ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 2 - 8 ธันวาคม 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | คลุกวงใน |
ผู้เขียน | พิศณุ นิลกลัด |
เผยแพร่ |
คลุกวงใน | พิศณุ นิลกลัด
Facebook : @Pitsanuofficial
ฟุตบอลโลกกับการร้องเพลงชาติก่อนแข่ง
ฟุตบอลโลก 2022 เริ่มแล้ว…
จากการวิเคราะห์สถิติ ข้อมูลของสถาบันอลัน ทัวร์ริ่ง (Alan Turing Instiute) ประเทศอังกฤษ ทำนายว่า ทีมชาติบราซิลมีโอกาสสูงสุดที่จะได้ครองแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
รองลงมาคือ เบลเยียม อาร์เจนตินา ฝรั่งเศส อังกฤษ สเปน และเนเธอร์แลนด์ ตามลำดับ
โดยวิเคราะห์จากสถิติของผลงานที่ผ่านมาของทีมที่เข้าแข่งขันฟุตบอลโลก 2022
นอกจากนี้ เคยมีการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน European Journal of Sport Science บอกว่า เราอาจทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลในแต่ละคู่ได้โดยสังเกตจากนักฟุตบอลในช่วงที่ยืนร้องเพลงชาติก่อนเริ่มแข่งขัน
งานศึกษาชิ้นนี้ทำการวิเคราะห์นักฟุตบอลในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส
โดยศึกษาว่าแต่ละทีมมีความจริงจังและแสดงอารมณ์ร่วมออกมามากแค่ไหนในการร้องเพลงชาติก่อนเริ่มการแข่งขัน ทั้งการแสดงสีหน้า พลังในการร้อง และภาษากายที่ส่งไปยังเพื่อนร่วมทีม เช่น ยืนกอดคอใกล้ชิดอย่างเหนียวแน่นเป็นหนึ่งเดียวกัน หรือแค่สัมผัสตัวพอเป็นพิธี แล้ววิเคราะห์ว่าอารมณ์ร่วมระหว่างร้องเพลงชาติส่งผลอย่างไรกับการแข่งขัน
ผลการศึกษาพบว่า ระดับความรักชาติที่แสดงออกมาระหว่างการร้องเพลงชาติของนักฟุตบอลในทีมคือตัวชี้วัดว่าทีมนั้นจะทำผลงานได้ดีหรือไม่ในการแข่งขันวันนั้น
โดยทีมที่นักฟุตบอลแสดงพลังความรักชาติและเพื่อนร่วมทีมออกมาอย่างเต็มที่จะช่วยลดโอกาสที่ทีมจะเสียประตูให้คู่แข่ง แต่ไม่ได้ช่วยให้ยิงประตูได้เยอะขึ้น
ที่สำคัญคือ ในรอบน็อกเอาต์ ทีมที่จริงจังกับการร้องเพลงชาติ มีโอกาสสูงที่จะเป็นผู้ชนะเกมนัดนั้น
ในฟุตบอลยูโร 2016 ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์และทีมชาติสเปน เป็นสองทีมที่แสดงพลังความรักชาติออกมาน้อยที่สุดเวลายืนแถวร้องเพลงชาติก่อนแข่ง ทั้งสองทีมจึงไปได้ไกลสุดแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ทีมชาติเวลส์และทีมชาติอิตาลีเป็นสองทีมที่แสดงพลังออกมามากที่สุดในช่วงร้องเพลงชาติก่อนเกม
ทีมชาติอิตาลีสามารถเข้าไปได้ถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายก่อนจะแพ้จุดโทษเยอรมนี ส่วนทีมชาติเวลส์แพ้ทีมชาติโปรตุเกสในรอบรองชนะเลิศ
ทีมชาติโปรตุเกสซึ่งชนะเจ้าภาพฝรั่งเศสในรอบชิงชนะเลิศและได้แชมป์ยูโรเป็นสมัยแรก เป็นทีมที่แสดงพลังความรักชาติและมุ่งมั่นออกมาชัดเจนในช่วงร้องเพลงชาติก่อนการแข่งขันทุกเกม
การร้องเพลงของนักฟุตบอลในทีมชาติเป็นตัวบ่งบอกระดับความเป็นหนึ่งเดียวกันของทุกคนในทีม เป็นการประกาศกร้าวว่าพวกเราพร้อมจะต่อสู้เพื่อชาติ สร้างแรงกระตุ้นให้ทุกคนในทีมและข่มขวัญคู่แข่ง แบบเดียวกับที่ทีม All Blacks รักบี้ทีมชาตินิวซีแลนด์ใช้การเต้นฮาก้า (Haka) ข่มขวัญคู่แข่งก่อนเริ่มเกม
เมื่อฟุตบอลแข่งมาถึงรอบน็อกเอาต์ การเดิมพันก็สูงขึ้น นักฟุตบอลต้องเจอกับความเครียดในเกมและความคาดหวังจากทุกคนในชาติ
ดังนั้น นักฟุตบอลทุกคนในทีมต้องร่วมแรงร่วมใจกันแสดงความทุ่มเทและจิตใจที่แข็งแกร่งเพื่อพาทีมไปให้ไกลที่สุด การร้องเพลงชาติก่อนเกมจึงช่วยสร้างพลังความฮึกเหิมให้นักฟุตบอลได้
เมื่อเป็นแบบนี้หลายคนจึงเกิดความคิดว่า อย่างนั้นก็ให้โค้ชสั่งนักฟุตบอลทุกคนในทีมช่วยกันร้องเพลงชาติอย่างเต็มเสียงซะเลยสิ เพื่อจะได้เพิ่มโอกาสในการชนะคู่แข่ง
ทีมชาติอังกฤษยุครอย ฮอดจ์สัน (Roy Hodgson) เคยสั่งให้ลูกทีมทุกคนร้องเพลงชาติอย่างเต็มเสียงสมัยที่แข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล เพื่อแสดงความภาคภูมิใจที่ได้ติดทีมชาติอังกฤษ
ในทางทฤษฎี การสั่งให้นักฟุตบอลร้องเพลงชาติออกมาอย่างภาคภูมิใจก็อาจจะช่วยข่มขวัญคู่แข่งและสร้างกำลังใจได้ในระดับหนึ่ง
แต่ก็ต้องเข้าใจว่าจะมีเส้นกั้นบางๆ ระหว่างการร้องโดยหน้าที่กับการร้องออกมาจากใจของกลุ่มนักฟุตบอลที่รักชาติจริงๆ ซึ่งแน่นอนว่าผลที่ได้รับออกมาย่อมแตกต่างกัน
ทีมฟุตบอลที่ร้องเพลงชาติด้วยใจโดยไม่ต้องมีใครมาสั่ง ย่อมจะสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับเพื่อนๆ ในทีม และทำผลงานออกมาได้ดีกว่าทีมที่ต้องมีคนมาบอกให้ร้องเพลงชาติอย่างสุดเสียงเพื่อจะข่มขวัญคู่แข่งและเพิ่มโอกาสในการชนะ
ดูถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกคราวนี้ อย่าลืมสังเกตการร้องเพลงชาติก่อนแข่งของนักเตะนะครับ
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022