ทีมการทูต ‘นักรบหมาป่า’ ของสี จิ้นผิง พร้อมลุย! | สุทธิชัย หยุ่น

สุทธิชัย หยุ่น

พอสี จิ้นผิง ได้รับการต่ออายุไปอีกหนึ่งสมัย คำถามแรกในเวทีระหว่างประเทศก็คือ ทีม “นักรบหมาป่า” (Wolf Warriors 战狼外交) ทางการทูตของจีนจะมีหน้าตาและยุทธศาสตร์อย่างไร

ชื่อของหวัง อี้, รัฐมนตรีต่างประเทศคนเดิม, ก็ยังโดดเด่นในฐานะมือเก๋าด้านการทูตของจีนในเวทีระหว่างประเทศซึ่งอาจจะเลื่อนขึ้นไปในตำแหน่งอาวุโสของพรรคที่ดูแลนโยบายต่างประเทศในภาพกว้าง

ขณะที่ “ฉิน กัง” เอกอัครราชทูตจีนประจำวอชิงตันคนปัจจุบันก็ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นตัวเต็งที่จะมาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ

อะไรคือ “การทูตโมเดลนักรบหมาป่า”?

นั่นคือวลีที่ใช้อธิบายรูปแบบการทูตของจีนที่ในระยะหลังมีแนวทางกร้าว, ดุดัน, ตาต่อตาฟันต่อฟัน และพร้อมที่จะเล่นเกมโฆษณาชวนเชื่อสู้กับตะวันตกได้ทุกวิถีทาง

เป็นการสะท้อนถึงการทูตแบบสี จิ้นผิง ที่จะไม่ยอมให้ตะวันตกข่มขู่กดดันและคุกคามเหมือนเดิมอีกต่อไป

เป็นการทูตสำหรับศตวรรษที่ 21 ที่มาพร้อมกับทิศทางที่แข็งกร้าวและยืนหยัดในเวทีระหว่างประเทศที่พร้อมจะรับความท้าทายจากโลกตะวันตก

วลีนี้คงทำให้คิดถึงภาพยนตร์แอ๊กชั่นของจีน Wolf Warrior และซีรีส์ที่เชื่อมต่อจนกลายเป็นเรื่องเล่าขานที่นำมาใช้กับการทูตจีนวันนี้

แนวทาง “ลุยแหลก” อย่างนี้ตรงกันข้ามกับวิธีปฏิบัติทางการทูตของจีนยุคเติ้ง เสี่ยวผิง

ซึ่งเน้นการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งแบบจะจะ และการใช้วาทศิลป์เพื่อบรรลุเป้าหมายทางการทูตแบบไม่ต้องมีการปะทะคารมกันหนักหนาเกินไป

การทูตแบบ “นักรบหมาป่า” เป็นสไตล์แบบเผชิญหน้า

ใครวิพากษ์มาก็ตอบโต้อย่างร้อนแรงเฉียบพลันแบบหมัดต่อหมัด

ไม่ว่าจะแบบออกแถลงการณ์, การเรียกตัวแทนของอีกฝ่ายหนึ่งมารับหนังสือตอบโต้หรือวิวาทะบนโซเชียลมีเดีย

พร้อมกับการให้สัมภาษณ์อย่างเผ็ดร้อน

เพราะแนวทางนี้เชื่อใน “อำนาจแห่งวาทกรรม” ในการเมืองระหว่างประเทศ

“การทูตของนักรบหมาป่า” เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์นโยบายต่างประเทศใหม่ที่เรียกว่า “การทูตชาติหลัก” ของสี จิ้นผิง

ที่มีความเชื่อว่าวิธีนี้เท่านั้นที่จะสร้างความชอบธรรมให้กับบทบาทของจีนในเวทีโลก

อีกทั้งยังเป็นการร่วมการต่อสู้ทางอุดมการณ์แบบเปิดกว้างกับโลกตะวันตก

แรกเริ่ม วลี “การเจรจาต่อรองของนักรบหมาป่า” ได้รับความนิยมในฐานะคำอธิบายของแนวทางทางการทูตนี้ในช่วงการระบาดใหญ่ของ COVID-19

โดยซัดกลับตรงๆ ต่อคำกล่าวอ้างจากโลกตะวันตกว่าจีนเป็นต้นเหตุของโรคระบาดร้ายแรงที่มีผลกระทบต่อทั้งโลก

แต่ความจริงการปรากฏตัวของนักการทูตสไตล์นักรบหมาป่าได้เริ่มขึ้นหลายปีก่อนหน้านั้นแม้จะยังไม่ได้ใช้ศัพท์แสงนี้ก็ตาม

โดยสี จิ้นผิง ได้เปิดเกมรุกทางการทูตในฐานะผู้นำจีนและเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) ที่ปักหลักต่อต้านประเทศตะวันตกที่เล่นบทเป็นปรปักษ์ต่อต้านจีนอย่างเปิดเผย

ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนวิถีปฏิบัติทางการทูตภายในของจีนอย่างเป็นระบบ

เหมือนจะประกาศว่าจีนจะไม่ยอมให้ใครมารุกรานด้วยวาทะทางการทูตอีกต่อไป

เมื่อได้รับตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่สาม สี จิ้นผิง ก็เริ่มยกเครื่องทีมนโยบายต่างประเทศอีกรอบ

ด้วยการปรับทีมการทูตระดับสูงผ่านมาเลื่อนตำแหน่งสำหรับมืออาชีพด้านนี้ที่ได้แสดงความภักดีและพิสูจน์ถึงการพร้อมจะยืนหยัดกับการทูตตะวันตกอย่างแข็งขันในทุกเวที

คนที่กำลังถูกจับตาว่าจะขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศน่าจะเป็น “ฉิน กัง” (Qin Gang)

อีกคนหนึ่งคือ “หลิว ไห่ซิง” (Liu Haixing) รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ

ฉิน กัง (Photo by CNS / AFP) / China OUT

ฉิน กัง เป็นเอกอัครราชทูตปักกิ่งประจำสหรัฐตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว

นักการทูตวัย 56 ปีรายนี้เป็นที่เลื่องลือจากสำนวนโวหารที่กร้าวและหนักหน่วงเพื่อปกป้องจุดยืนของปักกิ่งอย่างแข็งขัน

ดูจากรายชื่อล่าสุด ฉิน กัง ได้รับแต่งตั้งให้เป็น 1 ใน 205 สมาชิกคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์

นี่ต้องถือเป็น “กรณีพิเศษ” กันเลยทีเดียวเพราะทำให้เขาเป็นเอกอัครราชทูตประจำตำแหน่งคนแรกที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นสมาชิกเต็มรูปแบบในโครงสร้างศูนย์กลางอำนาจของพรรคอย่างจะแจ้งเช่นนี้

หลิว ไฮ่ซิง

“หลิว ไห่ซิง” เป็นมืออาชีพในระดับสูงของพรรคอีกคนหนึ่งที่อยู่ในฐานะจะแข่งกับฉิน กัง ได้

เขามีความเชี่ยวชาญด้านกิจการยุโรป เน้นกิจการฝรั่งเศส

หลิวดำรงตำแหน่งหลายสมัยที่สถานทูตจีนในฝรั่งเศส นอกเหนือจากตำแหน่งอธิบดีและผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศยุโรป เขาได้รับตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ

หวัง อี้ (Photo by Yuki IWAMURA / AFP)

ส่วนตัวหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศปัจจุบัน ก็ได้รับการเลื่อนขึ้นไปเป็น 1 ใน 24 สมาชิกของกรมการเมือง หรือ Politburo แทนหยาง เจียฉือ ที่เกษียณอายุในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ด้านการต่างประเทศระดับสูงของพรรคและเป็นตัวประสานหลักของจีนกับวอชิงตันมายาวนาน

ก่อนหน้าจะไปประจำวอชิงตัน ฉิน กัง ก็ได้แสดงความเป็น “นักการทูตเชิงนักรบหมาป่า” แล้วอย่างชัดเจนในบทบาทโฆษกกระทรวงต่างประเทศที่ไม่ลังเลที่จะตอบโต้ข้อกล่าวหาตะวันตกอย่างเผ็ดร้อน

หลังจากสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัย ฉินทำงานเป็นพนักงานที่สำนักงานบริการทางการทูตของปักกิ่ง ในปี 1992

พอเข้ากระทรวงต่างประเทศครั้งแรกเขามีตำแหน่งผู้ช่วยและเลขานุการตรีที่กรมกิจการยุโรปตะวันตก

จากนั้นก็มาประจำการที่สถานเอกอัครราชทูตจีนในสหราชอาณาจักรในฐานะเลขานุการและที่ปรึกษาระหว่าง ตั้งแต่ปี 1995 ถึง 2005

และย้ายมาที่แผนกข้อมูลกระทรวงต่างประเทศในตำแหน่งรองอธิบดีและโฆษกตั้งแต่ปี 2005 ถึง 2010

เดือนกันยายน 2010 ฉินได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูตแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำสหราชอาณาจักร

เขากลับไปปักกิ่งในเดือนธันวาคม 2011 เพื่อดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมข้อมูลกระทรวงต่างประเทศ

ระหว่าง 2014 ถึง 2017 ฉินเป็นอธิบดีกรมพิธีการทูตกระทรวงต่างประเทศ

และก้าวขึ้นเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีนในปี 2017

ตามมาด้วยการเลื่อนขึ้นเป็นรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีนในเดือนกันยายนในปีต่อมา

ในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ฉินได้รับตำแหน่งเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำสหรัฐคนที่ 11 ต่อจาก “ชุย เทียนไข่”

พอไปประจำการที่วอชิงตัน ฉิน กัง ก็ไม่รอช้า ตอบโต้ข้อกล่าวหาจากตะวันตกในทุกประเด็นอย่างฉับพลันและร้อนแรง อีกทั้งพร้อมจะออกสื่อในอังกฤษเพื่อตอบคำถามอย่างฉาดฉาน

หวาง หูหนิง (Photo by WANG Zhao / AFP)

ที่จะต้องจับตาอีกคนหนึ่งในกลุ่ม “7 อรหันต์” ที่น่าจะมีบทบาทด้านนโยบายต่างประเทศคือ หวาง หูหนิง (Wang Huning) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในฐานะที่ปรึกษาระดับสูงของสี จิ้นผิง ในด้านกิจการภายในประเทศและการต่างประเทศ

เขาเป็น 2 คนที่กลับมาดำรงตำแหน่งเป็นครั้งที่ 2 ในครั้งนี้ในคณะกรรมการประจำ Politburo Standing Committee ที่มีสมาชิก 7 คน

หวัง หูหนิง เป็นที่รู้จักในฐานะนักทฤษฎีชั้นนำของการทูตนักรบหมาป่า

มีการมองกันว่าขณะที่หวัง อี้ เป็นฝ่ายลุยในโลกแห่งความเป็นจริงของเวทีระหว่างประเทศ หวัง หูหนิง ก็จะเล่นบทเป็นผู้คอยป้อนหลักคิดแห่งอุดมการณ์ของพรรค

โดยสี จิ้นผิง วางตัวให้เป็นแม่ทัพที่จะกำกับทิศทางของนโยบายต่างประเทศในยุคที่สามนี้อย่างเข้มข้นร้อนแรงต่อเนื่อง

นี่คือทีม “นักการทูตนักรบหมาป่า” ชุดพร้อมลุยตัวจริงเสียงจริง!

China’s President Xi Jinping (front) walks with members of the Chinese Communist Party’s new Politburo Standing Committee, the nation’s top decision-making body, including Li Qiang (front C), as they meet the media in the Great Hall of the People in Beijing on October 23, 2022. (Photo by WANG Zhao / AFP)