บ้านเมืองปี 2566 มองผ่านดวงเมือง ต่อสู้หักล้างกัน‘สงบสุข’ยาก

โหราธิบดีที่วางฤกษ์ดวงเมือง ได้วางฤกษ์ดวงเมืองเอาไว้ให้ดาวพระเคราะห์หลัก 2 ดวงอยู่ในราศีเดียวกับราศีธนู ซึ่งเป็นเรือนศุภะของดวงเมือง

เรือนศุภะแปลว่า ความสุข ความสงบของบ้านเมือง ดาว 2 ดวงคือดาวพฤหัสฯ (๕) หัวหน้าฝ่ายดาวศุภะเคราะห์ และดาวเสาร์ (๗) หัวหน้าดาวฝ่ายบาปพระเคราะห์ จึงเป็นสัญลักษณ์ของความไม่สามัคคีที่ปรากฏตลอดมา จนเป็นธรรมชาติของดวงเมืองอยู่แล้วว่า ประเทศชาติของเราต้องอยู่แบบแตกความสามัคคี

ดังนั้น จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่จะต้องมีสองพวกในหนึ่งพรรค หรือสองพรรคในหนึ่งพวกเสมอ และในกลุ่มภายในพรรคจะต้องคอยทำลายล้างกันเอง ทำให้อยู่ด้วยกันไม่สงบ ไม่ราบรื่น

ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ก็มีรัชกาลที่ 4 ที่ต้องหลบภัยไปบวชทำให้เกิดธรรมยุติกนิกายเกิดขึ้น ครั้นถึงรัชกาลที่ 5 ก็มีสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นกษัตริย์อีกองค์หนึ่งอยู่ด้วยกัน

หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ก็มีคณะราษฎรโดยจอมพล ป.พิบูลสงคราม กับ ดร.ปรีดี พนมยงค์

หลังจากปฏิวัติปี พ.ศ.2490 ภายใต้การนำของจอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็มี พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ กับจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ระหว่างที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นผู้นำประเทศ ก็มี พล.อ.ประภาส จารุเสถียร กับ พล.อ.ถนอม กิตติขจร สมัย พล.อ.ถนอม กิตติขจร ก็มี พล.อ.ประภาส จารุเสถียร กับ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา

สำหรับสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (บิ๊กตู่) ที่เห็นๆ กันอยู่ก็มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (บิ๊กป้อม) แต่จะเป็นใครที่จะต้องเกิดมาเป็นคู่ขัดแย้งอย่างชัดเจนก็ต้องดูกันในปีหน้า

ดาวราหู (๘) ถูกมองจากโหรผู้ให้ฤกษ์ ว่าเป็นดาวนักเลง นักการพนันที่มัวเมาลุ่มหลง ยังมีดาวพุธ (๔) และดาวศุกร์ (๖) ร่วมอยู่ส่วนดาวราหู (๘) ในราศีมีนขณะนั้น ซึ่งเป็นเรือนวินาสของดวงเมือง โดยจะเรียกดาวทั้ง 3 ดวงที่อยู่ในเรือนวินาสของดวงเมืองว่า “ดาววิบากกรรม”

ดาวราหู (๘) จึงเป็นดาววิบากกรรมดวงสำคัญที่สุด คอยรังแกดวงเมืองตลอดมานั้น หากเราย้อนกลับดูดวงเมืองตั้งแต่ปี พ.ศ.2489 ดาวราหู (๘) จรโคจรเข้าเรือนกดุมภะของดวงเมือง มีผลทำให้เศรษฐกิจของบ้านเมืองตกต่ำอย่างรุนแรงและมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น เช่น ในหลวงรัชกาลที่ 8 สิ้นพระชนม์

ครั้นถึงวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2490 ดาวราหู (๘) จรโคจรทับลัคนา (ลั) ดวงเมืองเพียงวันเดียว ก็เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร ล้มอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง คณะปฏิวัติมีผู้นำคือ พล.ท.ผิน ชุณหะวัณ พ.อ.กาจ กาจสงคราม และจอมพล ป.พิบูลสงคราม

หลังจากการปฏิวัติ พ.ศ.2490 ในปี พ.ศ.2491-2495 ก็เกิดเหตุการณ์ไม่สงบขึ้นหลายครั้ง ที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ มีดังนี้

1. วันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2491 นายควง อภัยวงศ์ ถูกบังคับให้ลาออกจากตำแหน่ง

2. วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2491 เกิดกบฏเสนาธิการ

3. วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2492 เกิดคดีลอบสังหาร4 อดีตรัฐมนตรี ซึ่งพวกของปรีดี พนมยงค์ คือ

1. นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์

2. นายถวิล อุดล

3. นายจำลอง ดาวเรือง

4. นายทองเปลว ชลภูมิ

4. เกิดกบฏแบ่งแยกดินแดนในภาคอีสาน พ.ศ.2491

5. เกิดกบฏวังหลวง พ.ศ.2492

 

ในปี พ.ศ.2566 ดาวราหู (๘) จรโคจรทับลัคนา (ลั) ดวงเมืองอยู่อีกนานถึง 10 เดือน ประเทศไทยจะต้องพบกับความยุ่งยากเดือดร้อนเหมือนกับปี พ.ศ.2490-2492 เหตุการณ์ทางการเมืองก็มีแนวโน้มว่าจะต้องต่อสู้หักล้างกัน เชือดเฉือนกันแบบไม่มีใครยอมใคร สถานการณ์บ้านเมืองจึงสงบสุขร่มเย็นได้ยาก

บรรยากาศในทางการเมือง และการเลือกตั้งจะยุ่งยากมาก มีแนวโน้มว่าแต่ละพรรคการเมืองจะต้องต่อสู้กันแบบชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร จะเกิดการแตกแยก หักล้างกันในระหว่างพรรค การต่อต้านรัฐบาลก็จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะเตรียมการป้องกันไว้เป็นอย่างดีแล้วก็ตาม

ทั้งนี้เพราะพื้นฐานของดวงเมืองเดิมมีพื้นฐานการแตกความสามัคคีอยู่ร่วมกันในเรือนศุภะ จึงเป็นสัญลักษณ์ของความไม่สงบสุขในบ้านเมือง จะมีการผูกพยาบาทอาฆาตเกิดขึ้น

แนวโน้มมีการลอบทำร้ายศัตรูทางการเมืองเหมือนกับปี พ.ศ.2490-2492 ดังกล่าวมาแล้วข้างต้น

ช่วงสามเดือนแรกของปี 2566 ดาวอังคาร (๓) เดินหน้า-ถอยหลังอยู่ในเรือนกดุมภะ เศรษฐกิจคลอนแคลน ในขณะที่ดาวพฤหัสฯ (๕) จรโคจรอยู่ในเรือนวินาส

สถานการณ์ดวงเมือง “ดวงตก” มีโอกาสที่บ้านเมืองจะต้องสูญเสียบุคคลสำคัญ หรือพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่จะมรณภาพ หรือปาราชิก เป็นช่วงเวลาที่น่าจะเกิดความโศกเศร้าเสียใจขึ้นได้

 

หลังจากวันเกิดดวงเมือง 21 เมษายน 2566 ดวงเมืองจะมีอายุย่าง 242 ปี นับทักษาจรแล้ว มีดาวพฤหัสฯ (๕) เป็นกาลกิณีจร ขึ้นทับลัคนา (ลั) อีกดวงหนึ่งด้วย จึงมีแนวโน้มว่า บ้านเมืองจะยุ่งยากและไม่สงบเพิ่มมากขึ้นในทุกกระบวนท่าที่รัฐบาลจะแสดงออก จะมีฝ่ายต่อต้านอย่างไม่ลดละ เรียกว่ารัฐบาลตั้งหลักแทบไม่ไหว

ระหว่างวันที่ 18 กันยายน ถึง 16 ตุลาคม 2566 เป็นเวลาที่ดวงเมืองสะดุดหรือซวดเซลงไปอีก เพราะดาวอาทิตย์ (๑) จรโคจรเข้าไปในเรือนอริ เป็นช่วงเวลาที่พวกที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลจะขับเคี่ยวบีบรัฐบาลอย่างหนัก ประชาชนจะต่อสู้กับฝ่ายปกครองรุนแรงขึ้น

อีกช่วงหนึ่ง จะเกิดการต่อสู้ที่ทวีความรุนแรงและหนักยิ่งขึ้น เมื่อดาวอาทิตย์ (๑) จรโคจรเข้าเรือนมรณะ (ราศีพิจิก) ระหว่างวันที่ 17 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 16 ธันวาคม 2566

ในช่วงปลายปี วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2566 ดาวราหู (๘) ย้ายออกจากการทับลัคนา (ลั) ดวงเมือง แต่ยังคงทิ้งดาวพฤหัสฯ (๕) ซึ่งเป็นกาลกิณีจรไว้อีกดวงหนึ่ง มีแนวโน้มว่าคนไทยจะอยู่อย่างไม่มีความสุขนัก รัฐบาลคงต้องอยู่อย่างระวังตัวต่อไปอีก จนกว่าดวงเมืองจะมีอายุย่าง 243 ปี หรือต้องผ่านพ้นวันที่ 21 เมษายน 2567 ไปแล้ว

สรุปว่า ดวงเมืองปี 2566 ประชาชนจะมีความทุกข์และวุ่นวายมากกว่าความสุข บิ๊กตู่น่าจะอยู่ได้แบบหืดขึ้นคอ รัฐบาลจะมีศัตรูมากขึ้น เหตุการณ์ทั่วไปจะวุ่นวายไม่แพ้ปี พ.ศ.2491และ พ.ศ.2492

พระสยามเทวาธิราชคงปวดเศียรเวียนเกล้าน่าดูทีเดียวละครับ