เช็กสต๊อกหนังสือ : สู่ฟ้าเสวยสวรรค์

สู่ฟ้าเสวยสวรรค์ สำนักพิมพ์มติชน จำนวน 317 หน้า ราคา 499 บาท

พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ไปแล้วอย่างสมพระเกียรติยิ่ง ความรู้ความเข้าใจในพระราชพิธีดังกล่าวนับเป็นสิ่งทรงคุณค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดสร้างพระเมรุมาศตามคติความเชื่อในเรื่องไตรภูมิอันมีเขาพระสุเมรุเป็นศูนย์กลางจักรวาล และเป็นที่สถิตของเหล่าทวยเทพ เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับประกอบพระราชพิธีดังกล่าว พระเมรุมาศจึงนับเป็นสิ่งก่อสร้างที่แสดงพระเกียรติยศในวาระสุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพของพระมหากษัตริย์ อีกทั้งการก่อสร้างพระเมรุมาศครั้งนี้ ยังเป็นการก่อสร้างที่รวบรวมงานช่างแขนงต่างๆ มารังสรรค์ให้มีความงดงาม ทั้งงานด้านสถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรม และประณีตศิลป์ ที่ช่างทุกคนต่างหล่อหลอมดวงใจสรรค์สร้างให้งานออกมาเป็น “ศิลปกรรมล้ำเลิศแห่งยุคสมัย” และเป็น “มรดกของแผ่นดิน” โดยแท้

ด้วยเหตุนี้ เครือมติชนจึงได้รวบรวมข้อมูลเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ของงานช่าง นำมาเรียบเรียงเป็นหนังสือเล่มนี้ที่จะทำให้เราทราบถึงความหมาย คติต่างๆ ที่อยู่เบื้องหลังการสร้างพระเมรุมาศ พระที่นั่งทรงธรรม สวนประดับโดยรอบ ราชยานและราชรถต่างๆ ฯลฯ อันจะเป็นคุณูปการสำหรับการรำลึกจดจำและจะทำให้ผู้ที่ต้องการเข้าชมนิทรรศการพระเมรุมาศ ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมวันละ 50,000 คน จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ได้เข้าใจความหมายอันลึกซึ้งที่แฝงอยู่ในสุดยอดงานศิลป์เหล่านี้ด้วย

สมุนไพรไทย ต้านจุลินทรีย์ สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศุภยางค์ วรวุฒิคุณชัย และ สุกัลญา หลีแจ้ ผู้เขียน จำนวน 562 หน้า ราคา 600 บาท

 

ปัญหาที่วงการแพทย์ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้คือ การที่เชื้อโรคต่างๆ ดื้อยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการรักษามากขึ้น การติดเชื้อและดื้อยา เป็นผลให้ยาที่เคยใช้ได้ผลดีไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้อย่างที่เคยเป็น ทำให้ต้องเปลี่ยนไปใช้ยาตัวใหม่ที่มักมีราคาแพงขึ้น และก็ต้องเปลี่ยนกันอยู่บ่อยๆ เพราะตัวที่ใช้ใหม่ก็เริ่มมีปัญหาดื้ออีก

ผู้เขียน โดยเฉพาะศาสตราจารย์ ดร.ศุภยางค์ วรวุฒิคุณชัย ได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยาการแพทย์ และผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ และเป็น “เมธีวิจัยอาวุโส สกว.” จากโครงการวิจัยเรื่อง “แผนงานวิจัยแบบมุ่งเป้าเพื่อแก้ปัญหาการติดเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะ” จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพืชสมุนไพรที่นิยมใช้ในตำรับยาพื้นบ้านมากถึง 60 ชนิดอย่างเป็นระบบ เช่น กระชาย ขมิ้นชัน จันทน์ผา ชะพลู ชุมเห็ดเทศ น้ำนมราชสีห์ พริกไทย ฟ้าทะลายโจร มะระขี้นก ว่านมหากาฬ สมอไทย เสลดพังพอน เหงือกปลาหมอ และอบเชย เป็นต้น

โดยมีแง่มุมที่ทันสมัย ครอบคลุมทั้งสารประกอบทางเคมีของพืช โอสถวิทยา การอักเสบเพราะสาเหตุต่างๆ แผลเรื้อรัง และการต้านอนุมูลอิสระ ฯลฯ ครอบคลุมข้อมูลทั้งชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อสามัญ ชื่อท้องถิ่น การปลูกและการขยายพันธุ์ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ และส่วนที่ใช้เป็นยา รวมทั้งด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพของสมุนไพรแต่ละชนิด จึงนับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักวิจัย นักศึกษา นักเภสัชศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์และบุคคลทั่วไป

งานพระเมรุ : ศิลปสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมเกี่ยวเนื่อง ศิลปวัฒนธรรมฉบับพิเศษ ดร.เกรียงไกร เกิดศิริ บรรณาธิการ จำนวน 413 หน้า ราคา 390 บาท

อีกเล่มที่เป็นผลิตผลของนักวิชาการและนักวิจัยกว่า 10 คน ที่สนใจในเรื่องสหวิทยาการมนุษยศาสตร์ อันว่าด้วยเรื่องราวของ “งานพระเมรุ” ซึ่งเป็นงานสำหรับส่งผู้วายชนม์ที่ละวางสรีระไว้ในโลกนี้ เพื่อไปสู่ภพภูมิใหม่ตามคติความเชื่อของคนไทยและผู้คนในดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออุษาคเนย์ ซึ่งต่างก็รับเอาต้นรากวัฒนธรรมมาจากอินเดีย แต่ก็ได้พัฒนาการไปจนมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละท้องถิ่น โดยที่เนื้อหาทั้งหมดในเล่มมิได้เจาะจงเฉพาะพระราชพิธีที่เกี่ยวเนื่องกับสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น หากแต่ยังมีประเด็นที่กว้างขวางออกไปถึงสังคมและวัฒนธรรมในภาพรวม

ในเล่มมีการจัดวางเนื้อหาไว้เป็น 3 ส่วน โดยนอกเหนือจากปกิณกะอันเกี่ยวเนื่องกับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพแล้ว ก็คือ ส่วนที่ 1 ว่าด้วย “จากสุวรรณภูมิ…สู่อุษาคเนย์” ส่วนที่ 2 ว่าด้วย “จากอยุธยา…สู่รัตนโกสินทร์” และส่วนที่ 3 ว่าด้วย “เรื่องเล่าจากจิตรกรรมฝาผนัง : ภาพจิตรกรรมฝาผนังงานพระเมรุและเรื่องเกี่ยวเนื่อง”

การศึกษาแบบ “สหวิทยาการ” ที่ศาสตร์แต่ละด้านต่างเป็นแสงสว่างที่ส่องทางแก่กันดังกล่าว ได้ก่อเกิดเป็นคลื่นความรู้ทางวัฒนธรรมที่ส่งพลังถึงกันอย่างไม่มีจบสิ้น ซึ่งได้ช่วยเติมเต็มความเข้าใจเรื่องงานพระเมรุให้ลุ่มลึกขึ้น

ดับกระหายก่อนภัยเลือด (A Drink before the War) Dennis Lehane ผู้เขียน จาตนิน ผู้แปล จำนวน 288 หน้า ราคา 265 บาท

นวนิยายสืบสวนสอบสวน ที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ตีแผ่ให้รับรู้และเข้าใจปัญหาในสังคมอเมริกันมากขึ้น

นักสืบแพทริก เคนซี ต้องเผชิญกับความทรงจำอันเจ็บปวดที่มักหาโอกาสมาเยี่ยมเยียนเขาเสมอ เพราะมันฝังแน่นอยู่ในใจไม่อาจลบเลือน และส่งผลกระทบต่อชีวิตเขาจนถึงปัจจุบัน

พ่ออาจเป็นวีรบุรุษในสายตาคนทั่วไป แต่สำหรับเขา กลับมีแต่ความทรงจำที่พ่อทำร้ายเขา แต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป โดยที่เขาเลือกเส้นทางที่แตกต่าง แทนที่จะเป็นนักผจญเพลิงผู้โด่งดังอย่างพ่อ เขากลับเลือกที่จะเป็นนักสืบเอกชนผู้ยียวนผิดไปจากแบบฉบับของนักสืบทั่วไป

เขาได้รับการว่าจ้างให้หาเอกสารสำคัญของนักการเมืองคนหนึ่ง เริ่มต้นจากต้องหาคนคนหนึ่งให้พบ เธอคือพนักงานทำความสะอาดหญิงที่นำเอกสารชุดนี้ติดตัวไปด้วย งานง่ายๆ แค่หาผู้หญิงคนหนึ่ง นำเอกสารกลับไปให้ผู้ว่าจ้าง แล้วรับเงิน แต่กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด แพทริกไม่รู้เลยว่าเขากำลังพาตัวเองเข้าไปอยู่ในวังวนแสนอันตราย ไฟแห่งสงครามกำลังถูกจุดขึ้น ความตายเกิดขึ้นไม่เลือกหน้า เมืองทั้งเมืองลุกเป็นไฟ มีเพียงเขาเท่านั้นที่จะจบเรื่องร้ายเหล่านี้ได้

คํา คม คิด

“ดอกไม้พวกนี้สอนเราว่า ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ถาวร ทั้งความงาม ทั้งความจริงที่ว่ามันจะเหี่ยวเฉาไปโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง เพราะมันจะให้เมล็ดพันธุ์รุ่นใหม่ต่อไป จงจำข้อนี้ไว้ เมื่อลูกมีความสุข เจ็บปวด หรือเศร้าเสียใจ ทุกสิ่งผ่านมา แก่ตัว ตายไป และเกิดใหม่”

จาก “สายลับ” นิยายชีวประวัติของ มาตา ฮารี ของ เปาโล คูเอลญู