หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๕๙)

บทความพิเศษ | ฟ้า พูลวรลักษณ์

 

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๕๙)

 

ในสมัยราชวงศ์หมิง ซ้ายกับขวา ยังเป็นแค่คอนเซ็ปต์อ่อนๆ เหมือนต้นพืชที่แค่มีเมล็ด ยังไม่เติบโตเป็นต้นเลย แก่นหลักก็ยังแค่การต่อสู้ของสิ่งเก่าและสิ่งใหม่ ซึ่งสิ่งใหม่ก็ยังใหม่แค่นิดเดียว และสิ่งเก่าก็โบราณอย่างที่สุด

เช่น ปัญญาชนขงจื้อสมัยนั้นแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งยึดในอักขระ การเขียนเรียงความแบบราชวงศ์ฉินและฮั่น ส่วนบทกวีต้องยึดในอักขระ การเขียนแบบราชวงศ์ถัง

อีกกลุ่มหนึ่งเคารพในซื่อจี้ ยึดในอักขระ การเขียนแบบอิสระกว่า

ที่จริงแล้วก็คือการต่อสู้ของกลุ่มอนุรักษ์สุดโต่ง กับกลุ่มอนุรักษ์ธรรมดา คือขวาจัดกับขวาน้อยหน่อย แต่ขวาน้อยหน่อยในยุคนั้นก็คือซ้ายนั่นเอง

แต่หากเทียบกับ Quantum Computer คอนเซ็ปต์เหล่านั้นก็บ้าไปเลย ปัญญาชนเหล่านั้น คงกลายเป็นบ้า หรือรับไม่ได้

ยกเว้นแต่ว่าจะให้ปัญญาชนขงจื้อเหล่านั้น มาใช้ชีวิตในโลกปัจจุบันของเรา มานั่งเครื่องบิน นั่งยานอวกาศไปดวงจันทร์ ไปดาวอังคาร และไปไกลถึงดาวพฤหัสบดี มานั่งรถไฟความเร็วสูง ใช้คอมพิวเตอร์ เข้าเน็ต ใช้หุ่นยนต์ ฯลฯ การใช้ชีวิตจน Mindset ค่อยๆ หลอมละลาย และปรับเปลี่ยนทีละน้อย ด้วยโดยเนื้อแท้สติปัญญาของพวกเขา ก็ไม่ได้ด้อยกว่าใคร

จากเป็นบ้าก็หายบ้า บางคนที่จิตอ่อนไหวพอ ก็อาจค้นพบสิ่งใหม่

 

ในทุกสรรพสิ่งนี้ มีความเป็นไปได้แปดอย่าง แม้ว่าจะมีเพียงสองอย่างเท่านั้นที่แข็งแกร่ง เห็นต่อหน้า แต่อีกหกอย่างก็จะเป็นดั่งเงาอยู่ตรงนั้น

จุดนี้เองที่ลึกซึ้ง แม้มันจะเป็นเงา แต่หากทอดทิ้งมันไปเสีย ก็เท่ากับว่าเราไม่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง

เราอาจดื้อด้านได้หนึ่งปี หรือสิบปี หรือแม้แต่หนึ่งร้อยปี แต่ท้ายสุด ทุกสิ่งที่เรายึดถือก็พังทลายลง แหลกสลาย และพบว่าเราไม่ได้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง

จิ๋นซีฮ่องเต้เป็นคนบ้าบริสุทธิ์ เพราะเขามีอำนาจมากเกินเลย แทบจะเรียกลมเรียกฝนได้ เขาสั่งฆ่าคนได้เป็นล้าน หากต้องการ

ครั้งหนึ่ง ขณะที่เขากับขบวนองครักษ์ออกตรวจราชการ มีคนพยายามลอบสังหาร ทำการไม่สำเร็จ แต่หลบหนีไปได้ เขาโกรธแค้นมาก ในเมื่อจับตัวไม่ได้ เขาสั่งฆ่าประชาชนแถบนั้นจนหมด โดยเอาตัวเองวันนั้นเป็นจุดศูนย์กลาง ตีเป็นรัศมียาวไกลหลายสิบกิโลเมตร ในครั้งนั้น มีประชาชนโดนฆ่านับแสน

เขายิ่งใหญ่กว่า Superstar ยุคของเราเป็นพันเท่า ดังนั้น Ego ของเขาจึงใหญ่หลวง และเติบใหญ่ยิ่งขึ้นไปอีกทุกวัน

ดังนั้น แต่ละวันเขาจึงใฝ่หาแต่อยากเป็นอมตะ อยากเป็นเซียน เขาโหยหามัน ด้วยความมันในอำนาจ เขาจึงอยู่ได้แค่ ๔๙ ปี ก็ตาย และทิ้งอาณาจักรยิ่งใหญ่ แต่ไร้คนสืบทอด

ที่จริงสิ่งที่เขาขาด คือดวงจิตที่เป็นธรรมดา สิ่งนี้มีอยู่ในตัวมนุษย์เกือบทุกคน มีในดวงจิตของชาวไร่ ชาวนา ทั่วประเทศหลายสิบล้านคนในยุคนั้น

สิ่งที่ธรรมดาเท่าเม็ดข้าวนี้ กลับขาดหายไปในดวงจิตของเขา คุณมองเห็นความขัดแย้งอันเป็นที่สุดนี้ไหม

ชายผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่คนนี้ กำลังจะตาย เพราะไม่มีเม็ดข้าวเล็กๆ ที่ผู้คนรอบข้างของเขา ล้วนมี แต่รับมาไม่ได้

สมัยจ้านกว๋อ หกแคว้นมีเนื้อที่ห้าเท่าของแคว้นฉิน และมีกำลังทหารมากกว่าสิบเท่า แต่กระนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถสามัคคีกัน ต่อให้มองเห็น เข้าใจ ก็รวมตัวกันไม่ได้ จนถูกแคว้นฉินค่อยๆ กัดกิน ยึดไปทีละแคว้น จนหมด

การไม่อาจรวมตัวได้นี้ มันเป็นเวรกรรม เกินกว่าคำว่าโง่เขลา แม้หากเรามองจากที่สูง หรือมองจากปัจจุบัน มันชัดเจนเหลือเกิน

แต่ในวันนั้น หกแคว้นมีแต่ความไม่ไว้วางใจกัน เกลียดกัน อาฆาตแค้นต่อกัน และยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ ว่าจะเอาตัวรอดได้

การไม่ยอมรับความจริงนี้ เป็นธรรมชาติของมนุษย์

 

มนุษย์เรานั้นประกอบไปด้วย

จิต

Genome

ระบบภูมิคุ้มกัน

ที่แยกแยะมันออกเช่นนี้ ก็เพียงเบื้องต้น ในแต่ละส่วนก็ยังแยกแยะออกได้อีกอย่างซับซ้อน เช่น ระบบภูมิคุ้มกันของแต่ละชีวิตซับซ้อนเหลือเกิน หากมันผิดพลาด ก็หมายถึงความตาย จิตทำอะไรมันไม่ได้เลย

๑๐

Genome คือเซ็ตของยีน ที่ทำให้เกิดเป็นหนึ่งชีวิต ที่แปลกก็คือ มันประกอบด้วยยีนของชีวิตอื่นเข้ามาด้วย บางชีวิตมีเซลล์ของแม่ หรือยาย หรือพี่น้อง ซึมเข้ามาในตัวด้วย

พบว่า ๖๕% ของผู้หญิงที่มีลูก มีเซลล์ที่ไม่ใช่ของตัวเอง อยู่ในร่างกายด้วย แม้จะอายุถึง ๗๐ ปีแล้ว เมื่อผ่าศพออกมา จะพบเซลล์ในสมองของเธอ ที่ไม่ใช่ของเธอ เซลล์พวกนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือช่วยในการประสานแผล แต่บางครั้งมันรบกวนภูมิคุ้มกัน

๑๑

มีคนบางคนเป็น Chimeras คือชีวิตที่เกิดจากไข่ใบเดียว แต่อสุจิมากกว่าหนึ่งตัว จากผู้ชายที่ต่างกัน เข้าไปในไข่ใบนั้น และอสุจิมากกว่าหนึ่งตัวนั้น ได้รวมร่างกันเป็นหนึ่ง เราไม่รู้ว่าคนแบบนี้มีมากน้อย เพราะเรายังไม่เคยตรวจสอบ Genome ของมนุษย์ทุกคน

๑๒

มนุษย์ทุกคน ในร่างกายมีเซลล์ราว ๓๐ ล้านล้านเซลล์ และมีจุลชีพราว ๓๘ ล้านล้านชีวิตอาศัยอยู่ในร่างกาย

เท่ากับว่า เรามีจุลชีพที่อาศัยอยู่ในร่างกายของเรา มากกว่าจำนวนเซลล์ของตัวเราเองเสียอีก

นี้เป็นข้อมูลที่น่าตื่นตะลึง จุลชีพเหล่านั้นเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเราจนแยกไม่ออก มีผลต่อการกินอาหาร การย่อยอาหาร ต่อรส สัมผัสทั้งหมด มันกำหนดรสนิยมที่เรามีต่ออาหาร มีผลต่อจิต ต่ออารมณ์ ต่อความทรงจำ และท้ายที่สุด ต่อระบบภูมิคุ้มกันของตัวเรา

 

๑๓

แต่ทุกชีวิตมี

ความหวัง

ความฝัน

ความปรารถนา

ที่จะเปลี่ยนแปลงโลก และส่วนนี้คือจิต

๑๔

วันนี้ฉันตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองยังมีเจตนา มีความมุ่งมั่น ยังมีความคิดฝัน