Cool Tech | จิตต์สุภา ฉิน

@Sue_Ching

Facebook.com/JitsupaChin

 

เครื่องบินส่วนตัว

แต่คาร์บอนส่วนรวม

 

หนึ่งในสิ่งที่เด็กรุ่นใหม่ให้ความสำคัญมากก็คือการรับมือกับปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยน ลดการปล่อยคาร์บอนจากการใช้ชีวิตประจำวันให้ได้มากที่สุดเพราะพวกเขามองว่าตัวเองยังต้องอยู่บนโลกใบนี้ไปอีกนาน

ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าไลฟ์สไตล์ของดารา เซเลบ เศรษฐีที่ใช้ชีวิตหรูหราอู้ฟู่ปล่อยคาร์บอนแบบไม่มีขีดจำกัดจะทำให้พวกเขาโกรธขึ้งขนาดไหน

Kylie Jenner เซเลบนักธุรกิจสาววัย 24 ปีที่ประสบความสำเร็จขั้นสุดจากการออกแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเองโพสต์ภาพบนอินสตาแกรมโดยเป็นภาพของเธอกับแฟนหนุ่ม Travis Scott ยืนกอดกันอยู่หน้าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว 2 ลำที่จอดอยู่ไม่ห่างกัน พร้อมเขียนคำบรรยายใต้ภาพว่า

“บินลำไหนดีนะ ลำของฉัน หรือลำของเธอ”

ภาพที่เจ้าของตั้งใจอวดไลฟ์สไตล์ฟู่ฟ่าได้ก่อให้เกิดเสียงก่นด่าทั่วโลกอินเตอร์เน็ต ส่วนที่หมั่นไส้ก็คงจะมี แต่เสียงส่วนใหญ่พูดตรงกันว่านี่เป็นการแสดงออกถึงความไร้ซึ่งความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในขณะที่ทั่วโลกต่างก็เผชิญภัยธรรมชาติขั้นวิกฤตนับไม่ถ้วนทั้งไฟป่าไปจนถึงอุณหภูมิที่เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ โดยที่ทั้งหมดเกิดขึ้นจากสภาพอากาศเปลี่ยนอันเนื่องมาจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์

มีคนนำข้อมูลไฟลต์บินมาเปิดเผยว่าคืนหนึ่งในเดือนธันวาคม เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของ Kylie Jenner และ Travis Scott บินมาจากเส้นทางเดียวกันและไปลงที่สนามบิน Van Nuys ในแคลิเฟอร์เนียโดยห่างกันเพียงแค่ 5 ชั่วโมงเท่านั้น

ไลฟ์สไตล์การนั่งเครื่องบินส่วนตัวไปไหนเมื่อไหร่ก็ได้ตามใจชอบไม่ได้เกิดขึ้นกับแค่สองคนนี้เท่านั้น แต่เป็นเรื่องที่แสนจะธรรมดาสำหรับคนรวยทั่วโลก เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของเซเลบอย่าง Taylor Swift และ Kim Kardashian ก็เคยมีสถิติที่แสดงให้เห็นว่าใช้เพื่อบินไปจุดหมายปลายทางใกล้ๆ ที่จริงๆ ขับรถแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงแล้ว

การใช้ชีวิตแบบปล่อยคาร์บอนไม่เกรงใจใครสร้างความไม่พอใจโดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่พยายามปรับไลฟ์สไตล์ของตัวเองให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด มีทวีตหนึ่งพูดถึงการบินของ Kylie Jenner ว่า “ต่อให้ฉันรีไซเคิลทุกอย่าง ซื้อแต่เสื้อผ้ามือสองเท่านั้น ปลูกและย่อยสลายอาหารที่กินทั้งหมดไปตลอดชีวิตก็ไม่ได้เศษเสี้ยวของคาร์บอนที่เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของ Jenner แค่ไฟลต์เดียวปล่อยออกมา”

บางคนก็ถึงขั้นบอกว่าเห็นแบบนี้ก็ท้อจนถอยและเลิกพยายามไปแล้ว

เว็บไซต์ DW บอกว่าเมื่อถอยมามองภาพที่ใหญ่ขึ้นก็จะเห็นว่าคาร์บอนที่ปล่อยมาจากเครื่องบินส่วนตัวของบรรดาเซเลบต่างๆ ยังถือว่าขี้ปะติ๋วนักหากเปรียบเทียบกับมหาเศรษฐีคนอื่นๆ อย่างเช่น Roman Abramovich มหาเศรษฐีชาวรัสเซียที่เป็นเจ้าของเรือยาว 162 เมตร มีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ 2 ลานอยู่บนเรือพร้อมสระว่ายน้ำ เรือลำนี้ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามากยิ่งกว่าตึกแมนชั่น เครื่องบิน และลิมูซีนรวมกันหลายเท่าตัว

การศึกษาชิ้นหนึ่งในปี 2021 คาดประมาณว่าเรือยอตช์ของ Abramovich ลำนี้ปล่อยคาร์บอนในปี 2018 มากกว่าประเทศตูวาลูที่มีประชากร 11,000 คนปล่อยออกมาทั้งประเทศทั้งปี

เรื่องน่าเศร้าก็คือประเทศที่เป็นเกาะอย่างตูวาลูนี่แหละที่เสี่ยงจะได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากสภาพอากาศเปลี่ยนก่อนใคร

 

ตัวฉันเองเคยมีประสบการณ์ได้นั่งเครื่องบินส่วนตัวเพื่อจุดประสงค์ของการทำคอนเทนต์ ดังนั้น จึงเข้าใจดีเลยว่าถ้าหากมีเงินมากพอทำไมคนถึงจะอยากบินเครื่องบินส่วนตัวมากกว่าบินกับเครื่องบินเชิงพาณิชย์

นอกจากความเป็นส่วนตัวตามชื่อแล้วก็ยังมีเรื่องของความสะดวกสบายที่มาจากการบินตามตารางเวลาของเราเอง ไม่ต้องผ่านกระบวนการตรวจมากมายและไม่ต้องเข้าคิวเบียดเสียดกับใคร

ช่วงโควิด-19 ระบาดปีสองปีแรก เครื่องบินส่วนตัวได้รับความนิยมสูงแบบพุ่งทะยานเพราะคนมีเงินต่างหันไปหาทางเลือกของการเดินทางแบบไม่ต้องปะปนกับคนอื่นๆ หรือใช้เพื่อบินไปยังที่ที่สายการบินเชิงพาณิชย์ระงับการบินไปชั่วคราว

ธุรกิจชาร์เตอร์เครื่องบินแย่งกันซื้อเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวจนแทบจะไม่มีของขาย ผู้ให้บริการเครื่องบินเจ็ตราว 90 เปอร์เซ็นต์บอกว่าไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจในช่วงไวรัสระบาดเลย

และต่อให้มีเสียงเรียกร้องเรื่องความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นกระแสออกมาก็ยังไม่กระทบต่อยอดขายอยู่ดี

รายงานของ Transport & Environment ในปี 2021 ให้ข้อมูลว่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวปล่อยคาร์บอนมากกว่าเครื่องบินเชิงพาณิชย์โดยเฉลี่ยถึง 10 เท่าโดยที่เครื่องบินเชิงพาณิชย์สามารถนำผู้โดยสารจำนวนมากและสัมภาระอีกมากมายไปยังจุดหมายปลายทางได้ ในขณะที่เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวอาจจะมีผู้โดยสารเพียงแค่หนึ่งคนเท่านั้น

คนที่เกี่ยวข้องพยายามเสนอวิธีต่างๆ ในการรับมือ อย่างเช่น การเพิ่มภาษี อุดช่องโหว่ทางกฎหมาย ไปจนถึงการกำจัดแหล่งหลบภาษีต่างๆ แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร มีการเสนอว่าให้แบนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวที่ใช้น้ำมันก๊าดซึ่งแม้จะไม่ใช่ส่วนใหญ่แต่ก็อาจจะผลักดันให้มหาเศรษฐียอมเจียดเงินไปช่วยลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมและคิดค้นหาวิธีที่จะบินแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นให้ได้

การลงทุนเพื่อเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะนำไปสู่การบินที่กรีนขึ้นยังช่วยอุตสาหกรรมการบินโดยรวมและก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว

 

ไม่ใช่ว่าเราจะยกความผิดทั้งหมดนี้ไปให้กับกลุ่มคนรวยอย่างเดียว ไลฟ์สไตล์ของเราทุกคนรวมถึงตัวฉันเองด้วยก็ก่อให้เกิดการปล่อยคาร์บอนมากเกินความจำเป็นอยู่บ่อยๆ เพราะแบบนี้ DW ก็เลยเปรียบเปรยให้เห็นภาพว่าถึงจะเป็นชนชั้นกลาง ไม่ได้เป็นมหาเศรษฐีรวยล้นฟ้า แต่เราต่างก็เป็น Kylie Jenner ของใครสักคนที่มองมาทั้งนั้น

คนแต่ละเจเนอเรชั่นให้ความสำคัญกับเรื่องที่แตกต่างกันออกไป การอวดไลฟ์สไตล์ที่หรูหราอาจจะเป็นสิ่งที่เรียกร้องความสนใจและความเคารพได้จากคนบางกลุ่ม หรือบางเจน แต่ในปัจจุบันเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นก็คือการให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกัน ช่วยกันคิดค้นหาวิธีที่จะถนอมโลกให้เป็นที่อยู่อาศัยที่สุขสบายได้สำหรับผู้ใหญ่ในวันนี้และเด็กที่จะเติบโตขึ้นมาในวันข้างหน้า

ไม่ว่ายอดเงินในบัญชีของเราจะแตกต่างกันแค่ไหนก็ตาม

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022