มองเกมกองทัพ รับกลยุทธ์ ‘3 ป.’ จัดแถว new Gen จับตา ผบ.พล.1 รอ. โฟกัส ‘เสธ.หยอย’

มองเกมกองทัพรับกลยุทธ์ ‘3 ป.’ จัดแถว new Gen จับตา ผบ.พล.1 รอ. โฟกัส ‘เสธ.หยอย’ ตท.24 สยายปีกคุมสายบุ๋น

สัญญาณชัดขึ้นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะไปต่อบนถนนการเมืองแบบเต็มตัว หลังมีข่าวจะย้ายไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคที่ พล.อ.ประยุทธ์หนุนให้แรมโบ้ เสกสกล อัตถาวงศ์ ตั้งพรรคไว้

โดยเฉพาะเมื่อแต่งตั้งนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่เพิ่งลาออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีข่าวว่าจะเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ เป็นหัวหน้าพรรค

จึงยิ่งเกิดการเชื่อมโยงภาพชัดเจนมากขึ้น ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะแยกทาง แยกพรรคกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

แม้ พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ย้งไม่ย้าย ยังไม่มีคำตอบ ยังไม่มีอะไรทั้งสิ้นเรื่องการย้ายพรรค แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าจะไม่ย้ายพรรค

และแม้จะพูดในที่ประชุม ครม. ว่า “ผมกับพี่ป้อมก็ไม่มีอะไร ไม่เครียด ไม่ทะเลาะกันอยู่แล้ว ความเป็นพี่น้องมันเลิกไม่ได้ เรื่องอื่นก็ว่ากันไป” ก็เป็นแค่การสะท้อนว่า แยกพรรคกัน แต่ความสัมพันธ์ยังอยู่

สอดคล้องกับการที่ พล.อ.ประวิตรยืนยันว่า จะไม่ห้าม หาก พล.อ.ประยุทธ์จะย้ายพรรค “ไปเลย ไปไหนก็ไป ไม่ว่าใครทั้งนั้น” ที่เสมือนเป็นการไล่ส่ง ไม่สน ไม่แคร์ ราวกับรู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์มีแผนจะทำอะไร

หากมองในแง่บวก มองความคิด 3 ป. สามทหารเสือ สามทหารเก่า ที่มาเป็นนักการเมือง อาจมีกลยุทธ์ กลเกมทางการเมืองซ่อนอยู่ ในการแยกทาง แยกพรรค แต่อาจใช้กลยุทธ์ “แยกกันเดิน รวมกันตี”

แต่ด้วยข้อมูลหลายๆ อย่าง และทีมงาน อาจทำให้เข้าใจว่า แยกทางเดินแบบทางใครทางมัน เกมใครเกมมันเลยทีเดียว กระนั้นก็ยังมีความพยายามจากคนรอบตัว อยากจะให้พี่น้อง 3 ป.จับมือไปด้วยกันต่อไปกับพรรคพลังประชารัฐ

เพราะรู้กันว่า ถ้าแยกทางกัน ก็ยิ่งอ่อนแอ และอาจพ่ายแพ้

พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีความชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์จะนำทัพสู้ศึกต่อไป ทำให้กองทัพที่เป็นรุ่นน้องเตรียมทหาร และสายเลือด จปร. อุ่นใจมากขึ้นว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ยอมถอย ในการคุมกลไกในการรักษาความมั่นคงของชาติ และสถาบัน

ไม่ว่าระหว่าง พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ จะแยกพรรคกันหรือไม่ แต่อย่างน้อย ทั้งคู่ก็จะเป็นปราการทางการเมือง ที่ค้ำความมั่นคงอยู่ต่อไป

โดยในกองทัพ ขุนพลในสาย 3 ป. ยังถูกวางตัว วางทายาทเอาไว้แบบข้ามช็อตระยะยาว เช่น การวางตัวปลัดกลาโหมคนต่อไป

บิ๊กหนุ่ม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกลาโหม กำลังเป็นที่จับตา เพราะมีอายุราชการถึงกันยายน 2568 นั่งยาว 3 ปี เก้าอี้แข็งแกร่ง และจะเป็นหลักของกองทัพในโยกย้ายตุลาคม 2566 ที่ ผบ.เหล่าทัพจะเกษียณกันหมด

นอกจากนี้ ที่คาดกันว่า พล.อ.ทรงวิทย์ ที่แม้จบจาก รร.นายร้อย VMI แต่ก็เคยเรียน ตท.24 ที่ก็จะขึ้นมาเป็น ผบ.ทหารสูงสุดคอแดงคนต่อไป ก็เป็นกำลังหลักของรุ่นอีกคน

มีการจับตากันว่า ตท.24 กำลังสยายปีกในกองทัพภายใต้การนำของ พล.อ.สนิธชนก ที่ดันเพื่อน ตท.24 มาช่วยงานในกลาโหม

และคาดกันว่า มีการวางตัว เสธ.หยอย พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ เสนาธิการทหารบก ไว้เป็นปลัดกลาโหม เพราะมีอายุราชการถึงกันยายน 2570 เลยทีเดียว สามารถต่อจาก พล.อ.สนิธชนกได้พอดี

พลเอก สนิธชนก สังขจันทร์

พล.อ.อุกฤษฎ์เติบโตมาจากสายบุ๋น กรมยุทธการทหารบก จนเป็นเจ้ากรม และขึ้นมาเป็น เสธ.ทบ. ท่ามกลางความฮือฮา เพราะขึ้นมาจากเจ้ากรมยุทธการทหารบก ซึ่งถือว่าเป็นฟาสต์แทร็ก ที่ไม่เคยเกิดขึ้นใน ทบ. ที่ระดับเจ้ากรม ขึ้นมา 5 เสือ ทบ.

อีกทั้งเป็นเพื่อน ตท.24 ของ พล.อ. สนิธชนก ที่เป็นสายตรง 3 ป. ที่คาดว่าจะเดินตามรอยเท้าบิ๊กหน่อย พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกลาโหม คนก่อนหน้านี้ ที่เติบโตมาในกรมข่าวทหารบก และกรมยุทธการทหารบก จนขึ้นเป็นรอง เสธ.ทบ. และเป็น เสธ.ทบ. ก่อนข้ามไปเป็นปลัดกลาโหม ด้วยพลังของ ตท.20

แม้จะไม่ได้คุมกำลังรบ แต่ปลัดกลาโหมก็เป็นข้าราชการประจำเบอร์ 1 ที่เป็นมือไม้สำคัญของคนเป็น รมว.กลาโหม และในปีหน้า ที่ ผบ.เหล่าทัพยกแผง ทั้งผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ และผู้บัญชาการทหารอากาศ เกษียณราชการหมด

ปลัดกลาโหมอย่าง พล.อ.สนิธชนก จะเป็นหลักของกองทัพ

พลเอก อุกฤษฏ์ บุญตานนท์

เป็นที่คาดกันว่า ทั้งบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด บิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. แม้จะเกษียณ แต่ก็คงมีตำแหน่งของทหารสายคอแดงรองรับ

ที่ผ่านมาใน ทบ.ถูกจับตามองเรื่องขุมกำลัง ฐานอำนาจของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ และสายตรงหน่วยพระราม 5 โดยเฉพาะเตรียมทหาร 28

แต่ทันทีที่ ผบ.ตุ๊ก พล.ร.ต.สรวุท ชวนะ ผบ.หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (ผบ.สอรฝ.) ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายโอนไปเป็นข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร หมายเลข 16 ก็ทำให้ ตท.28 ใน ทร.ถูกจับตามอง ด้วยเพราะ พล.ร.ต.สรวุท ถือเป็นดาวเด่นใน ทร. ที่มีโอกาสที่จะเติบโตจนชิงเก้าอี้ ผบ.ทร.ได้

ชื่อของ ตท.28 ใน ทร. ทั้ง ผบ.ต้อม พล.ร.ต.ภาณุพันธุ์ ทรัพย์ประเสริฐ ผบ.ฐานทัพเรือกรุงเทพ และ พล.ร.ต.วศิน สระศรีดา หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการ ประจำผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ จึงถูกจับตามอง โดยเฉพาะ พล.ร.ต.ภาณุพันธุ์ ที่ถือว่าเข้าไลน์แล้ว จากตำแหน่งนี้ก็อาจขึ้นเจ้ากรมฝ่ายอำนวยการได้เลย โดยเฉพาะเจ้ากรมยุทธการทหารเรือ ที่เติบโตมา

อีกทั้งในโผที่ผ่านมา พล.ร.ท.นเรศ วงศ์ตระกูล เจ้ากรมยุทธการทหารเรือ ก็ขึ้นมาจาก ผบ.ฐานทัพเรือกรุงเทพฯ ไม่แค่นั้น จากตำแหน่งเจ้ากรม ก็ขึ้น 5 เสือ ทร.ได้เลยอีกด้วย เช่นที่บิ๊กโอ๋ พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสธ.ทร. ขึ้นจากเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ หรือบิ๊กดุง พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.กองเรือยุทธการ ขึ้นมาจากเจ้ากรมสื่อสารทหารเรือ

พลตรีณัฐเดช จันทรางศุ

นอกเหนือจากการควบแข่งกันของเตรียมทหาร 27-28 แล้ว ในกองทัพมีการมองข้ามช็อตไปถึงเก้าอี้ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) ที่ส่อแววคุกรุ่น เพราะจะเป็นการชิงกันของ ตท.30 กับ ตท.31 หรือ ตท.28 จะยังคงต้องคุมกองพลคอแดง ที่เป็นกำลังหลักของ ฉก.ทม.รอ.904 เอาไว้ก่อน

ด้วยเพราะตอนนี้มี ผบ.แอ้ม พล.ต.ณัฐเดช จันทรางศุ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) เป็นเตรียมทหาร 28 ที่รับไม้ต่อจากบิ๊กไก่ พล.ต.วรยส เหลืองสุวรรณ เพื่อน ตท.28 ที่ขยับขึ้นไปเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1

โดยคาดว่า โยกย้ายตุลาคม 2566 พล.ต.ณัฐเดชก็จะต้องขยับ และทำให้มีการจับตามองว่า ใครจะมาคุมกองพลวงศ์เทวัญคอแดง คนต่อไป

ทั้งจากระดับรอง ผบ.พล.1 รอ. ที่จ่ออยู่ เนื่องจากในระยะหลังๆ ผบ.พล.1 รอ. มักจะขึ้นจากรอง ผบ.พล.1 รอ. เช่น พล.ต.วรยา และ พล.ต.ณัฐเดช

ที่ตอนนี้มีรองลาภ พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ เตรียมทหาร 30 ที่ย้ายระนาบจากรอง ผบ.พล.ร.9 กองพลทหารคอเขียว เมื่อตุลาคม 2564 มาเป็นรอง ผบ.พล.1 รอ. และกลายเป็นทหารพระสุรสีห์คอแดง แล้วจ่อที่จะชิง ผบ.พล.1 รอ.คนต่อไป

พลโท พนา แคล้วปลอดทุกข์

แต่ทว่า ก็น่าจับตา ที่ในการโยกย้ายระดับผู้การกรม ล่าสุด ตุลาคม 2565 บิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ก็ส่งผู้การด้วง พ.อ.ยอดอาวุธ พึ่งพักตร์ รุ่นน้อง เตรียมทหาร 31 จาก ผบ.ร.31 รอ. หน่วยเก่าของตนเอง ขึ้นมาเป็นรอง ผบ.พล.1 รอ. ก็ยิ่งน่าจับตามอง แม้ว่า พ.อ.สิทธิพรจะมาเป็นรอง ผบ.พล.1 รอ. ก่อนก็ตาม

เพราะไม่ใช่แค่เติบโตมาจาก ร.31 รอ.หน่วยเดียวกับ พล.อ.ณรงค์พันธ์ และแม่ทัพปู พล.ท.พนา แคล้วปลอดทุกข์ แม่ทัพภาคที่ 1 เท่านั้น แต่เป็นที่รู้กันใน ทบ.ว่า พ.อ.ยอดอาวุธ เป็นน้องรักของบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองราชเลขาธิการ และอดีต ผบ.ทบ. และเป็นลูกชาย พล.อ.เลิศ พึ่งพักตร์ แกนนำ จปร.5 เพื่อนสนิทบิ๊กสุ พล.อ. สุจินดา คราประยูร อดีตนายกฯ และ ผบ.ทบ.อีกด้วย

เรียกได้ว่า พ.อ.ยอดอาวุธ และผู้การย้ง พ.อ.คทาวุธ ชัยยัง ผบ.ร.31 รอ.คนใหม่ เป็นนายทหารระดับผู้การ “นิวเจน” new gen ที่ต้องจับตามอง ในฐานะน้องเลิฟบิ๊กแดง เพราะลงไปอยู่ชายแดนใต้กับ พล.อ.อภิรัชต์สมัยที่เป็น รอง ผบ.ร.11 รอ.

พลตรี สราวุธ ไชยสิทธิ์

หรือแม้แต่ “ผู้การเบญ” พ.อ.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา (ตท.32) ที่เพิ่งขึ้นจาก ผบ.ร.21 รอ. ทหารเสือราชินี เป็นรอง ผบ.พล.ร.2 รอ. ก็เป็น new gen ที่เป็นดาวรุ่งในสายคอแดง

แต่ทว่า ในอดีต ก็มีการย้ายระนาบนายทหารระดับผู้บัญชาการกองพล (ผบ.พล.) หรือจากรอง ผบ.พล. กองพลอื่นในกองทัพภาคที่ 1 ขึ้นมา

โดยในระดับผู้บัญชาการกองพล มี ผบ.กอล์ฟ พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผบ.พล.ร.2 รอ. ซึ่งเป็นแกนนำรุ่น ตท.28 ที่อาจจะย้ายระนาบมาเป็น ผบ.พล.1 รอ. ย่ำเท้ารอ ก่อนก็ได้ แม้ว่าจะขึ้นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ได้เลยก็ตาม

หรือแม้แต่ “ผบโอ่ง” พล.ต.เอกอนันต์ เหมะบุตร ผบ.พล.ร.11 ที่รู้กันดีว่า เป็นน้องรักของทั้ง พล.อ.ณรงค์พันธ์ และ พล.อ.อภิรัชต์ เพราะโตมาจาก ร.11 รอ. และ ร.31 รอ.ด้วย ที่แม้จะโตมาจากกองพลสไตรเกอร์ พล.ร.11 และเป็นอดีต ผบ.ร.111 ไม่ใช่ทหารคอแดง แต่จากทหารคอเขียว ข้ามไปเป็น ผบ.พล. คอแดง ก็เคยมีมาแล้ว โดยเฉพาะ พล.ต.สราวุธที่มาจากผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (ผบ.มทบ.11)

ดังนั้น ผบ.กบ พล.ต.ปัญญา ตั้งความเพียร ผบ.มทบ.11 ก็สามารถย้ายระนาบมาได้เช่นกัน แม้จะเติบโตมาจากกองพลบูรพาพยัคฆ์ก็ตาม แต่คาดว่า เล็งที่จะย้ายกลับถิ่นไปเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ.มากกว่า

ทั้งนี้ ตำแหน่ง ผบ.พล.1 รอ. ไม่ใช่เก้าอี้เฉพาะของทหารสายวงศ์เทวัญ ที่โตมาจาก พล.1 รอ.เท่านั้น แต่ทหารสายบูรพาพยัคฆ์ก็เคยข้ามมาเสียบมาแล้ว เช่นเดียวกัน ทหารวงศ์เทวัญหลายคนก็เคยมาเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ.

แม้แต่คนที่เคยเป็น ผบ.พล.ร.11 ก็ยังมาเป็น ผบ.พล.1 รอ.ได้ เช่น บิ๊กอ๊อบ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รอง ผบ.ทหารสูงสุด

ดังนั้น พล.ต.เอกอนันต์จึงถูกจับตามองอีกคน แถมยังติดยศนายพลแล้ว เมื่อ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา จึงได้เปรียบอาวุโสกว่า พ.อ.สิทธิพร เพื่อนร่วมรุ่น ตท.30 ที่เป็นรอง ผบ.พล.1 รอ.จ่ออยู่ และถูกมองว่าเป็นสายตรงบิ๊กแดง

ดังนั้น เก้าอี้ ผบ.พล.1 รอ. จึงเป็นอีกดัชนีชี้วัดพลังอำนาจที่คุมกองทัพบกโดยแท้จริง ได้อีกตำแหน่งหนึ่ง

 

พลตรี ปัญญา ตั้งความเพียร
พลตรี เอกอนันต์ เหมะบุตร