‘ช้างศึก’ล่าแชมป์อาเซียนสมัย 7 ภารกิจเพื่อศักดิ์ศรีลูกหนังไทย

จบฟุตบอลโลก 2022 วันที่ 18 ธันวาคม แฟนบอลชาวไทยอย่าลืมว่า มีภารกิจเชียร์ทีมฟุตบอลไทย ฉายา “ช้างศึก” ป้องกันแชมป์ลูกหนังของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) กันต่อทันที

มหกรรมลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เราคุ้นเคยในระยะหลังคือ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ” แต่ครั้งนี้เปลี่ยนชื่อเป็น “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเลคทริค คัพ 2022” กำหนดฟาดแข้งกันระหว่างวันที่ 20 ธันวาคม 2565-16 มกราคม 2566 ซึ่งไม่ใช่ช่วงปฏิทินฟีฟ่าเดย์

ทัพนักเตะ “ช้างศึก” ภายใต้การนำของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ และกุนซือใหญ่อย่าง มาโน่ โพลกิ้ง ต้องแบกศักดิ์ศรีเข้าร่วมโม่แข้งในฐานะแชมป์เก่า

สำหรับรูปแบบการแข่งขันจะกลับไปใช้ระบบเดิม คือ ระบบเหย้า-เยือน, ไม่มีชาติเจ้าภาพ โดยรอบแรกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 5 ทีม แต่ละทีมจะต้องเล่นเป็นทีมเยือน 2 นัด และทีมเหย้า 2 นัด ขณะที่รอบรองชนะเลิศกับรอบชิงชนะเลิศ จะเตะแบบเหย้า-เยือน รอบละ 2 นัด

ผลการจับสลากแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 5 ทีม มีดังนี้ กลุ่มเอ ประกอบด้วย ไทย (แชมป์เก่า), ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, บรูไน / กลุ่มบี ประกอบด้วย เวียดนาม, มาเลเซีย, สิงคโปร์, เมียนมา, ลาว

 

สําหรับศึกลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของภูมิภาคอาเซียน จัดขึ้นมาแล้วทั้งหมด 13 ครั้ง ทีมชาติไทย คว้าแชมป์ได้มากที่สุด 6 สมัย (ปี 1996, ปี 2000, ปี 2002, ปี 2014, ปี 2016, ปี 2020) รองลงมาเป็นทีมชาติสิงคโปร์ 4 สมัย (ปี 1998, ปี 2004, ปี 2007, ปี 2012) ส่วนทีมชาติเวียดนาม 2 สมัย (ปี 2008, ปี 2018) และทีมชาติมาเลเซีย 1 สมัย (ปี 2010)

ดูผิวเผินทีมชาติไทยอาจถูกยกให้เป็น “ทีมเต็ง” ที่จะคว้าแชมป์ เช่นเดียวกับ “ทัพดาวทอง” เวียดนาม กระดูดชิ้นโตของทัพ “ช้างศึก”

แต่ย้ำว่า อย่าประมาทเด็ดขาดเพราะฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนไม่เคยง่ายสำหรับทุกชาติ เพราะต้องเจอแรงกดดันมหาศาลจากแฟนบอลของตัวเอง โดยเฉพาะทีม “ช้างศึก” ย่อมถูกคาดหวังจากแฟนบอลไทยมากเป็นพิเศษ

มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือทัพ “ช้างศึก” เลือก 24 แข้งชุดลุยศึก “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเลคทริค คัพ 2022” ออกมาแล้ว

ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก (บีจี ปทุม), กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (ราชบุรี), สรานนท์ อนุอินทร์ (เชียงราย) / กองหลัง ธีราทร บุญมาทัน (บุรีรัมย์), ศศลักษณ์ ไหประโคน (บุรีรัมย์), พรรษา เหมวิบูลย์ (บุรีรัมย์), กฤษดา กาแมน (ชลบุรี), เฉลิมศักดิ์ อักขี (โปลิศ เทโร), ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (การท่าเรือ), จักพัน ไพรสุวรรณ (บีจี ปทุม), ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ (ชลบุรี)

กองกลาง สุมัญญา ปุริสาย (ชลบุรี), บดินทร์ ผาลา (การท่าเรือ), เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (เมืองทอง), สารัช อยู่เย็น (บีจี ปทุม), ศิวกรณ์ เตียตระกูล (เชียงราย), พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (บุรีรัมย์), ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว (ชลบุรี), วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (เมืองทอง), เอกนิษฐ์ ปัญญา (เมืองทอง), สรรวัชญ์ เดชมิตร (เคดาห์ ดารุล อามัน) / กองหน้า ธีรศิลป์ แดงดา (บีจี ปทุม), อดิศักดิ์ ไกรษร (เมืองทอง), ปรเมศย์ อาจวิไล (เมืองทอง)

ปัจจุบันนักเตะ “ช้างศึก” ชุดดังกล่าวเข้าแคมป์เก็บตัวที่โรงแรม โนโวเทล รังสิต และทำการฝึกซ้อมที่สนามซ้อมของสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา

รวมคราวนี้นักเตะชุดนี้มีเวลาเก็บตัวร่วมกัน 14 วัน และจะมีโปรแกรมอุ่นเครื่อง 2 นัด พบกับเมียนมา วันที่ 11 ธันวาคม และพบกับไต้หวัน วันที่ 14 ธันวาคม เวลา 20.30 น. ทั้งสองนัด ฟาดแข้งกันที่ธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม ซึ่งเป็นสังเวียนเหย้าของทีม “ช้างศึก” ในศึก “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเลคทริค คัพ 2022” ด้วย

จะเห็นได้ว่าทัพนักเตะ “ช้างศึก” ชุดนี้ไม่มีชื่อของ “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ มิดฟิลด์จากทีมคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ร่วมทัพเนื่องจากไม่ใช่ปฏิทินฟีฟ่าเดย์ และเป็นช่วงการเตรียมทีมฤดูกาลใหม่ของต้นสังกัดในศึกเจลีก ประเทศญี่ปุ่น

 

ขณะที่โปรแกรมฟาดแข้งรอบแรกของทีม “ช้างศึก” ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2022 ทีมชาติไทย อยู่ในกลุ่ม เอ ร่วมกับ ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, กัมพูชา และบรูไน มีดังนี้ วันที่ 20 ธันวาคม 2565 บรูไน พบ ไทย ที่ประเทศมาเลเซีย / นัดที่สอง วันที่ 26 ธันวาคม ไทย พบ ฟิลิปปินส์ ที่ธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม / นัดที่สาม วันที่ 29 ธันวาคม อินโดนีเซีย พบ ไทย ที่สนามกีฬาหลักเกอโลราบุงการ์โน กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย / นัดที่สี่ วันที่ 2 มกราคม 2566 ไทย พบ กัมพูชา ที่ธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม

หากเจาะลึกไปที่ 24 ขุนพลนักเตะ “ช้างศึก” พบว่า มีอายุ 30 ขึ้นไปถึง 10 คน ได้แก่ สุมัญญา ปุริสาย (36 ปี), ธีรศิลป์ แดงดา (34 ปี), กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก (33 ปี), สรรวัชญ์ เดชมิตร (33 ปี), ธีราทร บุญมาทัน (32 ปี), พรรษา เหมวิบูลย์ (32 ปี), อดิศักดิ์ ไกรษร (31 ปี), กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (30 ปี), สารัช อยู่เย็น (30 ปี), พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (30 ปี)

อายุ 25-29 มี 9 คน สรานนท์ อนุอินทร์ (28 ปี), ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (29 ปี), เฉลิมศักดิ์ อักขี (28), จักพัน ไพรสุวรรณ (28 ปี), ศิวกรณ์ เตียตระกูล (28 ปี), บดินทร์ ผาลา (27 ปี), ศศลักษณ์ ไหประโคน (26 ปี), วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (26 ปี), เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (25 ปี)

อายุ 20-24 ปี มี 5 คน ปรเมศย์ อาจวิไล (24 ปี), กฤษดา กาแมน (23), เอกนิษฐ์ ปัญญา (23 ปี), ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว (21 ปี), ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ (20 ปี)

มาโน่ โพกิ้ง กุนซือ “ช้างศึก” มักเลือกใช้ระบบ 4-2-3-1 เป็นส่วนใหญ่ทั้งการลุยศึกเอเอฟเอฟ คัพ ในครั้งก่อน รวมถึงการทำศึกเอเชี่ยน คัพ รอบคัดเลือก เมื่อเดือนมิถุนายน และศึกคิงส์ คัพ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

การเตรียมทีม 14 วันของของเราถือว่าสมบูรณ์แบบ มาตรฐานฝีเท้าของนักเตะไทยก็ยังดูดีกว่าทุกชาติ ดังนั้น โอกาสที่ทัพ “ช้างศึก” จะป้องกันแชมป์พร้อมกับประกาศศักดาครองเจ้าอาเซียนสมัยที่ 7 จึงเปิดกว้าง

ถึงเวลา “ช้างศึก” ได้โชว์กับภารกิจใหญ่ระดับภูมิภาคอีกครั้ง…เราชาวไทยไม่เชียร์กันได้อย่างไร… •

 

เขย่าสนาม | เงาปีศาจ