Best Digital Sources & Wireless Devices

Best Digital Sources & Wireless Devices

 

มาว่ากันต่อถึง What Hi-Fi? Awards 2022

เริ่มเที่ยวนี้ด้วยสาขา Best CD Players ซึ่งมีสองรางวัล และก็เป็นหน้าเดิมทั้งคู่ที่กลับมาอีกครั้ง

โดยรางวัลแรกสำหรับกลุ่มเครื่องเล่นที่มีราคาต่ำกว่า 1,000 ปอนด์ ได้แก่ Marantz CD6007 เครื่องเล่นซีดีที่ใครก็สามารถเป็นเจ้าของได้รุ่นนี้ ที่แม้จะแลดูเหมือนเครื่องรุ่นเก่า ทั้งยังบอกว่ามีการปรับปรุงจากรุ่นก่อนเพียงเล็กน้อย แต่มันเป็นเครื่องที่นำมาซึ่งคุณภาพที่เปี่ยมไปด้วยนัยยะอย่างมาก และให้ออกมาน่าทึ่งยิ่งขึ้นไปอีก นำเสนอเสียงดนตรีที่ให้ทั้งอรรถรสและความสุนทรีย์ มีรายละเอียดอันน่าประทับใจ

จนได้รับคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ในการลงมติให้เป็นเจ้าของรางวัล Product of the Year ในสาขานี้ด้วย

อีกรางวัลเป็นของเครื่องในกลุ่มราคาสูงกว่า 1,000 ปอนด์ ได้แก่ Cyrus CDi เครื่องที่ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของกลุ่มพรีเมียม ที่แม้ว่าภาพรวมของมันจะไม่มีอะไรน่าแปลกใจ แต่สิ่งที่มันให้ออกมานับเป็นความเหนือชั้นขึ้นไปอีกระดับในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไดนามิก รายละเอียดของเสียง ตลอดจนจังหวะจะโคนของท่วงทำนอง ที่ล้วนนำเสนอออกมาให้สัมผัสได้ด้วยความบันเทิงที่เปี่ยมไปด้วยความสุนทรีย์อย่างแท้จริง

รางวัลในสาขาต่อมา คือ Best Blu-ray Players ปีที่ผ่านมามีเครื่องได้รับรางวัลในสาขานี้สองเครื่อง แต่ปีนี้มีเพียงเครื่องเดียวซึ่งอยู่ในกลุ่ม 4K Blu-ray Player และที่เป็น The Best คือ Panasonic DP-UB820EB เป็นเครื่องที่ว่าน่าทึ่งมากแล้วเมื่อเห็นคุณสมบัติ และรายละเอียดต่างๆ ที่บอกเอาไว้ในแผ่นกระดาษ และเมื่อนำมาใช้งานจริงพบว่ามันสามารถให้ประสิทธิภาพออกมาด้วยความบันเทิงทั้งทางด้านภาพและเสียง อันมากมายชนิดที่เกินคาดจากที่เห็นในแผ่นกระดาษเอามากๆ โดดเด่นด้วยภาพ HDR ที่มีชีวิตชีวา และมีความสมจริงสูง มีสมดุลสีที่ยอดเยี่ยม และให้น้ำเสียงที่ทรงพลัง

จึงเมื่อมีเครื่องเดียวที่ได้รางวัล ก็เอาตำแหน่ง Product of the Year ในสาขานี้ไปครองด้วยเลยละกัน

 

รางวัลในสาขาต่อมา คือ Best Music Streamers เครื่องแรกที่ได้รางวัลอยู่ในกลุ่มราคาต่ำกว่า 750 ปอนด์ ได้แก่ Bluesound Node เครื่องสตรีมเพลงราคาประยัดที่ทรงพลานุภาพมาก เป็นเครื่องเวอร์ชั่นล่าสุด (2021) ของเจเนอเรชั่นที่สาม ที่ยากมีคู่แข่งรายใดในตลาดกลุ่มนี้จะเอาชนะมันได้ คู่ควรอย่างยิ่งในการเพิ่มเข้าไปในเครือข่ายเพื่อความบันเทิงของระบบ Hi-Fi ให้จังหวะจะโคนที่น่าฟัง โดดเด่นด้านไดนามิก และให้เชื่อมต่อได้อย่างกว้างขวาง

ทั้งยังได้รับการยกย่องให้เป็น Product of the Year ในสาขานี้อีกตำแหน่งหนึ่งด้วย

สำหรับเครื่องในกลุ่มราคา 750-1,000 ปอนด์ ที่ได้รางวัล คือ Cambridge Audio CXN (V2) ซึ่งยังคงความเป็นเครื่องสตรีมเพลงที่ดีที่สุดในระดับราคานี้ และดียิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเทียบกับต้นแบบที่ว่าดีมากแล้ว ให้คุณภาพเสียงที่มีความยอดเยี่ยมมาก มีงานออกแบบที่ซับซ้อน ลึกซึ้ง น่าสนใจ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายได้หลายหลาก และเป็นหนึ่งในไม่กี่เครื่องที่เราสามารถให้คะแนนเต็มได้ ทั้งในแง่ของคุณภาพเสียง คุณสมบติที่ผนวกเข้ามาในเครื่อง ตลอดจนในแง่ของงานฝีมือ

สำหรับกลุ่มราคา 1,000-1,500 ปอนด์ ผู้ชนะคือ Arcam ST-60 แม้จะเป็นสตรีมเมอร์เครื่องแรกของค่าย แต่ก็ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเครื่องเล่นประเภทนี้อย่างน่าทึ่ง เป็นเครื่องที่ทรงประสิทธิภาพมาก ให้การทำงานที่มีความเสถียรสูง การสตรีมมั่นคงมาก ให้น้ำเสียงที่คมชัด มีความกระจ่างใส และเปิดโปร่ง ให้เนื้อเสียงออกมาได้อิ่ม เต็ม พรั่งพร้อมไปด้วยรายละเอียดอันน่าฟัง ทั้งยังโดดเด่นมากด้านไดนามิก

ส่วนกลุ่มราคา 1,500 ปอนด์ขึ้นไป ได้แก่ Naim ND5 XS 2 เครื่องเล่นเพลงระบบเครือข่ายที่หน้าตาแลดูเรียบง่าย แต่ภายในสุดล้ำยิ่ง เป็นเครื่องที่เหนือชั้นทั้งด้วยลูกเล่นและในแง่ของสุนทรียะ อุดมไปด้วยรายละเอียดและพาเข้าถึงดนตรีได้อย่างลึกล้ำ ให้น้ำเสียงที่ตรงประเด็นแบบตรงไปตรงมา อัดแน่นด้วยคุณสมบัติต่างๆ มากมาย และให้เชื่อมต่อได้หลายหลากมาก

น่าเสียดายอยู่หน่อยเมื่อเทียบกับเครื่องส่วนใหญ่ในกลุ่มเดียวกัน ก็ตรงที่ไม่มีจอแสดงผลให้มาด้วยเท่านั้นเอง

 

รางวัลในสาขาต่อมา คือ Best DACs (Digital-to-Analogue Converter) เครื่องแรกที่ได้รางวัลในกลุ่มราคาต่ำกว่า 200 ปอนด์ ได้แก่ iFi Zen DAC V2 เครื่องราคาประหยัดที่ยังทำหน้าที่เป็นเฮดโฟน แอมป์ ได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ให้น้ำเสียงอันกระจ่างใส ชัดเจน และเข้าถึงเสียงดนตรีอย่างลึกซึ้ง ให้ไดนามิคออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถเลือกเอาต์พุตได้หลากหลาย รองรับไฟล์ความละเอียดสูงทั้ง PCM 384kHz, DSD256 และ MQA เสียดายตรงไม่มีเมน อะแด็พเตอร์ ให้มาด้วย

รางวัลเครื่องในกลุ่ม 200-300 ปอนด์ ได้แก่ AudioQuest DragonFly Cobalt เป็น USB-DAC ขนาดกะทัดรัด (แบบพกพา) ที่ยากมีใครเอาชนะมันได้ และยอดเยี่ยมมากกับระดับราคานี้ รองรับความละเอียดไฟล์เสียงสูงถึงระดับ 24-bit/96kHz พร้อมรองรับไฟล์ MQA นำเสนอน้ำเสียงที่สะอาดและมีความแม่นยำสูง ให้จังหวะเวลาที่เที่ยงตรง ไดนามิกยอดเยี่ยม มีจุดอ่อนอยู่บ้างก็ตรงอะแด็พเตอร์ที่ให้มา

สำหรับเครื่องในกลุ่ม 300-500 ปอนด์ ที่ได้รางวัลคือ Chord Mojo 2 ซึ่งได้ยกระดับเครื่องในกลุ่มราคานี้ให้เหนือชั้นขึ้นไปอีกระดับ และเป็นเสมือนตัวเปลี่ยนเกมของผู้เล่นในกลุ่มเครื่องพกพาอย่างแท้จริง ให้น้ำเสียงที่โปร่งใสเหนือเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งยังเป็นเสียงดนตรีที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา เป็นน้ำเสียงที่เปิดเผย ที่สำคัญคือสามารถนำน้ำเสียงอันยอดเยี่ยมนี้ไปได้ทุกหนแห่ง ทั้งยังมีอุปกรณ์ประกอบให้เลือกเพิ่มประสิทธิภาพได้อีกมากมาย

ซึ่งกับความโดดเด่นทั้งมวล รวมไปถึงการให้นำไปใช้งานในที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวก ทำให้ได้รับการยกย่องให้เป็น Product of the Year ของเครื่องในสาขานี้ด้วย

ส่วนเครื่องในกลุ่มราคา 500-1,500 ปอนด์ ที่ได้รับรางวัลก็มาจากค่ายเดียวกัน คือ Chord Qutest ที่ยังคงความยอดเยี่ยมอย่างหนักแน่น และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเครื่องระดับราคานี้อีกครั้ง นำเสนอน้ำเสียงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม จากการทำงานอันทรงประสิทธิภาพ เป็นน้ำเสียงที่ชัดเจน กระจ่างใส ถ่ายทอดออกมาอย่างถูกต้อง แม่นยำ และด้วยท่วงทำนองของจังหวะดนตรีที่ยอดเยี่ยมมาก แม้จะเป็นเครื่องขนาดเล็ก กะทัดรัด แต่อัดแน่นด้วยนานาคุณสมบัติอย่างครบครัน

เครื่องสุดท้ายที่ได้รางวัลอยู่ในกลุ่มราคาสูงกว่า 1,500 ปอนด์ ยังมาจากค่ายคอร์ดอีก คือ Chord Hugo 2 ซึ่งยังคงเป็นเรื่องยากมากๆ ที่ใครจะเอาชนะมันได้ ด้วยมันได้พิสูจน์แล้วจากการทำงานที่คุ้มค่ามาก เมื่อแลกกับค่าตัวอันมหาศาล (1,800 ปอนด์) นอกเหนือไปจากโครงสร้างงานฝีมืออันยอดเยี่ยม และมาพร้อมระบบควบคุมที่แปลกใหม่ ซึ่งกอปรไปด้วยปุ่มสีสันอันหลากหลาย เพื่อช่วยให้การใช้งานไม่ผิดพลาดแล้ว มันยังให้น้ำเสียงที่เปี่ยมได้ด้วยรายละเอียดต่างๆ อย่างน่ามหัศจรรย์

ทั้งยังเป็นน้ำเสียงที่มีความลื่นไหลและเชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่อง ยอดเยี่ยมมากทางด้านไดนามิก ซึ่งก็คือเครื่องที่เห็นในภาพนั่นแหละครับ

เที่ยวหน้ามาว่ากันต่ออีกนะครับ •

 

เครื่องเสียง | พิพัฒน์ คคะนาท

[email protected]