เปิดโหวต ‘ซีอีโอ 5 ภาค’ จี้รัฐอัพเกรดแรงงาน-ท่องเที่ยว ปั๊มการค้า บูสต์เศรษฐกิจฐานราก

บทความเศรษฐกิจ

 

เปิดโหวต ‘ซีอีโอ 5 ภาค’

จี้รัฐอัพเกรดแรงงาน-ท่องเที่ยว

ปั๊มการค้า บูสต์เศรษฐกิจฐานราก

 

เปิดศักราชใหม่ จากปีเสือ 2565 ก้าวเข้าสู่ปีกระต่าย 2566 เศรษฐกิจไทยเต็มไปด้วยการคาดหวังหลังฟื้นตัวดีต่อเนื่อง

แม้ผลพวงเศรษฐกิจโลกส่อชะลอตัวทำการส่งออกไทยแผ่ว แต่หลายหน่วยงานวิเคราะห์คาดเศรษฐกิจไทยปีใหม่ 2566 นี้ ขยายตัวเฉลี่ย 3-4%

โดยธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) คาดไว้ 3.6% สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ คาดอยู่ในช่วง 3-4 % ค่ากลางที่ 3.5% และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดขยายตัว 3.7% ต่างเห็นตรงกันว่า เครื่องยนต์หลักท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก การลงทุนภาครัฐและเอกชน รวมถึงการบริโภคภายในประเทศกระเตื้องขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองไทยร้อนระอุ เข้าโหมดการเลือกตั้งครั้งใหญ่

อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวเศรษฐกิจต้องทั่วถึงในทุกพื้นที่ ดังนั้น “มติชนสุดสัปดาห์” จึงสำรวจความเห็นภาคเอกชนทั่วประเทศ ผ่านหอการค้าไทย 5 ภาค จะสะท้อนความต้องการและข้อเสนอแนะถึงพรรคการเมือง และรัฐบาลเก่าและใหม่ ซึ่งแต่ละภาคต่างมีมุมมองเหมือนและแตกต่างไว้อย่างน่าสนใจ

ธวัชชัย เศรษฐจินดา

หอกลาง ชูสกิลแรงงาน

เริ่มด้วย ‘ธวัชชัย เศรษฐจินดา’ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคกลาง กล่าวว่า เศรษฐกิจภาคกลาง หากนำกรุงเทพฯ รวมกับปริมณฑล 4 จังหวัด มีสัดส่วน 60% ต่อจีดีพี จึงเป็นพื้นที่มีศักยภาพขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ คาดเติบโตระดับ 3%

อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญเรื่องการแข่งขันลดลง ผลพวงจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้น อาจทำให้นักลงทุนหนีไปประเทศอื่น

ดังนั้น ต้องเร่งเพิ่มขีดความสามารถของแรงงานให้มีทักษะสูง ประเด็นนี้สอดรับนโยบายการเมืองชูเรื่องค่าแรงงานขยับไปถึง 600 บาท โดยปกติอัตราค่าแรงจ่ายตามคุณภาพแรงงาน แต่วันนี้แรงงานมีทักษะต่ำ สิ่งสำคัญต้องพัฒนาแรงงานให้เท่าเทียมกับอัตราที่ต้องจ่ายมากยิ่งขึ้น

ฉะนั้น การเมืองเรื่องแรกคงต้องเป็นการเมืองที่มองถึงโครงสร้างปัญหาของประเทศเป็นปัจจัยหลัก

และไม่ใช่การเมืองที่ออกนโยบายแนวประชานิยมที่แก้ปัญหาระยะสั้น

เพราะบางครั้งพอการเมืองเน้นประชานิยมมักเกิดความผิดเบี้ยวต่อโครงสร้างเศรษฐกิจ

สวาท ธีระรัตนนุกูลชัย

หออีสาน บี้รัฐเชื่อมไทย-ลาว

‘สวาท ธีระรัตนนุกูลชัย’ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า คาดปี 2566 เป็นโอกาสภาคอีสานด้านการท่องเที่ยวที่รับนักเที่ยวจากจีน โดยปกติรับแต่นักเที่ยวยุโรป ปีนี้คาดคนจีนมีมากจากอานิสงส์รถไฟระหว่างลาว-จีน สามารถเชื่อมไทยได้

หากจีนเปิดเมืองจริงจังคนจีนเข้าไทยประมาณ 1-2 ล้านคน ซึ่งเน้นจุดขายวัฒนธรรมเป็นที่นิยมคือการบูชาวัตถุมงคล เช่น พญานาคของไทยคล้ายกับพญามังกรของจีน สามารถเผยแพร่วัฒนธรรมร่วมกันได้ ซึ่งมีมากในจังหวัดอุดรธานี บึงกาฬ นครพนม ฯลฯ

นอกจากนี้ เอกชนอยากเร่งเรื่องงบประมาณการก่อสร้างสะพานเชื่อมรถไฟไทยไปลาว ก่อนรัฐปัจจุบันจะปิดฉากลง

หากรองบฯ อนุมัติจากรัฐใหม่อาจใช้เวลานานและการก่อสร้างจะช้าอีก 7 เดือน หลังจากประกาศยุบสภา จัดการเลือกตั้ง และจัดตั้งรัฐใหม่ คาดใช้เวลานาน

จึงอยากให้รัฐสนับสนุนงบฯ โดยเร็ว เพื่อประโยชน์ของภาคอีสาน

เพราะหากสะพานเส้นนี้แล้วเสร็จจะได้ประโยชน์ทั้ง 2 ทางทั้งการส่งออกและการท่องเที่ยว

สมบัติ ชินสุขเสริม

หอเหนือ จี้กวาดล้างรุกที่ดอย

‘สมบัติ ชินสุขเสริม’ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคเหนือ กล่าวว่า เศรษฐกิจภาคเหนือยังทรงตัว แม้การท่องเที่ยวจะกลับมาดูดีขึ้น

แต่ปัจจัยกังวลเรื่องการบุกรุกธรรมชาติบนภูเขาหรือบนดอย จะมีผู้ประกอบธุรกิจเปิดให้บริการที่พัก อยากให้รัฐเข้าไปตรวจสอบการถือครอง รวมถึงเอกสารสิทธิ์ว่าได้รับการอนุญาตให้เปิดบริการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

เพราะมีข้อร้องเรียนจากผู้ประกอบธุรกิจเดียวกันที่ทำธุรกิจถูกต้องว่าผู้ประกอบการที่ให้บริการบนภูเขามีใบอนุญาตหรือไม่ และนักท่องเที่ยวเคยร้องเรียนเรื่องราคาห้องพักสูงกว่าปกติ

จึงอยากให้รัฐเข้าไปตรวจสอบและติดตาม หากเกิดความเสียหายจะเป็นผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

ทั้งนี้ อยากฝากให้ทั้งรัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา เพราะอยากให้การท่องเที่ยวเกิดการจัดการที่ดีและปลอดภัย เพราะเรื่องพวกนี้ได้ระบุตามกฎหมาย รัฐสามารถช่วยเหลือและดูแลให้ดีจะทำให้นักท่องเที่ยวอยากเข้ามามากขึ้น

ปรัชญา สมะลาภา

หอตะวันออก หวังไทยโกอินเตอร์

‘ปรัชญา สมะลาภา’ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจเป็นบวก หลังท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่การส่งออกจะสวนทางตามเศรษฐกิจโลก

จึงอยากให้รัฐเร่งติดต่อตลาดแถบประเทศตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอาระเบีย อินเดีย เป็นต้น ซึ่งสินค้าเกี่ยวกับอาหารไทยโดดเด่น

นอกจากนี้ รัฐยกระดับการแข่งขันโดยดึงคนมีความสามารถเฉพาะด้านเข้าไทย แม้รัฐพยายามมีมาตรการ เช่น การให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดนต่อต้านจากประชาชน ซึ่งประเด็นนี้ต้องสื่อสารชัดเจนว่าทำด้วยกฎเกณฑ์ใด อีกทั้งต้นทุนเพิ่มขึ้น ทั้งค่าไฟฟ้า ค่าแรงงาน ดอกเบี้ย เป็นปัจจัยกดดันให้การแข่งขันน้อยลง รัฐต้องหาทางออกให้ได้

อย่างไรก็ตาม หลังได้รัฐใหม่เน้นเรื่องเศรษฐกิจ เพราะหลังช่วงแพร่ระบาดโควิด รัฐใช้เงินช่วยเหลือประชาชนผ่านมาตรการมากพอสมควร ซึ่งโอกาสลงทุนโครงสร้างใหม่ต้องรอบครอบเพราะทรัพยากรจำกัด

โดยเร่งโครงการสำคัญที่ลงทุนแล้ว เช่น ขยายเขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) อาทิ การส่งออก การบริโภคภาคในประเทศ และการท่องเที่ยว เป็นต้น

หอใต้ เร่งเก็บเกี่ยวเงินเที่ยวไทย

‘วัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ’ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ กล่าวว่า ภาคใต้ดีขึ้นจากการท่องเที่ยว หลังนักท่องเที่ยวเดินทางตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565 ทำให้ท่องเที่ยวปี 2566 ส่งสัญญาณดีต่อเนื่อง คาดเศรษฐกิจขยายตัว 3-4% ขณะนี้พื้นที่ภาคใต้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึง 80-90% สะท้อนจากห้องพักมียอดจองเต็มทั้งหมด ซึ่งท่องเที่ยวโดดเด่นหลังจากเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ทำให้ต่างชาติมองไทยสามารถควบคุมโควิดและมองระบบสาธารณสุขดีเป็นอันดับต้นของโลก

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบธุรกิจต้องอัปเกรดมากขึ้น เพราะราคาห้องระดับ 700-1,200 บาทต่อคืน เทียบกับฮ่องกง สิงคโปร์ มีราคาห้อง 8,000 บาทต่อคืน ซึ่งราคาต้องเปลี่ยนให้สอดคล้องกับค่าครองชีพ รวมถึงยกระดับรายได้ประเทศเพิ่มขึ้น ดังนั้น รัฐต้องสนับสนุนท่องเที่ยว ผลักดันการโปรโมตผ่านการจัดงาน รวมถึงเร่งกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายในประเทศด้วย

ซึ่งสิ่งที่หอการค้าทั้ง 5 ภาคสะท้อนอาจแตกต่างกันตามภูมิศาสตร์ที่ตั้งและพื้นฐานประชากร

แต่เมื่อถามถึงอนาคตการเมืองไทย ทุกภาคยกมือ ไม่ว่า “หน้าตารัฐบาลใหม่” เป็นอย่างไร ก็ขอให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างแท้จริง