิดตัว “สมาชิกผู้ยิ่งใหญ่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้า “คสช.” ผู้นำรัฐประหารเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557

นับตั้งแต่วันที่เสียงเพลง…เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน ถูกปล่อยออกมา ไม่มีใครเชื่อเลยว่า นั่นเป็น “คำสัตย์”

ประวัติศาสตร์ต้องซ้ำรอยเพราะพฤติกรรมด้านมืดของมนุษย์ไม่เคยเปลี่ยน!

แม้จะได้ชื่อทรยศหักหลังผู้ร่วมอุดมการณ์ 2475 “ป.พิบูลสงคราม” ก็ยอมแลกเพื่อสืบทอดเก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี” อย่างยาวนานจนถูก “สฤษดิ์ ธนะรัชต์” รัฐประหาร

“ถนอม กิตติขจร” อยู่นานจนล่มสลายลงก็ด้วยเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516

“สงัด ชลออยู่” ยึดอำนาจภายหลังสังหารหมู่ 6 ตุลาคม 2519 นั่นก็ตั้งใจจะเป็น “เปลือกหอย” ให้นายธานินทร์ กรัยวิเชียร อยู่ยาวถึง 12 ปี

มีแต่ “เปรม ติณสูลานนท์” ที่หลังจากถูกลูกน้องทำรัฐประหาร 2 ครั้ง พังทั้งสองคราว “เปรม” ก็อยู่จนเบื่อและเข้าถึงสัจจะ จึงถอยไปยืนหลังม่าน ปล่อยให้นักการเมืองเล่นกันในระบบ

แต่ชั่วอึดใจเดียวเท่านั้น กองทัพในนาม “รสช.” นำโดยสุนทร คงสมพงษ์ กับสุจินดา คราประยูร ก็ก่อรัฐประหารอีกในเดือนกุมภาพันธ์ 2534

ผู้นำ “รสช.” แพรวพราวออกท่วงท่าไม่ทะเยอทะยาน ประกาศไม่รับตำแหน่ง ไปเชิญ “ผู้ดีรัตนโกสินทร์” อานันท์ ปันยารชุน มาเป็นนายกรัฐมนตรี “ช่วยชาติ”

ครั้นพอจัดการวางแผนจะสืบทอดอำนาจตามวิถีทางรัฐสภาเสร็จ “สุจินดา” ก็กลับมาประกาศว่า “ยอมเสียสัตย์เพื่อชาติ”!

เท่านั้นเอง…ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง “จุดไฟ” เผา สุจินดากลายเป็นคนตระบัดสัตย์ การประท้วงลุกลามจน “ทหาร” ก่อเหตุ “พฤษภาทมิฬ 2535”

 

คําถามจากประวัติศาสตร์ก็คือว่า ปี พ.ศ.2535 กับปี พ.ศ.2566 ห่างกันกี่ปี!?

และ “สุจินดา” กับ “ประยุทธ์” ต่างกันตรงไหน!?

สุจินดาประกาศ “ไม่รับ” แล้ว “กลับคำ”

ประยุทธ์รับปากว่า “จะทำตามสัญญา-ขอเวลาไม่นาน”

แต่ “อยู่ยาว” และ “จะอยู่ต่อไปอีก”

การทุจริตคอร์รัปชั่นในระบบราชการในยุคนี้หนักหน่วง โจ๋งครึ่ม ไม่ปิดบังอำพราง ไม่มียางอาย

หนังสดๆ ถูกถ่ายทอดให้คนดูทั่วประเทศ ผ่านสื่อออนไลน์ขายหน้าไปทั่วโลก “ตำรวจ ป.ป.ป.” กับ “ป.ป.ช.” จับมือกับผู้ใต้บังคับบัญชากรมอุทยานฯ วางแผนจับกุม “ความผิดซึ่งหน้า” นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คาห้องทำงาน

แต่ไม่เข้าใจว่าทำไม “ประยุทธ์” ถึงได้เร่งรีบออกคำสั่งย้ายนายรัชฎาไปนั่งกินเงินเดือนเฉยๆ ที่ “สำนักนายกรัฐมนตรี” ให้เป็นที่ติฉินนินทา

คนระดับ “อธิบดี” ทำผิดซึ่งหน้าจนถูกจับได้คาหนังคาเขา และถูกยึดเงินสดในห้องทำงานถึง 5 ล้านบาท เหตุใด “ประยุทธ์” ไม่รอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มีคำสั่ง “พักราชการ” เอาไว้ก่อน เพื่อการสืบสาวสอบสวนจะได้ดำเนินไปโดยสะดวก ไร้ข้อกังวล ไม่ต้องเกรงคนกดดัน

มีหน่วยราชการไหนบ้าง ที่ตั้งคน 1 คน ให้ทำหน้าที่ถึง 5, 6, 7, 8, 9, 10 จนถึง 12 ตำแหน่ง เหมือนดังเช่นกรมอุทยานฯ

กระทำเพื่อการใด?

ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีกคือข้อสังเกตจากนายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กับคำถามที่ว่า หลังจากจับกุมนายรัชฎาคาห้องทำงานพร้อมเงินสดๆ เกือบ 5 ล้านบาทเสร็จแล้ว ทำไมไม่ออกหมายค้นบ้านของ “อธิบดีรัชฎา”

คำตอบอยู่หนใด

อยู่ที่นายกรัฐมนตรี อยู่ที่รัฐมนตรีวราวุธ ศิลปอาชา อยู่ที่ตำรวจ ป.ป.ป. หรืออยู่ที่ ป.ป.ช.

ดูคล้ายกับว่า ทุกคนทุกฝ่ายเคร่งครัด รักษามารยาท มีความตั้งใจที่จะสงบปากสงบคำ จนทำให้รู้สึกว่าแตกต่างกันอย่างมากกับ “ปฏิบัติการทางการเมือง” ซึ่งถูกบงการให้ไล่ล่าหาความผิดของฝ่ายตรงข้าม

 

8 ปีล่วงแล้วยังไม่มีวี่แววว่า “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” จะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญงดงามตามบทเพลง

แม้แต่กรณีเรือหลวงสุโขทัยล่ม เกือบ 30 ชีวิตลูกราชนาวีถูกกลืนใต้ท้องทะเล!

ถามว่า ในฐานะ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” ทำดีได้แค่ไหน

ท่วงท่าบ่งชี้วิธีคิดและนิสัย!

มุ่งมั่นทุ่มเทค้นหาความจริงอย่างไม่ปิดบังอำพราง รื้อพรม ปัดฝุ่น ชะล้าง สะสางให้สะอาดจนปราศจากข้อสงสัย หรือปิดปาก ตั้งสงบ หลบฉาก!

ประยุทธ์ป๊อบปูลาร์หรือตกต่ำ

“นิด้าโพล” เจ้าเก่าลงมือสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองไทย รายไตรมาส ครั้งที่ 4/2565

พบว่า ” อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร เด็กเมื่อวานซืนที่น่าอิจฉาตาร้อนสำหรับบางคน มีคะแนนนิยมถึงร้อยละ 34 นำห่างจาก “ประยุทธ์” ที่มีคะแนนนิยมร้อยละ 14

ส่วนพรรคการเมือง “เพื่อไทย” มีคะแนนนิยมร้อยละ 42.95 ก้าวไกล ร้อยละ 16.60 ขณะที่ “รวมไทยสร้างชาติ” มีอยู่แค่ร้อยละ 6.95

แต่ก็พิลึกพิลั่นที่ในวันอันเสื่อมถอยของ “ประยุทธ์” เช่นวันนี้กลับมี “คนจำนวนหนึ่ง” โฆษณาชวนเชื่อว่า “อดีตนายทหารผู้นำรัฐประหาร” คนนี้ยังจะสามารถ “สืบทอดอำนาจ” ต่อไปได้อีก

ดูเหมือน “รวมไทยสร้างชาติ” จะจงใจใช้สีสันเชิงสัญลักษณ์ให้รำลึกนึกถึง “กปปส.” ผู้จุดชนวนก่อรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557!?!!!

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022