แห้งผากไปในโศกนาฏกรรมของเต่าตัวหนึ่ง | ประกวดกวีนิพนธ์มติชนอวอร์ด : เฟืองเขียว เกี้ยวบุหลัน

ประกวดกวีนิพนธ์มติชนอวอร์ด | เฟืองเขียว เกี้ยวบุหลัน

แห้งผากไปในโศกนาฏกรรมของเต่าตัวหนึ่ง

 

ฉันอยู่กับนิทานเรื่องเดิมในโลกที่คลื่นทะเลอยู่ไกลจากชายฝั่ง

จากขอบฟ้าสีทองสู่นกฝูงหนึ่งที่บินออกไปเพื่อหาน้ำสักหยด

ไม่เคยมีใครเห็นมันบินกลับมาจากฝันกลางวัน

ไม่ได้ยินแม้เสียงกระพือปีกสักครั้งเลยด้วยซ้ำ

ปรารถนาเดียวของความแล้งคือน้ำตาสีฟ้าบนเมฆสีดำ

แม้พวกเราอยากจะร้องไห้บ้างสักครั้งในนาฬิกาเรือนเก่า

แต่มันไม่มีความเศร้าสักหยดแม้กระทั่งในดวงตา

น่าขันเธอว่าไหม, ฉันกลั่นความเศร้าเป็นน้ำตาไม่ได้

อิสระของฉันถูกขังอยู่ในเมฆก้อนนั้น

ไม่มีฝนสักเม็ดในวันที่นกฝูงนั้นหายไปในขอบฟ้า

ฉันอยู่กับนิทานเรื่องเดิมในโลกที่คลื่นทะเลเป็นแค่ถ้อยรำพึง

หาดทรายโดนขโมยไปจากมือของดาวดวงหนึ่ง

และไม่มีใครล่วงรู้ถึงการสูญหาย, ขณะที่พวกเราตัวเล็กลงทุกขณะ

เต่ายังช้าเกินกว่าจะพบรอยเท้าที่จางไปของกระต่ายตัวนั้น

แดดเช้าจึงไม่เคยมีอยู่จริงและขอบฟ้าสีทองก็เป็นได้แค่คำลวง

ประดับไว้บนฟ้าท่ามอันธการก็เพียงถ้อยคำปลอบโยนก้อนหนึ่ง

ซึ่งเล็กกว่าฉันหรือใครจะทันภาวนาก่อนมันตกลงซ้ำซ้ำ

แล้วต่างก็พึงตระหนักว่าที่แท้เดินทางไกลคือการนั่งเก้าอี้โยก

มันไม่เคยไปไหนได้จริง, แค่ฝันที่หายไปในเสียงกระซิบของลมหอบหนึ่ง

กลายเป็นนิทานเรื่องหนึ่งในโลกของเหล่าผู้เขลา

ที่หลงเชื่อหัวปักหัวปำว่ายังมีแหล่งน้ำอยู่ที่ใดสักแห่ง

รวดเร็วเดียวของเต่าที่ยังคงพอหลงเหลืออยู่บ้าง

คือลมหายใจของมันที่หมดไปในระยะเวลาอันแสนสั้น

จึงไม่มีน้ำสักหยดแม้กระทั่งในดวงตาของมหาสมุทร

แห้งผากไปในโศกนาฏกรรมของเต่าตัวหนึ่งที่ไม่เคยเจอน้ำทะเล •