ชะตากรรมอันเกิดขึ้นกับ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ได้กลายเป็นสันปันน้ำในทาง”ความคิด”

แยกระหว่าง”นักเศรษฐศาสตร์” กับ “นักการตลาด”

ต้องยอมรับว่า ภาพของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เป็นภาพของ “นักการตลาด”

ทั้งโดย”ธรรมชาติ” และโดย”ประสบการณ์”

คำยืนยันก็คือ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ มิได้ฝึกปรือมาในฐานะ”นักการตลาด”ตั้งแต่ต้น หากสะสมความรู้ในฐานะ”นักกฎ หมาย”จากสำนักสามย่าน

แต่เมื่อทำงานที่”โตโยต้า”อันเป็นบริษัทข้ามชาติ ก็เดินลงไปบนเส้นทางสาย”การตลาด”โดยเริ่มต้นจากงานประชาสัมพันธ์ นี่คือฐานอันหนักแน่นอย่างยิ่ง

ไม่เพียงแต่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จะต่อยอดไปเป็นงานสร้างภาพลักษณ์ปั้นดาราและนักแสดง หากแต่ยังเข้าไปในพื้นที่ ทางการเมือง

เริ่มต้นจากการวางแผนการตลาด”การท่องเที่ยว” จากนั้นก็มีส่วนอย่างสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ช่อง 9 อสมท.

“การตลาด”ย่อมเป็นกระดานหกไปสู่”การเมือง”

 

หากมองผ่านจากภาพ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เข้าไปในแวดวงทางการเมือง ก็จะสามารถสัมผัสได้ในบุคคลอันเดินรอยเดียวกันกับ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จำนวนไม่น้อย

หากใช้เกณฑ์”ว่าด้วยการปฏิบัติ”มาเป็นบรรทัดฐานก็จะมองทะลุวาทกรรม”คำพูด”ไปได้

ยิ่งมองเข้าไปภายในของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่หลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 กระทั่งหลังการเลือก ตั้งเดือนมีนาคม 2562 ก็จะเห็นอย่างเด่นชัดมากมาย

ไม่ว่าจะอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะอยู่ในพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะอยู่ในพรรคชาติไทยพัฒนา

และรวมทั้งที่แวดล้อมอยู่โดยรอบตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

 

ถามว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ มีประสบการณ์ทางด้านเศรษฐกิจหรือไม่ ตอบได้เลยว่ามีแน่นอนในท่ามกลางการเติบใหญ่ทางการเมือง

เพียงแต่การสะสมด้านหลักยังเป็นในด้าน”การตลาด”

จากสถานการณ์ที่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ประสบกระทั่งกลายเป็นอีกบทหนึ่งทางการเมือง กำลังกลายเป็น”บทเรียน”

ไม่ว่าต่อ”นักการตลาด” ไม่ว่าต่อ”นักการเมือง”