เมื่อเห็นการไลฟ์”งานคราฟท์”จากอาจสามารถ ร้อยเอ็ด พร้อมกับภาพของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายพริษฐ วัชรสินธุ โอภา ปราศรัยกับ นส.พรรณิการ์ วานิช

บรรดา”อ-แฟนานุแฟน”ที่แฝงตัวอยู่ทั่วประเทศจะประเมินบทบาทของคณะก้าวหน้า พรรคก้าวไกล อย่างไร

เพราะ”งานคราฟท์”นี้เน้นอย่างหนักแน่น จริงจังไปยังอาจสา มารถ ร้อยเอ็ด หลังการไม่สามารถผลักดันร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ”ปลดปล่อยท้องถิ่น”ไปสู่เส้นชัยได้

แทนที่จะเห็นความท้อแท้หมดพลังจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แทนที่จะเห็นความท้อแท้หมดพลังจาก นายพริษฐ วัชรสินธิ ตรงกันข้าม กลับเดินหน้าด้วยความมุ่งมั่น

อย่าได้แปลกใจหาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะถือว่าเรื่อง”ปลดปล่อยท้องถิ่น”มาเป็นเนื้อหาสำคัญหาเสียงในการเลือกตั้ง

อย่าได้แปลกใจหากคณะก้าวหน้าจะไม่เพียงแต่ปักธงใน

เทศบาลตำบลอาจสามารถ หากแต่ยังพยายามขยายผลออกไปอย่างต่อเนื่อง

เหมือนที่กำลังทำที่”ปงผาง” เหมือนที่กำลังทำที่”เข็กน้อย”

 

มองจากจุดเริ่มต้นของปงผาง มองจากจุดเริ่มต้นของเข็กน้อย มองจากจุดเริ่มต้นของอาจสามารถ ต้องยอมรับว่าเป็นจุดเล็กเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับระดับอำเภอ ระดับจังหวัด

ในสายตาของ”เกจิ”ทางการเมืองอาจเห็นเป็นความพยายามที่สูญเปล่า

เพราะในที่สุดแล้ว “บ้านใหญ่”ต่างหากที่มากด้วยพลานุภาพ

กระนั้น เมื่อมองจากที่พรรคอนาคตใหม่เริ่ม”ปักธง”ในทางความคิดและสร้างปรากฏการณ์ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 นี่คือการเริ่มต้นอีกครั้งอย่างรัดกุม

หากไม่มีการวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่โอกาสของคณะก้าวหน้าคงไม่บังเกิด หากคณะก้าวหน้าไม่เข้าสู่สนามการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นไฉนจะมีอาจสามารถ ปงผางเข็กน้อย

นี่คือการเริ่มต้นจาก”หมู่บ้าน” เริ่มจากปริมาณไปสู่คุณภาพ

 

ไม่ว่าจะมองจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่าจะมองจาก นายปิยบุตร แสงกนกกุล ไม่ว่าจะมองจาก นส.พรรณิการ์ วานิช พวกเขาเพิ่ง 30 ตอนปลายและ 40 ตอนต้น

การถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปีจากปี 2563 สั้นอย่างยิ่ง

เพราะพลันที่ปฏิทินเดือนกุมภาพันธ์ 2573 เดินทางมาถึงนั่นก็คือความเป็นไปได้อย่างเต็มเปี่ยมที่จะเข้าสู่สนามการเลือกตั้งอีก

      เป็นความเต็มเปี่ยมจากการสะสมความจัดเจนมาอย่างเต็มที่