Cannoli ไร้เทียมทานแห่ง Mike’s Pastry ที่ฝรั่งต่อแถวกันยาวมากกกกกก | อัษฎา อาทรไผท

อัษฎา อาทรไผท

Cannoli ไร้เทียมทานแห่ง Mike’s Pastry

สารภาพตามตรงว่าก่อนที่จะมาได้ลอง ผมไม่เคยรู้จักขนมสัญชาติอิตาเลี่ยนนามว่า Cannoli นี้มาก่อนเลย มิหนำซ้ำร้านที่มีชื่อเสียงมากว่า 74 ปีอย่าง Mike’s Pastry แห่ง North End ย่านชุมชนชาวอิตาเลี่ยนในบอสตันนี้ ผมเองที่เคยร่ำเรียนอยู่ที่นี่ ก็ไม่เคยรู้จักมาก่อน อาจจะเพราะในช่วงวัยรุ่น ความสนใจไปอยู่ด้านอื่นเสียหมด เลยต้องรอให้เข้าสู่วัยกลางคนแบบนี้ ถึงเริ่มจะมาแสวงหาความสุนทรีย์ให้ปลายลิ้น

นับเป็นความโชคดีของผมที่ได้มาเจอกับร้านดังที่ผมไม่รู้จักนี้ บ่ายวันหนึ่งผมตั้งใจเดินไป North End ตั้งใจจะไปสุ่มหาร้านคาเฟ่เก๋ ๆ เพื่อจิบกาแฟเพลิน ๆ ระหว่างทางได้เห็นคนเดินถือกล่องขนมสีขาว ผูกเชือกสีขาว เดินสวนออกมาหลายราย มองคล้ายว่าเป็นขนมที่ใคร ๆ มาย่านนี้ก็ต้องนำกลับออกมาด้วย ผมเลยได้ตามรอยไปจนถึงร้านขนมในตำนานนี้

สำหรับท่านที่ไม่คุ้นเคยกับขนมจากอิตาลีนี้เหมือนผม ขออธิบายให้พอเห็นภาพและรับรู้รสสั้น ๆ ว่า มันคือแป้งโดที่นำมาทอดให้กรอบ ตรงกลางกลวงสำหรับสอดไส้ครีมรสหวานจับใจหลากชนิด แล้วโรยผงน้ำตาลไอซิ่งอีกที ตำนานว่ากันว่า Cannoli เป็นขนมที่มีต้นกำเนิดมาจากเกาะ Sicily ของอิตาลี่ และได้เดินทางมาถึงบอสตันพร้อมผู้อพยพชาวอิตาเลี่ยนเมื่อนานมาแล้ว

สำหรับที่ Mike’s Pastry ผู้ก่อตั้งคือ Michael Mercogliano ชาวอิตาเลี่ยนผู้ลงเรือ เดินทางอพยพพร้อมครอบครัวมาถึง North End ตั้งแต่อายุ 12 ขวบ สมัยนั้นไม่มีโรงเรียนสอนทำขนม เขาต้องลองผิดลองถูกหัดทำเองไปเรื่อย ๆ จนได้สูตรเด็ดที่ กรอบนอก หวานใน ไส้ทะลัก สะกดให้ทั้งชาวบอสตัน และผู้มาเยือน ตั้งแต่คนทั่วไปยันประธานาธิปดี ล้วนชื่นชอบในความอร่อยสดใหม่ของ Cannoli ของเขา ทำให้ร้านของเขาก็กลายเป็นร้านขนม ที่มีชื่อเสียงขึ้นชื่อลือชาของบอสตันไปในที่สุด

ปัจจุบันผู้ดำเนินกิจการคือ Angelo Papa ลูกเขยของเขา ที่ตอนนี้อายุเข้าสู่วัยอาวุโสแล้ว ยังคงทำงานอย่างแข็งขัน พร้อมลูกหลานที่ช่วยกันเตรียมขนมเสริฟอย่างกระตือรือร้น

บรรยากาศของ Mike’s Pastry คึกคักมาก ขณะเดินไปตามถนนในย่านเมืองอิตาเลี่ยนนี้ เราสามารถมองเห็นมาแต่ไกล ถึงความวุ่นวายและขวักไขว่ที่หน้าร้านของเขา ผู้คนมาออต่อแถวกันเต็มบริเวณ ใครได้ขนมแล้วก็ยิ้มแย้มเดินฝ่าฝูงชน ที่รอไปดูรายการขนมไปอย่างใจจดใจจ่อ

เมื่อเข้ามาในร้าน เขาจะเว้นพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นโถงกว้าง ให้ลูกค้ามาต่อแถวเพื่อรอสั่งขนมประมาณ 5-6 แถว แต่ละแถวมีคนต่อจนสุดประตูร้าน เบื้องหน้าเป็นเคาท์เตอร์ยาวเป็นตัวแอลรอบร้าน ด้านบนเป็นรายชื่อไส้ Cannoli ต่าง ๆ เช่น Chocolate Cream, Mint Chip, Oreo, Lemocello, Pecan Caramel และอีกมากมายเกือบ 20 รสชาติ

หลังเคาท์เตอร์พนักงานคอยรับออเดอร์ แล้วทีมงานจะบรรจงสอดไส้ให้เดี๋ยวนั้นตามสั่ง ส่วนใครอยากสั่งขนมอื่น ๆ เช่น มาคารอง บราวนี่ เอแคล และอีกหลายอย่างที่วางให้เลือกอยู่ในตู้โชว์ก็สั่งได้เลย เมื่อขนมครบ เขาจะเอาเชือกจากที่เก็บทรงกลมที่ห้อยลงมาากเพดาน พันมัดกล่องไว้ให้แน่นหนา นับเป็นเทรดมาร์คของร้าน

แม้ลูกค้าจะเยอะและแน่นมาก ๆ แต่เขาบริการได้ฉับไว แถวเคลื่อนตัวรวดเร็ว เจ้าของร้านยังคงมาช่วยบริการร่วมกับทีมงาน และที่เจ๋งคือร้านนี้เขารับเงินสดอย่างเดียว ขัดกับวัฒนธรรมอเมริกัน ที่ใคร ๆ ก็ใช้เงินพลาสติก (บัตรเครดิต) กันหมด แต่ถ้าอยากอร่อยที่นี่ ต้องควักธนบัตรจ่ายเท่านั้น โดยราคาจะอยู่ที่ 5.50 เหรียญเป็นส่วนใหญ่

สำหรับ Cannoli ของ Mike’s Pastry ผมได้ลิ้มลองแล้ว พบว่าจริงๆ แล้วหนึ่งชิ้นน่าจะแบ่งทานได้สองคน เพราะมีขนาดใหญ่มาก ถ้าให้เปรียบมันยาวพอ ๆ กับฮ็อทดอกชิ้นโต ๆ แต่มีความอ้วนกว่าสัก 1 เท่า ถ้านำมาถือในท่าเป่าขลุ่ยเราไม่สามารถนำงับเข้าปากได้ทั้งชิ้นแน่ ๆ เพราะมันใหญ่กว่าปากมนุษย์

แป้งที่ทอดกรอบ มีรสสัมผัสเหมือนแป้งพายที่แข็งกว่าพายปกติ แต่กัดแล้วแป้งจะร่วงออกมาเป็นผง ๆ ตามประสาของกรอบ ไส้ครีมด้านในใส่ไว้แบบล้นหลามทะลักออกมาด้านนอก ให้กันแบบไม่หวงของ ผมได้ลองรส Lemoncello และ Oreo มีรสชาติหวานมาก ส่วนขนมอื่น ๆ ผมได้ลองเอแคล ก็มีความหวานเด่นชัดเช่นกัน สรุปได้ว่าถ้าใครชื่นชอบความหวาน จะรักที่นี่มาก

สำหรับท่านที่ไม่นิยมรสหวาน อาจจะว่าขนมที่นี่หวานไป อย่างไรก็ตามมันเป็นความหวานสดชื่นที่อร่อยล้ำไปถึงทรวงใน เลเวลเดียวกับทองหยิบ ทองหยอด ถูกใจคอหวานเป็นที่สุด

หากคุณผ่านมาที่บอสตันแล้วมีเวลา ก็อยากจะชวนให้มารับความหวานไร้เทียมทานนี้สักทีหนึ่งครับ และถึงแม้ลองแล้วไม่ถูกใจ ประสบการณ์การมาต่อแถวซื้อหรือเดินเล่นชมบรรยากาศสวย ๆ แถว North End ก็จะประทับใจในบรรยากาศแน่นอนครับ