ภัยพิบัติและวิกฤตโลก ปี 2566 สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยืดเยื้อ ธรรมชาติแปรปรวน ไทยเผชิญทั้ง ‘ท่วม-แล้ง’ | บทความพิเศษ

บทความพิเศษ | ภัณธิภร วงษ์จันทร์เพ็ญ

email : [email protected]

Facebook : Classical and Uranian Astrology Thailand

วรเชษฐ์ ตียเกษม ที่ปรึกษา

ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์สากลและยูเรเนียนแห่งประเทศไทย

 

ภัยพิบัติและวิกฤตโลก ปี 2566

สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยืดเยื้อ

ธรรมชาติแปรปรวน

ไทยเผชิญทั้ง ‘ท่วม-แล้ง’

 

พยากรณ์ดวงชะตาโลกและดวงประเทศไทยโดยภาพรวมปี พ.ศ.2566

ดวงวันเหมายัน (Winter Solstice) ตรงกับวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ.2566 เวลา 04:48:01 น. ตามเวลามาตรฐานประเทศไทย 105 องศาตะวันออก ดวงอาทิตย์สถิตราศีมกร 00 องศา 00 ลิปดา 00 ฟิลิปดา

(ภาพจากโปรแกรม Solar Fire พยากรณ์ด้วยโหราศาสตร์ยูเรเนียนระบบจาน 2 ชั้น (จานจรัญ) อ่านความหมายจากคัมภีร์พระเคราะห์สนธิ อ.พลตรี ประยูร พลอารีย์)

ดวงชะตาโลก

ปี 2566 แนวโน้มของสภาวะโลกมีความผันผวน ก่อตัวราวกับการก้าวสู่สภาวะสงครามเย็น ทุกประเทศต่างดิ้นรนสู้ภัยวิกฤตโควิด-19 ที่ยังคงไม่หายไปจากโลก ยาและวัคซีนเพียงช่วยบรรเทาให้ทุกอย่างดำเนินต่อไปได้

สภาพเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อ คนว่างงาน การอพยพลี้ภัย ผลกระทบจากสงครามที่ยังคงยืดเยื้อ

นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้เกิดการจัดระเบียบและสร้างกฎเกณฑ์ใหม่ทั่วโลกนับจากนี้ไป

โลกผ่านวิกฤตโควิด-19 มาอย่างยาวนานกว่า 3 ปี ผลมาจากความทุกข์และความสูญเสียทรัพยากรต่างๆ ดวงชะตาโลกกำลังเข้าสู่ความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทิศทางการเมืองของโลกขึ้นกับประเทศมหาอำนาจ จับตามองบทบาทจีนภายใต้สถานการณ์แข่งขันของรัฐมหาอำนาจด้วยวิธีการต่างๆ ที่จะผลักดันให้มีอำนาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งการปรับเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศของจีนและสหรัฐอเมริกาที่จะขยายฐานอำนาจทั้งด้านเทคโนโลยี การทหาร การค้าและเศรษฐกิจไปทั่วโลก

ท่ามกลางความวุ่นวายทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน จะยังคงยืดเยื้อต่อไปตลอดทั้งปี ส่งผลกระทบไปทั่วโลก

ความขัดแย้งและช่วงชิงความเป็นมหาอำนาจระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนเริ่มค่อยๆ รุนแรงมากยิ่งขึ้น

รวมทั้งวิกฤตการณ์การเมืองของเมียนมา ก่อความรุนแรงภายในประเทศที่ส่งผลกระทบขยายออกสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น

ผลจากภัยสงคราม โลกจะเผชิญกับการอพยพของผู้ลี้ภัย คนอพยพหนีตาย ความอดอยาก ขาดแคลนอาหาร พลังงานและทรัพยากร ราคาสินค้าแพงขึ้น

นับจากนี้โลกกำลังเปลี่ยนแปลงเพื่อนำไปสู่ความอยู่รอด ประเทศเล็กๆ จะพยายามรวมตัวกัน ประเทศมหาอำนาจจะเริ่มแทรกแซงเพื่อขยายฐานอำนาจออกไปด้วยวิธีการต่างๆ

โควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดต่อไป มีการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ แม้ว่าความก้าวหน้าทางการแพทย์จะคิดค้นยาและวัคซีน แต่ไม่ทันกับความไวของการกลายพันธุ์ จะยังมีคนทั่วโลกป่วยและตายจากโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจของโลกยังชะลอตัว ค่อยๆ ปรับตัวเพื่อให้เป็นไปตามสถานการณ์ต่างๆ ที่ยังคงวุ่นวายโดยเฉพาะปัญหาจากวิฤกตโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังคงยืดเยื้อต่อไปตลอดปี ทำให้ชาติแถบยุโรปต้องเผชิญความไม่แน่นอนและความเสี่ยงต่างๆ เงินเฟ้อเกิดขึ้นทั่วโลก รวมทั้งวิกฤตพลังงานและอาหารด้วย ที่จะส่งผลกระทบต่อเนื่องให้สินค้าต่างๆ มีราคาแพงขึ้น

ปีหน้าเกิดวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 โลกร้อน ส่งผลทำให้เหตุพายุและน้ำท่วมจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น คนเสียชีวิตจากอากาศร้อนจัด โลกต้องปรับตัวรับมือกับภัยธรรมชาติที่เพิ่มความรุนแรง การลดปริมาณการปล่อยก๊าซพิษ วิธีการปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังไร้ผลที่ชัดเจน การจัดหาเงินทุนเพื่อสู้วิกฤตการณ์ทางธรรมชาติยังไม่มีประเทศใดเข้ามาช่วยเหลืออย่างจริงจัง เพราะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลและต้องได้รับความร่วมมืออย่างจริงจังจึงจะเกิดผลสำเร็จทั่วโลก

โลกจะปรับเข้าสู่การดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ภาวะการแก่งแย่งและแสวงหาผลประโยชน์กับประเทศด้อยพัฒนาที่มีทรัพยากรธรรมชาติด้วยการแลกเปลี่ยนในสิ่งต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ตน รูปแบบการใช้ชีวิตของคนทั่วโลกจะเปลี่ยนไป

ผลของทั่วโลกที่เจอวิกฤตโควิด-19 จะทำให้มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น การคิดค้นสิ่งใหม่ที่จะคอยรองรับปัญหาวิกฤตต่างๆ ที่โลกเคยเผชิญมาแล้วจะเริ่มปรากฏให้เห็น นำไปสู่การเป็นมหาอำนาจทางเทคโนโลยี

 

ดวงชะตาประเทศไทย

ภาพอนาคตทางการเมืองไทยปี 2566 ความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับจากหลังปีใหม่นี้จะยิ่งเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน มีหลากหลายรูปแบบทั้งการย้ายขั้วอำนาจ การดึงร่วมพรรค ต่างฝ่ายต่างสร้างอำนาจและขยายเครือข่ายทางการเมือง มีการขยายฐานอำนาจไปยังพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น ทุกอย่างไม่ได้ราบรื่น ลงตัว มีการเจรจาต่อรองผลประโยชน์ต่างๆ กันไว้ล่วงหน้า มีความขัดแย้งกัน มีความแตกแยกภายในพรรคต่างๆ เป็นไปตามสถานการณ์เพื่อให้เกิดความอยู่รอด

ต่างฝ่ายต่างใช้ยุทธศาสตร์และกลยุทธ์เพื่อดำรงไว้ซึ่งฐานอำนาจ ในความจริงสิ่งที่คาดการณ์จะไม่เป็นไปตามหวัง รัฐบาลล้มเหลวกับการบริหารงานและสื่อสารกับประชาชน ประชาชนมีทัศนคติลบต่อรัฐบาลมายาวนาน ด้วยเหตุนายกฯ อยู่ในอำนาจนานเกินไป

กระแสสังคมไม่ขานรับต่อความพยามในการสร้างคะแนนความนิยมในตัวนายกฯ ไม่มีโอกาสเป็นไปตามที่คาดหวัง

ประสบความล้มเหลวในการแก้ปัญหาประเทศ ทั้งเศรษฐกิจ การบริหารจัดการ และปัญหาวิกฤตโควิด-19

รัฐบาลชุดนี้เริ่มเข้าสู่ทางแพร่ง จึงต้องเร่งหาทางออก แต่อีกไม่นานจะถึงเวลาที่นายกฯ และรัฐบาลเข้าสู่ทางตัน

นับถอยหลังสู่การเลือกตั้งอย่างเต็มที่แล้ว นักการเมืองเริ่มคาดการณ์ถึงสิ่งที่ทำให้อยู่ในตำแหน่งได้นานๆ ได้อยู่พรรคที่จะให้ผลประโยชน์ทางการเมือง

พรรคการเมืองเริ่มจัดขบวนทัพเตรียมการต่างๆ พรรคเล็กหาทางอยู่รอดด้วยกลวิธีการต่างๆ พรรคกลางและพรรคใหญ่เริ่มคาดการณ์ประเมินผลที่จะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง

สมรภูมิทางการเมืองของนายกฯ นับจากนี้ไปเต็มไปด้วยขวากหนาม เกิดการแตกหัก สายสัมพันธ์สั่นคลอน ยากจะประสานรอยร้าวได้ พันธะผูกพันล่มสลาย บริวารคนใกล้ชิดทั้งสองฝ่ายต่างช่วงชิงความดีความชอบ

การสร้างพรรคใหม่ไว้รองรับอำนาจตนเองในอนาคตเพื่อปูทางการเมืองสู่การเลือกตั้ง เกมอาจจะพลิกผัน

นายกฯ ยังเชื่อมั่นในผลว่ายังได้รับคะแนนนิยม จึงคาดว่านายกฯ สามารถร่วมแข่งขันเป็นตัวเลือกอีกในสมัยหน้า แต่ดวงชะตาไม่ขานรับ เห็นทีว่าจะไม่เป็นไปตามหวัง

แนวคิดการตั้งพรรคใหม่เป็นกลยุทธ์ทางการเมือง เปิดโอกาสให้แยกทางกันเดิน สุดท้ายอาจจะรวมกันด้วยผลประโยชน์ที่แบ่งกันอย่างไม่ลงตัว แต่มีความจำเป็นต้องรักษาฐานอำนาจของตัวเองไว้ก่อน

แนวโน้มการเลือกตั้งปีหน้าจะมีตัวแปรที่มากมาย ซับซ้อนในกฎกติกา รวมทั้งภาพลักษณ์ของตัวผู้นำพรรคย่อมส่งผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลในรูปแบบใหม่

ภายใต้ความผันผวนทางเศรษฐกิจและวิกฤตสังคม นโยบายสวัสดิการที่ช่วยเหลือประชาชนเรื่องปากท้องจะเป็นเรื่องใหญ่ พรรคการเมืองไหนชัดเจนมีสิทธิชนะการเลือกตั้ง

แต่ความไม่แน่นอนจะเกิดความพลิกผันได้ ดังนั้น พรรคที่ได้รับการเลือกตั้งชนะ ไม่ได้ยืนยันว่าจะได้จัดตั้งพรรครัฐบาล

การเลือกตั้งปีหน้าจะมีความสำคัญอย่างมากและเป็นจุดเปลี่ยนประเทศ พรรคใดมีฐานอำนาจจะเป็นผู้กำหนดทิศทางการเมืองไทยจะคล้ายๆ เดิม แค่เปลี่ยนตัวผู้นำเท่านั้น

 

ช่วงโควิด-19 ระบาดกว่า 3 ปีทำให้เศรษฐกิจหลายพื้นที่ซบเซาได้รับผลกระทบอย่างมาก สถานการณ์โควิด-19 ได้คลี่คลาย ทำให้เศรษฐกิจไทยค่อยๆ เริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ เศรษฐกิจไทยมีความเชื่อมโยงกับการเมือง ดังนั้น การขับเคลื่อนนโยบายทางเศรษฐกิจจึงเป็นเรื่องสำคัญในการหาเสียงเลือกตั้ง

เศรษฐกิจไทยจะมีเกณฑ์ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากหลายภาคส่วนทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ การท่องเที่ยวเริ่มกระเตื้อง มีนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศมากยิ่งขึ้น และจะเริ่มฟื้นตัวมากขึ้นในรอบปีนี้

แนวทางในปีหน้าภาคเศรษฐกิจไทยควรดึงนักลงทุนจากต่างประเทศที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มีความสามารถในการแข่งขันด้วยการลดต้นทุน

ดังนั้น ธุรกิจที่สามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาพตลาด ทิศทางในปีหน้าการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ การประชาสัมพันธ์ประเทศเพื่อการท่องเที่ยว การส่งออกสินค้าที่มีคุณภาพ รัฐบาลต้องทำให้ให้เกิดผลสำเร็จจริงๆ

พฤติกรรมการท่องเที่ยวนอกประเทศภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกคลี่คลายยังคงเป็นจุดหมายปลายทางระยะใกล้และมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า ไทยต้องหากลยุทธ์ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมาเที่ยวในเมืองไทยให้มากขึ้น รัฐบาลได้พยายามสนับสนุนให้เปิดประเทศและลดกฎเกณฑ์เพื่อสะดวกในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว

แต่ต้องรอบคอบในการควบคุมสิ่งที่จะผิดกฎหมายแฝงเข้ามาด้วย

คนจนในประเทศจะเพิ่มขึ้น ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยขยายกว้างมากขึ้น เกิดความขัดสน ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้น ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและไม่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน

การระบาดของโควิด-19 ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รัฐต้องส่งเสริม สร้างอาชีพ สร้างรายได้ จากการจ้างแรงงานด้วยการปรับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ ลดการใช้แรงงานต่างด้าว ออกกฎหมายเพื่อควบคุมอย่างเข้มงวด

 

ปี 2566 อสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาบ้างแต่ยังไม่มาก คนที่มีรายได้ประจำเป็นเงินเดือน รายได้ที่แท้จริงยังไม่เพิ่มขึ้น มีปัญหาหนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้น การกู้ธนาคารซื้อบ้านยังมีปัญหาการปฏิเสธการปล่อยกู้จำนวนมาก จากประเด็นใหญ่เรื่องต่างชาติซื้อที่ดิน จะส่งผลกระทบต่อความเข้มงวดในการขยายตัวภาคเศรษฐกิจอื่นๆ ภาพรวมของที่ดิน คอนโดฯ และอสังหาริมทรัพย์จะค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างช้าๆ ผลของปริมาณมากกว่าขีดความสามารถในการครอบครอง

การฟื้นเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดเงิน มาตรการการใช้เงินของภาครัฐเป็นมาตรการความช่วยเหลือได้ในระยะสั้นๆ เท่านั้น ซ้ำร้ายจะก่อให้เกิดหนี้ก้อนใหญ่ในอนาคต คนไทยจะต้องแบกรับปัญหานี้ รัฐต้องแก้ไขปัญหาระยะยาวที่ยั่งยืน แม้ว่าโควิด-19 ยังคงอยู่ การแพร่ระบาดยังไม่หมดไป รัฐบาลควรเจรจาให้มีการเพิ่มคู่ค้าและเพิ่มปริมาณการค้ากับไทย กระตุ้นการส่งออก เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาประเทศไทย

เศรษฐกิจไทยควรเพิ่มโอกาสดึงดูดผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ที่จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจประเทศ และเพิ่มนักลงทุนและเงินทุนเข้าประเทศด้วยวิธีการที่ถูกต้อง

การท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติจะช่วยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทย การส่งออกสินค้าที่ไทยมีศักยภาพ การดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนในไทย การลงทุนของภาครัฐเพิ่มขึ้น

ส่งผลให้เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง

 

ความแปรปรวนของสภาพภูมิกาศทั่วโลกส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงไทย

ภัยพิบัติตามธรรมชาติเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องระวัง

ฤดูกาลอากาศแปรปรวนเริ่มส่งผลให้เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างเด่นชัด

เช่น เข้าสู่ฤดูหนาว แต่หลายพื้นที่ยังต้องเผชิญปัญหาน้ำท่วมขังจากพายุดีเปรสชั่นที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ทั่วประเทศต้องเผชิญกับพายุฝนฟ้าคะนองกันทั่วหน้า ส่งผลให้เกิดความเสียหายด้านการเกษตร การประมง การปศุสัตว์ พอเข้าสู่ฤดูหนาวจะต้องเผชิญกับภัยแล้ง

คนไทยต้องเผชิญกับน้ำท่วมสลับแล้งเป็นภัยซ้ำซาก เป็นปัญหาเดิมๆ ที่เกิดขึ้นทุกปี รัฐบาลต้องมีการบริหารจัดการน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำ เร่งกักเก็บน้ำ รักษาแหล่งน้ำให้มีคุณภาพที่ดี ปรับแผนเป็นการปลูกพืชที่เหมาะสมกับฤดูต่างๆ

วิกฤตต้องระวังในปี 2566

ปีนี้ภาวะโลกร้อนกำเริบ ปัญหาฝนตกทำให้น้ำท่วมทุกปี ฝนมากระหน่ำอย่างหนักและต่อเนื่องจะทำให้น้ำท่วมหลายพื้นที่ทั่วประเทศ บางแห่งเป็นที่ลุ่มและบริเวณที่น้ำท่วมขังนานต้องเร่งมือในการเตรียมรับปัญหาน้ำท่วม

ระวังความไม่แน่นอนของเงินสกุลดิจิทัล ควรศึกษาก่อนทำธุรกรรมต่างๆ

แนวโน้มการเลือกตั้งปีหน้า เรื่องความเป็นอยู่และปากท้องของคนไทยเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ประเทศต้องการคนมือบริหารเศรษฐกิจชั้นดี

คนไทยต้องรอบคอบในการใช้จ่ายประหยัด มัธยัสถ์

อย่าไว้ใจโควิด-19 โดยเฉพาะช่วงเทศกาลวันหยุดยาว มีการเดินทาง ระวังการระบาดหนักกว่าเดิม รวมถึงเชื้อมีการกลายพันธุ์จะเกิดความรุนแรงต่อสุขภาพ

ภาพดาวเหมายันในทางโหราศาสตร์สากล

และโหราศาสตร์ยูเรเนียน

อาทิตย์ทำมุม 90 องศากับเมษและพฤหัสฯ สถิตในเรือนที่ 1, พฤหัสฯ ทำมุม 0 องศากับโครโนส สถิตในเรือนที่ 4, เสาร์สถิตในเรือนที่ 3 จะมีเหตุเกี่ยวกับรถไฟ ระบบการศึกษา การเดินทางสัญจร, ดาวอังคารโคจรพักร ราศีมิถุนสถิตในเรือนที่ 7 หมายถึง กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการต่างประเทศ คู่ค้า หุ้นส่วน คู่สัญญา, ดาวมฤตยูกุมราหู สถิตในเรือนที่ 6 ทำมุม 180 องศากับโพไซดอน

ดาวศุกร์สถิตในเรือนที่ 2 ทำมุม 180 องศากับโครโนส หมายถึง การเผชิญปัญหาทางการเงิน การใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย

โครโนสสถิตในเรือนที่ 8 หมายถึง การถึงแก่กรรมเพราะอำนาจที่เหนือกว่า และฮาเดสในเรือนที่ 8 หมายถึง การถึงแก่กรรมเพราะอดอยากหรือป่วยเป็นโรค

อาทิตย์ = เมษ = เมอริเดียน/เซอุส = พฤหัสฯ/โครโนส (ผู้อำนวยการที่ประสบความสำเร็จ) = พลูโต/แอตเมตอส (ก้าวไปสู่เบื้องลึก) = พฤหัสฯ = พุธ/อังคาร (ความคิดอันรุนแรง การกระทำที่รุนแรง) = พลูโต/ลัคนา (มีใจไม่มั่นคง บุคคลอื่นอาจเปลี่ยนแปลงได้)

แอตแมตอส/วัลคานุส (ชะตากรรมรังแก) = เนปจูน/ไครรอน = ราหู/เวอร์เท็ค = อาทิตย์/คิวปิโด = จันทร์/พลูโต = เสาร์/มฤตยู = เสาร์/โพไซดอน = ลัคนา/วัลคานุส หมายถึง สภาวะการที่ไม่มั่นคงในสาธารณชน (จันทร์/พลูโต) มีเหตุการทะเลาะวิวาท การพลัดพรากฉับพลัน การถึงแก่กรรม (เสาร์/มฤตยู) อันเกิดจากผู้อื่นที่มีความเหนือกว่า หรือประสบความรุนแรงจากผู้อื่น (ลัคนา/วัลคานุส)

จุดโรคระบาด (เมษ/ฮาเดส) = เสาร์ (เป็นดาวเข้ารูป) = เสาร์/แอตเมตอส (ตกอยู่ในภาวะลำบาก กินเวลานาน อดทน) = อังคาร/เนปจูน (การติดเชื้อ)

จุดโรคระบาด (เสาร์/เนปจนู) = เมอริเดียน = จันทร์ = ลัคนา/พุธ (เป็นบทแห่งการสนทนา) = อังคาร/แอตเมตอส (เศรษฐกิจตกต่ำ) = เมษ/มฤตยู (เหตุการณ์ซึ่งอุบัติโดยฉับพลัน) = เสาร์/คิวปิโด (การพรัดพรากจากหมู่คณะ)

จุดความยากจน ความยากจนอย่างกว้างขวาง ความทุกข์ยากในหมู่ชน (ฮาเดส/อาพอลลอน) = จันทร์ (เป็นดาวเข้ารูป หมายถึง ประชาชน มวลชน) = เมอริเดียน/อังคาร (การจัดระเบียบ ความกระตือรือร้น) = เนปจูน/อาพอลลอน (การฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างขนานใหญ่)

จุดนายกรัฐมนตรี (พฤหัส+โครโนส-วัลคานุส) = อังคาร = พลูโต/แอตแมตอส (การเปลี่ยนแปลงในส่วนลึก) = ลัคนา/ฮาเดส (จำใจสละหรือไร้สมรรถภาพ) = เสาร์/โครโนส (การสูญเสียทางด้านอำนาจปกครอง)

พฤหัส/โครโนส = เสาร์ (ดาวเข้ารูป) หมายถึง สูญเสียความเป็นผู้นำ ตกมาจากที่สูง

จุดภัยธรรมชาติ ความเสียหายเนื่องจากอัคคีภัยธรรมชาติ (เช่น ไฟไหม้ป่า เป็นต้น) ไฟไหม้เนื่องจากฟ้าผ่า (เมษ+เซอุส-ฮาเดส) = ฮาเดส (เป็นดาวเข้ารูป) = อาทิตย์ = เมษ = อังคาร/ราหู (การปฏิบัติร่วมกัน) = เสาร์/แอตเมตอส (ตกอยู่ในภาวะลำบาก กินเวลานาน) = เสาร์/พลูโต (การพัฒนาที่มีอุปสรรค ยากที่จะปรับตัว)

จุดน้ำท่วม (เนปจูน/ฮาเดส) = ราหู (เป็นดาวเข้ารูป) =เสาร์/วัลคานุส (อุปสรรคอันใหญ่หลวง)

เงินเฟ้อ (อาพอลลอน+วัลคานุส-เนปจูน) รวมหมายถึง เงินเฟ้อ การทำลายความสมบูรณ์พูนสุข การทุจริตที่แพร่ออกไป การฉ้อราษฎร์บังหลวง การติดโรค