จากควายป่า-กูปรี และเวทีนางงาม | อภิญญา ตะวันออก

อภิญญา ตะวันออก

จู่ๆ MGC ที่เหล่าแฟนนางงามชาวไทยรู้จักและหลงรักเธอนั้น ทันทีที่เวทีมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล (MGI) ที่อินโดนีเซียสิ้นสุดลง พลัน ฉันก็รำลึกบทความชิ้นหนึ่ง เกี่ยวกับมิสยูนิเวิร์สเวียดนามเชื้อสายเขมรที่ยังเหนียวแน่นเรื่องดราม่า

แต่รอบนี้เป็น “พิช วไต สราวตี” หรือสราวดี-มิสแกรนด์แคมโบเดีย และนี่คือประวัติสั้นๆ ของบวรกัญญา (อ่านว่า บอ-วอ-กัน-ยา) นางงามคนนี้ เธอเป็นตัวแทนจากสุดตะวันออกของจังหวัดมณฑลคีรี ที่มีแต่ป่าดินสีแดง ชนกลุ่มน้อยหลากหลายชาติพันธุ์ และกาแฟเลิศรส

กระนั้น มณฑลคีรีก็ไม่เคยถูกยกระดับความสำคัญ

กระทั่งค่ำคืนใจกลางกรุงพนมเปญ พลัน ชื่อของจังหวัดนี้ก็ถูกจดจำในสำลักสำเนียงสไตล์มิสแกรนด์คนนั้นที่ต้องการให้โลกได้จดจำดินแดนดงดิบที่มีแต่สัตว์ป่าและเคยห่างไกลความเจริญ แต่การทำเสียงบดตะกูดแบบนั้น ก็ยิ่งทำให้ชาวนครทั้งประเทศพากันกล่าวหาว่า เวทีมิสแกรนด์แคมโบเดียมีแต่สร้างความเสื่อมเสีย

ทั้งด้านชุดประกวดและจริตจะก้านของเนียงนางงามที่ไม่เหมือน “บวรกัญญา” ในแบบกัมพูชาเสียสักนิด

เครดิต : kผู้หญิง

ไม่หยุดเท่านั้น กระแสสังคมดังกล่าวทำเอากองประกวดมิสแกรนด์แคมโบเดียถูกกดดันทุกสารทิศ ถึงขนาดต้องขอโทษประชาชนและกระทรวงวัฒนธรรมอย่างเป็นทางการ จากนั้นก็ถึงคิว พิช สราวดี-มิสแกรนด์แคมโบเดีย ในวันโชว์ตัว “ชุดประจำชาติ” ที่เธอวาดลีลาหวังมัดใจกองประกวดมิสแกรนด์นานาชาติ

พลัน ทันทีเครื่องรางตัวนำโชคของเธอสีดำมะเมื่อมและสิ่งที่ปรากฏคือควายป่ากูปรีที่อยู่บนศีรษะ สราวดีก็ขวิดใส่อากาศวาดลีลาหวังสยบทุกสายตา ไม่แต่เท่านั้น เธอยังยกหม้อกาแฟยักษ์ทำท่าซดดื่มอย่างเมามัน

และนั่นคืออวสาน

“นี่หรือบวรกัญญาของเรา? หรือนังโคไพรป่าอาละวาด? ช่างไร้ค่าเสียสติและน่าอับอาย…” และสารพัดคำวิจารณ์ที่ตามมาอย่างราวกับพายุ

อย่างที่ทราบ ในอดีตที่ผ่านมา ชุดประจำชาตินางงามกัมพูชาทุกเวที จะมีความโอ้อวดในเครื่องทรงมงกุฎอลังการแห่งความเป็นอัตลักษณ์ในแบบกษัตริยานี โดยเฉพาะมงกุฎหรือ “เทริด” (เซิด) ที่อยู่บนศีรษะ ที่บ่งบอกในทุกสิ่งของความเป็นบวรกัญญาดังที่เห็นว่า

นับตั้งแต่ 2014 เรื่อยมา มิสแกรนด์เขมรไม่เคยออกจากแนวทาง “อุดมคติ” นี้ รวมทั้งเวทีประกวดอื่นๆ ด้วย

การที่มิสแกรนด์ 2022 อุตริไปเอาเขาสัตว์-สแนง มาใส่แทนเช่นนั้น ซ้ำยังทำหน้าตาระรื่น จึงช่างบาดหูบาดตาปวงประชาเขมรนัก

สราวดีจึงตกที่นั่งเป็นเหมือนตัว “อัปลักษณ์” ที่ทำลายเกียรติภูมิความเป็นเลิศของแคมโบเดียนางงาม อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เครดิต : crown miss grand cambodia

เธอช่างกล้า และเกิดมาแบบไหนกันนะ? ถึงริอ่านดึงอัตลักษณ์แห่งความยุคกลางอันยิ่งใหญ่มาสู่ “กายวิกา” ใหม่ว่าด้วยความเป็นสัตว์สแนงกูปรีเช่นนั้น?

ช่างเข้าตำราสำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุลอย่างไรอย่างนั้น ตั้งแต่การขานชื่อเมืองจังหวัดอย่างพิสดาร แล้วยังท่าเต้นโคไพรประหลาดนั่น!

เราจะส่งความอับอายไปประกวดเพื่ออดสูตัวเองอย่างไรกัน?

ต่อคำบริภาษทั้งสิ้น ไม่นาน พิช วไต สราวดี ก็ออกมาโต้ตอบไลฟ์สดอย่างเผ็ดร้อนพอกัน เธอถามกลับอย่างคับแค้นใจ

“โลกทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ถ้ามณฑลคีรีมีชื่อเสียงด้านกูปรีและกาแฟ เราก็ควรภาคภูมิใจใน ‘อัตตะจริต’ นี้ แล้วทำไมต้องอับอาย?”

มิสแกรนด์แคมโบเดียยังขอร้องให้ชาวเขมร “เปิดใจ” จากนั้นไม่นาน พิช สราวดี ก็จัดกระเป๋าเดินทางไปกองประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์ฯ ที่อินโดนีเซีย

เธอไม่ลืมพกพาเอาเขาสแนงกูปรีตัวนี้ไปด้วย และด้วยการเตรียมตัวมาอย่างอดทนต่อการฝึกฝน พิช สราวดี ได้ใช้เขาสแนงของเธอ “ขวิดใส่” ใครต่อใครทุกฝ่าย ตั้งแต่กรรมการยันสื่อและกองเชียร์ขอบเวที และที่นี่ก็ไม่มีใครดูถูกบูลลี่

ในที่สุด ความหวังอันริบหรี่ก็มากับการทำงานหนักของมิสแกรนด์เขมรคนนี้ เธอได้ฉายาว่า “พิชชี่” จากกองเชียร์ LGBTQ ไทยที่ให้ด้วยความเอ็นดูต่อศักยภาพที่โดดเด่นของเธอตั้งแต่ภาษากายวิกาและความฉะฉานทางภาษา ซึ่งบ่งบอกถึงศักยภาพของเธอว่าไม่แพ้ตัวแทนประเทศใด

พลัน เมื่อเคียงข้างกับมิสแกรนด์ไทยแลนด์-อิงฟ้า วราหะ ในชุดประจำชาติ “หนุมาน” พิชชี่ “กูปรีสาว” กัมพูชาได้สะกดสายตาทุกคน ด้วยดีเอ็นเอพิเศษอันเป็นบุคลิกของ 2 ชาตินี้ คือมีความน่าเอ็นดู และด้วยความเป็นมืออาชีพบนโลกแข่งขันแห่งเวทีนางงาม

“พิชชี่-อิงฟ้า” ต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างน่าชื่นชม พวกเธอได้สยบดราม่าชุดประจำชาติ ที่มักเกิดขึ้นประจำระหว่าง 2 ชนชาตินี้

และสิ่งที่ทำให้ “พิชชี่” ถูกจดจำ ก็มาถึง เมื่อเธอทำมันสำเร็จในการเข้ารอบ “ลึกที่สุด” เวทีนานาชาติ คนแรกในประวัติศาสตร์นางงามกัมพูชา

เครดิต : MGI

บัดนี้ ผู้คนกำลังตื่นจากขนบอำนาจที่ถมทับและด้อยค่าชาวเขมร, ชาติพันธุ์ สัตว์กูปรีและชาวมณฑลคีรี กระทั่ง “เขาสแนง” ของควายป่าที่อยู่ในร่างของนางงามตัวนั้นได้กลายมาเป็นความภาคภูมิใจในการติดสินโดยเวทีสากลของชนชาติต่างๆ

มันคือเครื่องมือ “เจียระไน” หรือขัดเกลา บ่มเพาะต่อมุมมองใน “วัฒนธรรมใหม่” ในอัตลักษณ์ของตนเอง ซึ่งดีชั่วต่อไปไม่รู้ดอก แต่วันนี้ มันคือ “ลัทธิสากลใหม่” ที่ชาวเขมรรู้ได้ด้วยตัวเอง ในทันทีที่พิช สราวดี เข้ารอบ 10 คนนั้น เสียงเฮก็ดังลั่นไปทั่วกัมพูชา

และนี่คือความยิ่งใหญ่ของ “อำนาจอ่อน” ที่พวกเขาอยากสัมผัสตลอดมา บัดนี้ พิช สราวดี ได้กลายเป็นโมเดลแรก พร้อมๆ กับกำแพงทึบ “คติเก่า” ที่ทลายตัวลงมาเล็กน้อยจากน้ำมือของเด็กสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่วัยเด็กเดียงสาถูกข่มเหงทางเพศจากเพื่อนของพ่อ และอีกครั้งหนึ่งซึ่งเพื่อนร่วมชาติได้ทำไว้ แต่เธอได้แก้ไขมันทันด้วยรางวัลนางงาม

ให้ตายเถอะ ฉันไม่เคยรู้สึกดีต่อวงการนางงามว่ามีคุณูปการต่อชีวิตผู้คนขนาดนี้ โดยเฉพาะกรณีพิชชี่-สราวดี ที่คราบน้ำตาบนความเกลียดชังได้กลายเป็นพลังงานใหม่ในการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเขมร ที่แม้แต่บุตรชายนายกรัฐมนตรีก็ยังเชิดชูให้เธอคือความภาคภูมิใจของชาวเขมร!

ถ้าไม่ใช่ความกล้าหาญของสราวดี ในวันที่เธอ “เผชิญหน้า” สังคมที่ตีตราเธอนั้น ซึ่งเท่ากับเธอได้ชำแหละเรือนร่างไปกับคุณค่ากูปรีตัวหนึ่งซึ่งเคยถูกเหยียบย่ำในความเป็นท้องถิ่น ไม่เท่านั้น การที่เธอ “ผ่ากลาง” อัตลักษณ์บวรกัญญาตามขนบเก่าแก่ที่ผ่านมา ด้วยกระแสแห่งการวิพากษ์ที่ตามมาด้วยการเรียนรู้ร่วมกันทางสังคม

นี่คือการ “โต้ตอบ” ที่คุ้มค่ามหาศาลต่อแนวคิดฝ่ายจารีตที่เคยมีมาในประเทศนี้ ในทันทีที่เธอคว้ามงกุฎรอบ 10 คนสุดท้าย ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปถึงเพียงนี้

เครดิต : youtube

พลัน เงาทะมึนอันยาวนาน ความเป็นท้องถิ่นนิยมที่ทับซ้อนและบดบัง ก็คลายตัวลงมาก หรือมิฉะนั้น พิช สราวดี คงกลับบ้านพร้อมกับน้ำตาอีกหลายครั้ง ในวันที่เธอต้องถูกเกลียดชังจากแนวคิดอนุรักษ์อันเป็นขนบฝังแน่น

และนี่คือชัยชนะของ “อำนาจอ่อน” ที่มนุษย์คนหนึ่งจะจับต้องได้ ในกรณีมิสแกรนด์แคมโบเดีย

ไม่เท่านั้น ใครเลยจะรู้ว่า วงการบวรกัญญากัมพูชาจะสามารถเปลี่ยนท้องถิ่นนิยมหรือโฉมหน้าการเมืองได้? ก็ในเมื่อเห็นอยู่ว่า มีการเลือกตั้งท้องถิ่นกว่า 10 ครั้งในรอบ 2 ทศวรรษครึ่งมานี้ แต่ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปเลยในเชิงโครงสร้าง

และนี่คือพลังของอำนาจอ่อนของพลเมืองที่อาจลดทอนลัทธิอนุรักษ์ในรัฐอำนาจที่ครอบงำชาวเขมร ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากว่าไม่ถูกหลอมรวม (หรือกลืนกินไปเสียก่อน)

ขอบคุณมณฑลคีรี โคไพร-กูปรีสัตว์สแนง ท้องถิ่นและทุกอย่างอันถูกนำเปิดเผยบนเวทีของมิสแกรนด์ และนี่คือคุณค่าที่แฝงมากับดราม่าหรือ “แรงกระเพื่อม” แห่งความเยาะขัน ที่ขับเคลื่อนอย่างช้าๆ สู่การถ่ายผ่านจากระบอบอันครอบงำ

และอย่าหาทำ เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาของขาอ่อน แต่เป็นสมองล้วนๆ

Twitter/MGC
Twitter/MGC
เครดิต : beauty pageant st