กาละแมร์ พัชรศรี : ธ สถิตกลางใจเราตลอดไป…

1 ปีของการสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของชาวไทย ความเสียใจไม่ต้องพูดถึง ความอาลัยรักไม่ต้องเอ่ย เพราะมันท่วมท้นหัวใจคนไทยเหลือเกิน

ไม่มีสิ่งใดในโลกที่คงอยู่ตลอดไป เมื่อมีสิ่งใดเกิด สิ่งนั้นต้องดับ

นี่คือสิ่งที่เราต้องยอมรับสัจธรรมข้อนี้ให้ได้ ดังคำสอนสุดท้ายของพระพุทธเจ้าคือ “สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงทำหน้าที่ให้สำเร็จด้วยความไม่ประมาทเถิด”

ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาและตลอดไปนับจากนี้ เราจะดำรงชีวิตอย่างไรเมื่อไม่มีพระองค์ท่านแล้วต่างหาก

 

สําหรับฉันแล้ว ฉันลุกขึ้นมาเพื่อทำตามสิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำ ดู อ่าน ฟังพระราชดำรัสที่พระองค์ท่านทรงบอกและนำไปปฏิบัติ สิ่งเหล่านี้มันได้เยียวยาหัวใจเราให้มีพลังอีกครั้ง ให้แข็งแรง ให้เราได้มีสิ่งยึดเหนี่ยวและให้เรามีเป้าหมายในการดำรงชีวิตอยู่

วันใดที่เห็นพระบรมฉายาลักษณ์หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ตั้งหรือติดไว้ที่ใด ฉันจะยกมือไหว้ ตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้พระองค์ท่านทรงเป็นกำลังใจให้เราทำสิ่งดีๆ ทั้งต่อตนเองและประเทศให้สำเร็จ ขอพระองค์ทรงคุ้มครองลูกด้วย มองพระพักตร์ท่าน สบพระเนตรท่าน พลังอันมหัศจรรย์ก็แผ่ซ่านไปทั้งร่างกายค่ะ

วันใดท้อแท้ กำลังใจลด ฉันจะเปิดดูพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน รู้ไหมคะ เราได้ไอเดียหลายอย่างจากสิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำเสมอ บางเรื่องแค่เส้นผมบังภูเขาเท่านั้น

เพราะเมื่อเราได้เห็นพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน เมื่อมองมาที่ตัวเราและรอบตัว เราจะรู้เลยว่า ไม่มีใครที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างหนักหน่วงได้ขนาดนี้ เวลาที่เราเจอความลำบาก มองไปที่พระองค์ท่าน เรารู้เลยว่าความลำบากของเราไม่เท่าเสี้ยวของพระองค์ท่าน เราจงอย่าบ่น อย่าเหยาะแหยะ อย่ายอมแพ้อะไรง่ายๆ และอย่าบ่นบ้าบอ เลิกบ่นและลงมือทำให้บังเกิดผล

เวลาเจออุปสรรคในงาน เจอเสียงบ่นด่าว่ากล่าว เราจะมองข้ามมันไป แล้วลงมือทำๆๆ งานของเราให้สำเร็จ เหมือนที่พระองค์ทรงทำให้ดูเป็นแบบอย่าง เวลาทำดีแล้วมีเสียงนั่นนี่ ก็ขอให้เรามุ่งมั่น อย่าสั่นไหว

คิดถึงประโยชน์ปลายทางที่คนอื่นจะได้ เราก็จะมีกำลังใจทำต่อไป

 

พระองค์ทรงบอกเราทุกอย่างแม้เรื่องออกกำลังกาย

“…ร่างกายของเรานั้น ธรรมชาติสร้างมาสำหรับให้ออกแรงใช้งาน มิใช่ให้อยู่เฉยๆ ถ้าใช้แรงให้พอเหมาะพอดีโดยสม่ำเสมอ ร่างกายก็เจริญแข็งแรง คล่องแคล่ว และคงทนยั่งยืน ถ้าไม่ใช้แรงเลย หรือใช้ไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะเจริญแข็งแรงอยู่ไม่ได้ แต่จะค่อยๆ เสื่อมไปเป็นลำดับ และหมดสมรรถภาพไปก่อนเวลาอันสมควร ดังนั้น ผู้ที่ปรกติทำการงานโดยไม่ได้ใช้กำลัง หรือใช้กำลังแต่น้อย จึงจำเป็นต้องหาเวลาออกกำลังกายให้พอเพียงกับความต้องการตามธรรมชาติเสมอทุกวัน มิฉะนั้น จะเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ที่เขาจะใช้สติปัญญาความสามารถของเขาทำประโยชน์ให้แก่ตนเองและแก่ส่วนรวมได้น้อยเกินไปเพราะร่างกายอันกลับกลายอ่อนแอลงนั้น จะไม่อำนวยโอกาสให้ทำการงานโดยมีประสิทธิภาพได้”

อ่านทีไรมีแรงฮึดไปออกกำลังกาย มีกำลังใจในการดูแลสุขภาพตัวเองขึ้นมาทันที เพราะนอกจากจะเป็นประโยชน์กับตัวเราแล้ว ยังส่งผลดีต่อผู้อื่นด้วย

สำหรับใครที่วันไหนตื่นมาแล้วไม่รู้จะทำอะไรดี งงๆ โหวงๆ หรือแม้กระทั่งเหงากับการอยู่คนเดียว ประโยคหนึ่งที่พระองค์ท่านตรัสไว้คือ “ทำอะไรก็ได้ที่เป็นประโยชน์”

จึงให้เราหันมามองย้อนดูตัวเองว่า “วันนี้เราทำอะไรให้เกิดประโยชน์แล้วหรือยัง”

และไว้คอยเตือนตัวเองเสมอว่า อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์เราจะไม่ทำ

เป็นประโยคยึดเหนี่ยวใจเราได้เป็นอย่างดี

 

สิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำให้ประเทศชาติและชาวไทยมีมากมายจนบรรยายไม่หมด ถ้าเราอยากตอบแทนพระองค์ท่านและทำให้พระองค์ท่านภูมิใจ หมดห่วง คือการสืบสาน ลงมือทำ เพราะยังมีงานอีกมากมาย ทำในแบบของเรา ทำสิ่งที่เราถนัด แต่ท่องไว้ว่า สิ่งนั้นต้องเป็นประโยชน์

คิดดูว่าถ้า 70 ล้านคนพร้อมทำประโยชน์ คนละไม้ละมือ ทำที่ที่เราอยู่นั่นแหละ ทำแบบที่เป็นเรา ทำแบบที่เราเก่ง พอเราคิดแต่จะทำสิ่งดี เราจะลืมการทำสิ่งชั่วและไม่สนใจที่จะทำมันเลย

ถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะทำอะไรดี เห็นใครทำดีก็เป็นกำลังใจให้เขา ชื่นชมเขา สนับสนุนเขา ให้เขามีกำลังกายกำลังใจทำต่อไป

พายเรือไม่เป็น ก็ยืนตะโกนเชียร์จากฝั่งก็ยังดี…