ไพ่ที่อยู่ในมือ พล.อ.ประยุทธ์ | สมชัย ศรีสุทธิยากร

สมชัย ศรีสุทธิยากร

นับถอยหลังสู่การเลือกตั้งอย่างเต็มที่แล้ว นักการเมืองเริ่มลงพื้นที่หาเสียงอย่างจริงจัง บ้างหาพรรคอยู่ใหม่ ส่วนใหญ่ไม่ใช่หาพรรคที่สอดคล้องกับอุดมการณ์ แต่เป็นพรรคที่คาดการณ์ว่าจะเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง หรือเพราะไม่สามารถอยู่ร่วมกับพรรคเดิมได้เนื่องจากมีเรื่องการเมืองภายในพรรคจนอยู่ไม่ได้

พรรคการเมืองเริ่มจัดขบวนทัพของตน เตรียมการในเรื่องนโยบายพรรค จัดเตรียมผู้สมัคร หาทางเสริมกระแสและกระสุนที่ใช้ในการเลือกตั้ง พรรคเล็กหาทางควบรวมพรรค พรรคกลางเริ่มแย่งชิงผู้สมัคร ส.ส.ซึ่งกันและกัน พรรคใหญ่เริ่มคิดคำนวณผลที่จะเกิดหลังการเลือกตั้ง บ้างคิดไกลไปถึงการตั้งรัฐบาลแล้ว

ท่ามกลางข่าวความเคลื่อนไหวทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผู้เป็นนายกรัฐมนตรีในปัจจุบันกลับเงียบสงบ หลังจากถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การนับอายุครบ 8 ปีของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2560

ซึ่งหมายความว่าเขายังสามารถร่วมแข่งขันเป็นตัวเลือกในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งทั่วไปได้อีกเพียงหนึ่งครั้ง และหากชนะจะสามารถดำรงตำแหน่งได้ถึงวันที่ 5 เมษายน พ.ศ.2568 เท่านั้น

ตราบใดที่ยังไม่ถึงวันเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ยังมีไพ่ในมืออีกหลายใบที่พร้อมเล่น และแน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งที่จะดูแคลนได้

อะไรคือไพ่ที่เหลือในมือของเขา สำหรับผู้ที่สามารถครองอำนาจต่อเนื่องนับแต่การรัฐประหาร 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557 ยาวนานกว่า 8 ปี การเงียบสงบย่อมหมายถึงการครุ่นคิดหาทางต่อสู้มิใช่ยอมจำนน

 

อำนาจการยุบสภาที่อยู่ในมือนายกรัฐมนตรี

แม้การยุบสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรา 103 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ แต่พระมหากษัตริย์จะทรงใช้พระราชอำนาจนั้นได้ต่อเมื่อนายกรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอเท่านั้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงถือแต้มต่อในทางการเมืองคือ เป็นผู้เดียวที่จะตัดสินใจว่าสมควรยุบสภาเมื่อใดเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง

ยิ่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 97(3) กำหนดเงื่อนไขคุณสมบัติการเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเรื่องการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่แตกต่างกันว่า ต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเดียวเป็นเวลาต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 90 วันนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่กรณียุบสภา ให้ลดระยะเวลาเหลือเพียง 30 วัน

เกมของการเดาใจนายกรัฐมนตรีว่าจะยุบสภาหรือไม่ยุบ จะยุบในจังหวะใด ที่ฝ่ายตนจะมีความได้เปรียบทางการเมืองสูงสุด

ยุบเร็วไปในขณะที่การเตรียมการของฝ่ายตนยังไม่เรียบร้อย มีแต่จะแพ้ศึก แต่หากยุบช้าในจังหวะที่คะแนนนิยมลดลงไปเรื่อย ๆ ก็อาจเป็นความเสียหายพ่ายแพ้ที่หนักกว่าเดิม

แต่การรู้อยู่ในใจผู้เดียวว่าจะยุบสภาเมื่อไร โดยให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถเตรียมการได้ ย่อมเป็นความได้เปรียบและสร้างความยากลำบากให้อีกฝ่ายหนึ่งโดยแท้ นี่คือไพ่ใบแรกของ พล.อ.ประยุทธ์

 

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในกรณีกฎหมายลูก

ร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ยังอยู่ในขั้นรอคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญอาจเป็นไพ่ใบที่สอง

เพราะหากคำวินิจฉัยของศาลกลับกลายว่าร่างกฎหมายดังกล่าว มีข้อความที่ขัดหรือแย้งในประเด็นที่เป็นสาระสำคัญร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวก็จะตกไปและเกิดภาวะที่จะเลือกตั้งแต่ไม่มีกฎหมายลูกที่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญใช้ในการจัดการเลือกตั้ง

การเสนอร่างกฎหมายใหม่เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาอาจจะติดขัดด้วยเงื่อนไขเวลาที่ใกล้เลือกตั้ง ดังนั้น คำตอบของเรื่องนี้จึงอาจจบลงที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้ออกพระราชกำหนดซึ่งมีฐานะศักดิ์ศรีเทียบเท่าพระราชบัญญัติเพื่อใช้ในการจัดการเลือกตั้ง โดยเนื้อหาสาระของพระราชกำหนดจะเป็นไปตามที่รัฐบาลต้องการโดยไม่ขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

การรังสรรค์กติกาใหม่เพื่อให้ฝ่ายตนมีความได้เปรียบจึงสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่ยาก

 

อำนาจต่อรองกับพรรคการเมือง

ผลการทำโพลคะแนนนิยมบุคคลที่ประชาชนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี อาจทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลายเป็นสินค้าที่ยังขายได้ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคใต้ ที่มีคะแนนนิยมสูงเป็นอันดับหนึ่ง ผลการสำรวจของนิด้าโพล เมื่อวันที่ 17-20 ตุลาคม พ.ศ.2565 ชี้ว่า เขาได้คะแนนนิยมร้อยละ 23.94 เหนือกว่าอันดับสองที่ได้คะแนนนิยม ร้อยละ 13.24

และพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ได้สำรวจในช่วงใกล้เคียงกัน คือระหว่างวันที่ 21-27 ตุลาคม พ.ศ.2565 พล.อ.ประยุทธ์ได้คะแนนนิยมเป็นอันดับสองอยู่ที่ร้อยละ 15.2 รองจากอันดับหนึ่งที่ได้คะแนนนิยมร้อยละ 20.4

การยังมีราคาค่างวดสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันนี้ จึงยังคงทำให้เขามีโอกาสต่อรองกับพรรคการเมือง โดยเฉพาะกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้พรรคเสนอชื่อเขาเป็นนายกรัฐมนตรีแต่เพียงชื่อเดียว เพราะไม่มั่นใจว่าหากถึงเวลาต้องลงมติในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาแล้วจะมีการเสนอชื่ออื่นเป็นนายกรัฐมนตรีแทนหรือไม่ เพราะถึงเวลานั้น การเลือกคนที่มีโอกาสอยู่ครบ 4 ปี ย่อมมีความหมายมากกว่าเลือกคนที่อยู่ได้แค่ 2 ปีแล้วต้องมาเลือกกันใหม่ในรอบที่ไม่มีสมาชิกวุฒิสภาชุดที่เขาแต่งตั้งมาร่วมให้ความเห็นชอบแล้ว

อำนาจต่อรองให้เป็นผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีแต่เพียงชื่อเดียว อาจเป็นสิ่งที่ได้ผลสำหรับพรรคการเมืองตั้งใหม่ เช่น พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคไทยภักดี เพราะพรรคเหล่านี้รู้ดีว่า หากได้ พล.อ.ประยุทธ์มา จะมีผู้คนรวมทั้งทรัพยากรต่างๆ ไหลตามเข้ามาอีกเป็นอันมาก แต่หากในจังหวะสุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์เหนื่อยเกินไปที่จะมารับผิดชอบนำพรรคของตนเอง พอใจที่จะยอมถอยเพื่อแบ่งปันผลประโยชน์แบบได้น้อยดีกว่าเสียหมด

พรรคทางเลือกเหล่านี้ก็จะถอยกลับไปอยู่ในภาวะเริ่มต้น เป็นพรรคการเมืองขนาดเล็ก หรือจิ๋ว ที่แทบไม่มี ส.ส.ในสภาเลยก็ได้

เมื่อวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังมีคะแนนนิยมในหมู่ประชาชน จึงยังคงสงวนท่าทีในการทิ้งไพ่สำคัญว่าจะอยู่กับพลังประชารัฐ เป็นหนึ่งในสองหรือสามรายชื่อผู้ถูกเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี หรือจะไปอยู่พรรคใหม่เพื่อเป็นชื่อเดียว

 

การยุบพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม
ในจังหวะที่สำคัญ

การยุบพรรคการเมืองโดยมติของคณะกรรมการการเลือกตั้งและส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัยและมีคำสั่งยุบพรรค ยังคงเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ในการเมืองไทย

ในอดีตที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่าจังหวะในการยุบพรรคการเมืองนั้นมีความหมายและมีผลทั้งต่อการเลือกตั้งและต่อการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง

การยุบพรรคไทยรักษาชาติ ในจังหวะก่อนการเลือกตั้ง มีผลทำให้ยุทธการแตกแบงก์พันของพรรคเพื่อไทยไม่ประสบความสำเร็จ และการที่พรรคเพื่อไทยไม่ส่งครบทุกเขตเว้นพื้นที่ให้กับพรรคไทยรักษาชาติ ทำให้การคำนวณจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคมีผลให้พรรคไม่มี ส.ส.บัญชีรายชื่อแม้แต่เพียงรายเดียว แต่คะแนนกลับเทไปที่พรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากในเขตดังกล่าวไม่มีผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย

การยุบพรรคอนาคตใหม่ หลังการเลือกตั้ง ทำให้จำนวน ส.ส.ในฝั่งฝ่ายค้านหายไปเป็นจำนวนมาก และทำให้ฝ่ายรัฐบาลได้ ส.ส.ที่ใช้โอกาสดังกล่าวย้ายมาอยู่ในพรรคฝ่ายรัฐบาล ทำให้เสียงของฝ่ายรัฐบาลทิ้งห่างจากฝ่ายค้าน ทั้งๆ ที่ในจังหวะเริ่มต้นมีคะแนนทิ้งห่างกันไม่มาก

ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครบอกได้ว่าอนาคตข้างหน้าจะมีสิ่งนี้อีกหรือไม่ รู้แต่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังมีไพ่อยู่หลายใบในมือ ขึ้นว่าจะทิ้งเมื่อใด

ภาวนาอย่างเดียว อย่าทิ้งไพ่โง่ ให้คนอื่นเอาไปกิน