คำสาปของเสรีภาพ | ประกวดกวีนิพนธ์มติชนอวอร์ด : นิตา มาศิริ

ประกวดกวีนิพนธ์มติชนอวอร์ด | นิตา มาศิริ

คำสาปของเสรีภาพ

 

แล้วคู่ปีกเปรียวลมประพรมทิศ ก็ไกวปีกศักดิ์สิทธิ์เข้าสู้แสง

มิระย่อต่อสายลมระดมแรง แม้สองตาก่ำแดงกลางแล้งร้อน

วิหคเอย…เจ้าฝันถึงสันติ มาผุดผลิเจตนา-อุทาหรณ์

เคยแลกด้วยชีวากลางนาคร เพียรสังวรทุกครั้งที่สังเวย

กว่าทางไทจะทอดตลอดย่าน สมรภูมิแดงฉานพล่านอกเผย

ปีกเสรีสีเลือดที่ล่วงเลย เหือดระเหยจากความเศร้าเจ้าหรือยัง?

คล้ายเมืองต้องคำสาปตราบชีวิต ในวงจรวิปริตแสนผิดหวัง

เสียงของผู้ยากไร้ปราศใครฟัง คำของผู้มั่งคั่งสิดังดี

กอดหนึ่งเสียงหนึ่งสิทธิ์อันบิดเบี้ยว รับเศษเสี้ยวสลึงทานผลาญภาษี

ยิ่งโกงกินสับปลับกลับมั่งมี ยิ่งกดขี่ยิ่งนิ่งน้อมยอมกัดฟัน

พายุใหญ่ตั้งเค้าในเงาหม่น วิหคเอ๋ย…ลมบนช่างน่าหวั่น

ปีกเสรีที่ทะยานมานานวัน ลมกระชั้นจะฉีกร่างร่วงกลางดิน

เมื่อบาดเจ็บแล้วไยใครจะสน ประชาชนมิต่างสัตว์ผู้พลัดถิ่น

แผกช่วงชั้นวรรณะ ระยะบิน ก็ตัดสินพิพากษาต่างค่าแล้ว

เราถูกสาปให้มีเสรีภาพ ศิโรราบค้อมคู้อยู่ปลายแถว

อิสระในหัวอกสะทกแวว ถูกบ่วงแร้วล่ามขังเข้ารั้งกาย

วิหคเอ๋ย…หากชีวิตมีสิทธิ์เลือก รสข้าวเปลือก หนอน แมลง กลางแสงสาย

รังแนบนอน ฟอนฟาง ก่อนวางวาย เจ้าคงตายตาหลับเมื่อดับลม

พลันเสียงอสุนีบาตก็ฟาดเปรี้ยง! แผ่นดินแยกแตกเป็นเสี่ยงเสียงคลื่นขรม

โอ…ใจเมืองรานร้าวผ่าวระบม สิ้นรู้สมรู้สึกสำนึกใด

เสรีธรรมล้ำค่า…แท้ตราบาป เมืองถูกสาปด้วยพิษสงผู้หลงใหล

อำนาจ ยศ เกียรติ ศักดิ์ศรี วิถีไท ก้าวออกไปไม่พ้นวังวนเดิม

มองท้องฟ้าข้างนอก…มองออกไป อีกนานไหมจะหลุดพ้นวังวนเดิม? •