ขับเพลินๆ กับ ‘MG5’ คูเป้ซีดาน รางวัล ‘มติชน-ข่าวสด’ บอลโลก

สันติ จิรพรพนิต

แม้เปิดตัวอวดโฉมมานานกว่า 1 ปีแล้ว แต่ “เอ็มจี 5” (MG5) เก๋งคูเป้ซีดานยังได้รับความสนใจ และเห็นโฉบเฉี่ยวบนท้องถนนอยู่เนืองๆ

ส่วนหนึ่งเพราะรูปลักษณ์ภายนอก-ภายใน ที่ต้องบอกว่าสวยงามตามท้องเรื่อง แถมมีกลิ่นอายของรถยุโรปอยู่เบาๆ

อีกส่วนไม่พ้นการตั้งราคาที่ไม่หนีจากกลุ่มอีโคคาร์ ในขณะที่หากดูมิติตัวถังใหญ่เบิ้มพอๆ กับรถกลุ่มซี-เซ็กเมนต์

ขณะนี้คนที่กำลังเมียงๆ มองๆ รถรุ่นนี้ จังหวะดีมาแล้วอาจได้ไปขับฟรีๆ

เพราะเครือมติชน เปิดให้ร่วมสนุกส่งคูปอง “มติชน-ข่าวสด” บอลโลก 2022 ตัดได้จากหนังสือพิมพ์มติชน ข่าวสด และประชาชาติธุรกิจ ตลอดเทศกาลแข่งขันฟุตบอลโลก ส่งมาที่หนังสือพิมพ์ข่าวสด ภายในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ และจับรางวัลวันที่ 16 ธันวาคมนี้

ไม่เพียงลุ้นรถเก๋งเอ็มจี 5 เท่านั้น ยังมีรางวัลใหญ่อื่นๆ อีกเพียบ อาทิ ทองคำมูลค่า 1 แสน-1 ล้านบาท รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ฯลฯ รวมกว่า 2.5 ล้านบาท

แถมไม่ต้องทายผลใดๆ แค่เขียนว่าเชียร์ทีมไหนเท่านั้นก็ส่งคูปองมาร่วมสนุก โดยไม่จำกัดจำนวนได้แล้ว

ด้วยเก๋งเอ็มจี 5 มาเป็นหนึ่งในรางวัลร่วมสนุก ผมจึงติดต่อขอรับรถมาทดสอบอีกครา จากที่เคยขับในช่วงเปิดตัวใหม่ๆ กลางปีที่แล้ว ซึ่งปัจจุบันเป็นโมเดลเยียร์ 2022

ความแตกต่างภายนอก-ภายในมีไม่มากนัก

รุ่นที่ได้มาคือ “D+” เป็นรุ่นพิเศษเสริมเข้ามา เรียกง่ายๆ ว่าเป็นรุ่นรองท็อป มีสิ่งอำนวยความสะดวกน้อยกว่ารุ่นสูงสุดนิดเดียวเท่านั้น

ที่เลือกรุ่นนี้เพราะนี่คือของรางวัล “มติชน-ข่าวสด” บอลโลก 2022 นั่นเอง

เปิดประตูเข้าไปภายในพวงมาลัย 3 ก้านท้ายตัดแบบ Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) ปรับน้ำหนักได้ 3 ระดับพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น

เบาะหนังทรงสปอร์ตเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง นั่งได้กระชับลำตัวดีมาก

กดปุ่มสตาร์ตบริเวณใกล้ๆ เรือนไมล์แบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว

เสียงเครื่องยนต์คำรามไม่ดังนัก

ขุมพลังยังเป็นบล็อกเดิมเบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที

ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด

ภาพรวมออกแนวสปอร์ตจ๋าแผงคอนโซลแบบ 3 D Diamond Design ดูมีมิติมากขึ้น ดีไซน์คอนโซลกลางแบบ DRIVER-FOCUS COCKPIT

ตรงกลางเป็นหน้าจอ Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ตโฟนระบบ Android ลำโพง 6 จุด

หน้าจอตัวนี้รวบรวมฟังก์ชั่นการปรับต่างๆ ของรถยนต์ รวมไปถึงระบบแอร์

ที่ชอบไม่พ้นช่องแอร์ตรงกลางที่อยู่ต่ำลงมา ทำให้ตัดปัญหาเรื่องแอร์เป่ามือซ้าย

ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล หรือระบบกรองอากาศ PM 2.5

หัวเกียร์แบบสั้นดูสปอร์ต มีออโต้เบรกโฮล และเบรกมือไฟฟ้ามาให้ด้วย

หลังคา Sunroof

การออกตัวไม่ได้หวือหวานัก เรียกว่าไปได้เรื่อยๆ ความเร็วต้น-กลางมาค่อนข้างเร็ว

พวงมาลัยจับกระชับมือ สามารถปรับความหน่วงได้ 3 ระดับ คือ เบา มาตรฐาน และมั่นคง

2 โหมดแรกลองเล่นแล้วไม่ได้ต่างกันมากนัก แต่หากเป็นโหมดมั่นคงจะเพิ่มน้ำหนักขึ้นมาเล็กน้อย เหมาะกับการเดินทางไกลที่ต้องใช้ความเร็วสูง

ช่วงความเร็วปลายอาจต้องทำใจนิดหนึ่งเพราะขึ้นมาค่อนข้างช้า เช่นเดียวกับการคิกดาวน์เพื่อเร่งแซงในระยะกระชั้นชิด หรือต้องการเพิ่มกำลังอย่างรวดเร็ว ต้องกะระยะสักหน่อย

แต่เรื่องนี้ไม่ว่ากันเพราะเทียบเครื่องยนต์กับบอดี้รถ ที่ใหญ่เบิ้มระดับซี-เซ็กเมนต์

มิติตัวถังขนาดใหญ่ (กว้าง x ยาว x สูง) 1,842 x 4,675 x 1,480 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,680 มิลลิเมตร

ต้องบอกว่าบิ๊กกว่ารถในกลุ่มอีโคคาร์ และบี-เซ็กเมนต์ทั้งหมด

ช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION ด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัตพร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังทอร์ชั่นบีม เซ็ตมาออกแนวสปอร์ต ถ้าใครไม่ชอบอาจต้องปรับลมยาง

แต่หากมองถึงรูปร่างหน้าตาที่คงถูกใจวัยรุ่น ช่วงล่างลักษณะนี้ถือว่าตอบโจทย์เป้าหมายได้เหมาะสม

ช่วยเรื่องการเข้าโค้งและความเสถียรเวลากระชากเปลี่ยนเลนแรงๆ ได้ดี

ปุ่มปรับต่างๆ อยู่ในระยะเอื้อมถึง

ภายในดูกว้างขวางมีพื้นที่เหนือศีรษะมากพอสมควร

ส่วนด้านหลังที่ลาดลงตามสไตล์คูเป้ พลอยทำให้กระจกหลังแคบไปสักหน่อย

ทำให้การเปลี่ยนเลนระหว่างขับขี่บนถนนต้องเพิ่มความระมัดระวัง หรือให้กระจกมองข้างช่วยเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น

ส่วนการถอยไม่มีปัญหาเพราะมีกล้องมองหลังมาให้ด้วย

ความชอบอีกอย่างคือกล้องมองภาพรอบคัน ยิ่งเวลาเลี้ยวเข้าซอยแคบๆ จะส่งภาพด้านข้างมาให้ดูว่าจะขับเบียดไหล่ทางหรือไม่

ส่วนเวลาต้องเข้าไปผจญชะตากรรมช่วงเช้า-เย็นที่รถติดหนักๆ เดี๋ยวจอดเดี๋ยวไป แนะนำให้เปิดระบบควบคุมการไหลของรถ

เพราะเมื่อเหยียบเบรกจนรถหยุดนิ่งแล้ว ระบบจะล็อกรถเอาไว้ โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องเหยียบเบรก หรือเปลี่ยนเกียร์ พอจะเคลื่อนตัวแค่กดคันเร่งเท่านั้น

 

ส่วนรูปร่างหน้าตาแนะนำพอคร่าวๆ เพราะคงเห็นชินตาบนถนนอยู่แล้ว

กระจังหน้า 3 มิติ Digital Burning Grille เอกลักษณ์การออกแบบใหม่ล่าสุดของเอ็มจี เหนือโลโก้ติดกล้องด้านหน้า

ไฟหน้า LED Projector เปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน

ต่ำลงมาเป็นช่องดักลมช่วยในเรื่องแอร์โรว์ไดนามิก

เส้นสายฝากระโปรงหน้า และด้านข้างดูลื่นไหล มีเหลี่ยมมุมพลิ้วไหว

มองจากด้านข้างจะเห็นหลังคาด้านหลังลาดลงไปสไตล์คูเป้

รูปทรงไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์ Leopard Claw และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED

มีดิฟฟิวซอร์และท่อไอเสียทรงเหลี่ยม 2 ท่อ แต่เป็นท่อหลอก เพราะท่อไอเสียจริงๆ อยู่ใต้ท้องรถ

ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ลายใบพัด 5 ก้าน

เอ็มจี 5 “D+” ของรางวัล “มติชน-ข่าวสด” บอลโลก 2022 ราคา 679,000 บาท

ส่วนรุ่นย่อยอื่นๆ อีก 3 รุ่น ราคาอยู่ระหว่าง 585,000-709,000 บาท •

 

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]