บางอย่างในความรักของเรา (31) | ท่าอากาศยานต่างความคิด

บางอย่างในความรักของเรา (31)

 

มิตรภาพระหว่างผมกับเคนดำเนินไปอย่างสืบเนื่อง มันเคลื่อนไปช้าๆ แต่มั่นคงดังการเติบโตของต้นไม้ใหญ่ ที่แสวงหาที่ทางให้รากแก้วอย่างสม่ำเสมอ

ผมพบเคนอาทิตย์ละครั้งที่ Golden Mile เราจะใช้เวลาช่วงเช้าแลกเปลี่ยนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตลอดสัปดาห์

เคนจะเริ่มด้วยการเล่าสิ่งที่เขาได้ยินและได้ฟังมาจากเพื่อนคนงาน ไซต์ก่อสร้างของเคนนั้นมีแรงงานไทยเป็นจำนวนมาก ข่าวคราวของเขาจึงเป็นเรื่องซุบซิบและเรื่องปากต่อปากที่เพลิดเพลิน

อาทิ ข่าวลือว่าด้วยผู้นำของสิงคโปร์คือ ลี กวน ยู มีแผนจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้กับแรงงานกรรมกร

หรือข่าวลือที่ว่าจะมีวัดไทยแห่งใหม่มาเปิดที่สิงคโปร์และจะมีอาหารให้กินฟรีอาทิตย์ละครั้ง

ไปจนถึงข่าวเรื่องของดาราหนังฮ่องกง นอกจากรายการละครไทยที่เดินทางมาถึงที่นี่ในรูปแบบของม้วนวิดีโอที่การเช่าหาจะต้องแย่งกันราวกับสินค้าหายาก รายการโทรทัศน์ที่มีดาราฮ่องกงเป็นผู้แสดงนำก็เป็นรายการบันเทิงที่แรงงานไทยติดตามมากเช่นกัน นักแสดงอย่างโจว เหวิน ฟะ หมีเซียะ หรือเดวิด เจียง เป็นนักแสดงที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันดี

เคนมักได้เรื่องราวแบบนี้มาเล่าให้ผมฟังเสมอ เขาเล่ามันราวกับผู้อยู่ในเหตุการณ์ หมีเซียะพบรักใหม่กับนักธุรกิจชาวยุโรป ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของโจว เหวิน ฟะ จะเป็นภาพยนตร์รักไม่ใช่ภาพยนตร์บู๊

สิ่งเหล่านี้เมื่อกาลเวลาผ่านไปมันอาจไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญนัก แต่ในช่วงเวลานั้นผมนั่งฟังเคนเล่าอย่างเพลิดเพลิน สั่งกาแฟใส่นมแก้วแล้วแก้วเล่า จุดบุหรี่ตัวแล้วตัวเล่า อย่างไม่สนใจเวลา

 

ในขณะที่เคนมีเรื่องเล่าอันล่องลอยมากับลม เขากลับสนใจฟังผมเล่าในข่าวสารที่จับต้องได้ เคนเป็นคนไม่ชอบการอ่านหนังสือ ดังนั้น เขาจะรอผมวางหนังสือพิมพ์และนิตยสารข่าวรายสัปดาห์ลงก่อนจะถามว่าเมืองไทยมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

ผมจะเล่าถึงข่าวอาชญากรรม คดีลักพา คดีฉ้อโกง ก่อนจะตามมาด้วยเรื่องราวของดาราที่เขาโปรดปราน

ก่อนจะวกกลับมาที่เรื่องทางการเมืองในช่วงเวลาขณะนั้นเป็นรัฐบาลของนายกฯ ชวลิต ยงใจยุทธ มีบางสิ่งที่น่าสนใจการเติบโตทางเศรษฐกิจ คอนโดฯ จำนวนมหาศาลที่ผุดขึ้น ตลาดการส่งออกที่ขยายตัว แม้จะมีคำเตือนเรื่องภาวะเงินเฟ้อจากนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำหลายคน แต่ดูเหมือนคำเตือนเหล่านั้นจะแผ่วเบา การเปิดการเงินเสรีทำให้เงินตราต่างประเทศจำนวนมากไหลเข้าประเทศไทย บริษัทการเงินชั้นนำพากันตั้งสาขาในประเทศไทย วาณิชธนกรกลายเป็นอาชีพในฝัน

ผมอดคิดถึงเพื่อนร่วมคณะและเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยไม่ได้ เป็นเวลาเกือบปีแล้วที่ผมอยู่ที่นี่ และถ้าผมยังอยู่ในมหาวิทยาลัย ในสภาพของนักศึกษา อีกเพียงหนึ่งภาคการศึกษาผมก็พร้อมจะกระโจนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในตลาดแรงงานเพื่อหาความฝันตนเองแล้ว

การทบทวนวันเวลาเช่นนั้นทำให้ผมขบคิดถึงปิ่นอีกครั้ง หลังข่าวการแต่งงานของปิ่นที่ผมอ่านพบเมื่อหลายเดือนก่อน ทำให้ผมฉงนฉงายใจเพราะเหตุใดปิ่นจึงแต่งงานก่อนเวลา เพราะเหตุใดปิ่นจึงไม่รอให้สำเร็จการศึกษาก่อน มีเหตุผลอันใดหรือที่ทำให้เธอและครอบครัวของเธอต้องรีบร้อนจัดงานเช่นนั้น เธอท้องหรือว่าเธอมีปัญหาด้านอื่น และปิ่นได้ศึกษาต่อหรือไม่

ผมขบคิดเรื่องที่ว่านี้โดยไม่รู้ตัวจนเคนนั่นเองเป็นผู้ทักผมขึ้นให้ตื่นจากภวังค์

 

“เป็นอะไรไป กังวลใจกับเรื่องการเงินของประเทศหรือคุณ?” เคนพูดแกล้มเสียงหัวเราะ

“ไม่ ผมเพียงแต่คิดเรื่อยเปื่อยเรื่องในอดีตน่ะ” ผมตอบ

“ปล่อยมันไปบ้างก็ดี ข้ามประเทศมาแล้ว อะไรที่ไม่สบายใจ อะไรที่ขุ่นใจจากบ้านเก่าก็ทิ้งมันไว้ที่นั่น อย่าแบกมันมาด้วยเลย”

แม้เคนจะเป็นเพื่อนที่ผมรู้จักไม่นาน แต่คำปลอบใจที่ซื่อตรงเช่นนี้ทำให้ผมยิ้มออกมาได้ เขาต่างจากเพื่อนของผมในอดีตที่มักมองปัญหาบางอย่างซับซ้อนเกินไป ความทุกข์ก็คือความทุกข์ อันไหนที่แก้ไขได้ก็แก้ไข อันไหนที่แก้ไขไม่ได้ก็ปล่อยวาง มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ

“ทำไมคุณถึงคิดว่าผมกังวลใจเรื่องเศรษฐกิจของประเทศล่ะ” ผมอดเอ่ยถามเคนไม่ได้

“ไม่รู้สิ เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้ว่าพูดหรือเล่าถูกไหม แต่พวกหัวหน้างานคนสิงคโปร์บอกว่าจะมีวิกฤตเศรษฐกิจเร็วๆ นี้ทั่วโลก เขาบอกว่าราคาวัสดุก่อสร้างอย่างเหล็กหรือทองแดงมันผันผวนนัก มีคนซื้อไปเก็งกำไรเอาไปเก็บแทนเงินจริง ผมฟังแล้วก็งงมันซื้อของแบบนี้จะเอาไปเก็บที่ไหน ต้องมีโกดังใหญ่มากๆ เลยนะ แค่เหล็กในโครงการผมนี่ก็หาที่เก็บกันวุ่นแล้ว”

“ไม่แน่ใจเหมือนกัน เขามีเครื่องย่อวัสดุกระมัง ย่อเหล็กให้เท่าไม้จิ้มฟันแล้วเอาไปเก็บในกลัก” ผมพูดติดตลก

เคนหัวเราะ “คุณนี่มีอารมณ์ขันดี กินอะไรดีมื้อนี้ ตำแตงกวาไหม ให้พี่น้อยแกตำเอาเผ็ดๆ หน่อยและใส่น้ำปลาร้าสุก เข้ากันมาก เนื้อแตงกวาอุ้มน้ำปลาร้า กัดเข้าไปทีชื่นใจ อีกอย่างก็เอาก้อยเนื้อไหม เดี๋ยวผมลงมือทำเอง ยังไม่เที่ยงครัวไม่วุ่นหรอก ขอพี่น้อยแกทำ ขืนคนวุ่นแกด่าตาย ข้าวเหนียวร้อนๆ แค่นี้ก็สวรรค์แล้ว”

 

นอกจากจะเป็นแรงงานที่มากความสามารถ เคนยังเป็นพ่อครัวสมัครเล่นที่มากฝีมืออีกด้วย เขามีความรู้ในเรื่องวัตถุดิบ อาหารและวิธีการปรุงอย่างยิ่ง ในขณะที่อาหารที่ผมปรุงเองได้มีเพียงบะหมี่สำเร็จรูปและไข่ต้ม เคนกลับทำเป็นทั้งแกง ผัด ทอด ต้ม นึ่ง เขานึ่งปลากับตะไคร้ให้ผมกินครั้งหนึ่งกลางสวนสาธารณะ โดยใช้เตาขนาดเล็กที่เขานำติดตัวมาพร้อมกับเศษไม้บริเวณนั้น กลิ่นของฟืนและตะไคร้ผสานเข้าไปในเนื้อปลาที่ถูกทาเกลือไว้อย่างดี น้ำจิ้มแจ่วซึ่งมีเพียงพริกแห้งป่น น้ำปลาร้า น้ำปลา น้ำมะนาวของเขาก็เหมาะควรกับเนื้อปลานั้นมาก

ผมเคยถามเขาว่าเขาเรียนรู้การทำอาหารแบบนี้มาแต่ไหน เขาบอกว่าเขาเรียนรู้มันจากชีวิตจริง

“เด็กบ้านนอกน่ะคุณ โตขึ้นมาก็ต้องทำกับข้าวเลี้ยงน้องแทนพ่อแม่กันแล้ว กบ เขียด แมง อะไรก็ต้องทำเป็น ต้องหาวิธีกินให้ได้ เด็กกรุงอย่างคุณคงไม่ชิน ไว้มีโอกาสกลับบ้านผมที่ร้อยเอ็ดด้วยกัน ผมจะพาคุณไปดักปลาไหล ที่นั่นเขาเรียกปลาเอี่ยน ต้มกับตะไคร้ ใบมะกรูด สดๆ นะคุณอย่าบอกใคร เอาโซดาหรือหญ้าคาล้างเมือกมันเสียหน่อย ซดน้ำแกงกันลืมตาย”

ผมรับปากถึงการไปเยือนบ้านของเขา แต่เราทั้งคู่ก็รู้ดีว่าโอกาสนั้นไม่น่าจะมาถึงในเร็ววัน

ชีวิตของแรงงานกรรมกรในต่างแดนนั้นแม้จะปลอดจากความกังวลเรื่องปากท้อง รายได้ของพวกเราสูงกว่ารายได้ในประเทศก็จริง ทำให้หลายคนได้กิน ได้ดื่ม ได้ใช้ชีวิตในแบบที่เรียกว่ามีความสบาย หากไม่นับว่าต้องส่งเงินตรากลับบ้าน จะให้พ่อแม่หรือลูกเมียก็ตาม ชีวิตในประเทศที่เป็นเพียงดินแดนเล็กๆ แห่งนี้ก็ให้หลายสิ่งที่เราไม่เคยได้สัมผัส

อย่างไรก็ตาม ความกังวลหนึ่งที่คอยหลอกหลอนและตามเล่นงานพวกเราคือ “อาการคิดถึงบ้าน” แม้จะรู้ว่าเราอยู่ห่างประเทศเกิดไม่ไกลนัก แต่การกลับไปไม่ได้จะด้วยเหตุผลใดก็ตามทำให้อาการคิดถึงบ้านที่ว่านี้มีอาการรุนแรงเสมอเมื่อใครไปเปิดฝากล่องที่ปิดทับความรู้สึกนี้ไว้

ในเรื่องนี้ ผมกับเคนก็ไม่ต่างกัน ทุกครั้งที่ผมวางสายโทรศัพท์ทางไกลที่คุยกับพ่อและแม่ ทุกครั้งที่เคนพับจดหมายที่ทางบ้านส่งมาเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ เราจะรู้สึกได้ถึงความหนักอึ้งในใจ มันมีความโหยหาอากาศ อาหาร ผู้คน ไปจนถึงสิ่งที่คุ้นเคยแฝงลึกอยู่ในตัวเรา

และสิ่งเหล่านี้ไม่ว่าเราจะพยายามถ่ายเทมันออกนอกกายมากเพียงใด มันก็หาได้ลดน้อยเบาบางลงเลย

 

เคนเดินออกมาจากครัวพร้อมอาหารในเวลาไม่นานนัก นอกจากก้อยเนื้อที่บีบมะนาวใส่จนเนื้อสุกพอดีแล้ว เขายังทำต้มยำปลากระป๋องใส่ชามมาอีกด้วย ในขณะที่พี่น้อยวางจานตำแตงลงบนโต๊ะ “วันนี้กินหรูจังนะพวกเธอ บ่ายไปไหนล่ะ เขามีงานมาฆบูชาที่วัดนะ ถ้าอยากทำบุญ” เคนรับคำพี่น้อยแล้วหันมามองผม “ทำบุญแบบไม่มีแห่ มีเซิ้งนี่ผมไม่เอาด้วยคนล่ะ มันจืดชืดไปหมด ไร้รสชาติ กินข้าวกันเถอะคุณ อิ่มแล้วได้ไปกันต่อ” ผมกับเคนจัดการมื้ออาหารนั้นด้วยข้าวเหนียวที่นึ่งจนร้อน มันเป็นอีกมื้ออาหารที่ควรค่าแก่การจดจำ

ผมกับเคนจ่ายค่าอาหารให้พี่น้อยก่อนจะเดินออกมาที่หน้าอาคาร Golden Mile “ไปไหนกันดี ไปนั่งเล่นที่สวนสาธารณะ หรือไปริมทะเลดี หรือจะไปวัดแบบที่พี่น้อยแกว่า” เคนส่ายหน้าใส่ผม “ไม่ล่ะคุณ อย่างที่บอกไปวัดแบบนี้ก็ไปนั่งประเคนของ ฟังพระสวด ไม่มีอะไร คุณรู้ไหม พอรู้ว่าเป็นวันพระ ใจชั่วผมมันกลับอยากไปทำบาป เราไปเกลังกันเถอะ” เคนเอ่ย

และก่อนที่ผมจะทักท้วงอะไร เคนก็เรียกรถรับจ้างคันที่แล่นผ่านมา เราทั้งคู่ขึ้นไปนั่งบนรถคันนั้น มุ่งหน้าสู่เกลัง

สำหรับพวกเราที่พำนักในสิงคโปร์ เราล้วนรู้ดีว่าเกลังเป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับการแสวงหาความปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศ ตลอดวันและคืนจะมีหญิงสาวมากหน้าหลายตา หลากหลายเชื้อชาติ เดินเตร็ดเตร่ไปมาตามแนวเสาไฟฟ้า ตามพื้นถนน พวกเธอแต่งกายในชุดที่อวดเนื้อหนังมังสาอย่างเต็มที่ และสำหรับชายที่เปล่าเปลี่ยว การสนทนาในราคาค่าแรงที่ลงตัวจะตามมาด้วยการลับหายไปของทั้งคู่ก่อนที่เวลาไม่นานนัก หญิงสาวคนที่หายลับตาไปจะปรากฏตัวอีกครั้งเพื่อรอคนที่จะพาเธอไปสู่รายได้ในแต่ละวัน

หลังลงรถรับจ้าง ผมกับเคนยืนอยู่ที่ริมถนนเพียงชั่วครู่ ก่อนที่เคนจะขอตัวหายไปกับหญิงสาวชาวจีน ผมจุดบุหรี่ขึ้นสูบบอกเขาว่าให้ทำตัวตามสบาย ผมจะรอเขาอยู่ที่นี่ ก่อนจะนั่งลงบนม้านั่งหินในบริเวณนั้น และไม่ทันที่บุหรี่ในมือจะหมดตัว หญิงสาวคนหนึ่งในชุดรัดรูปสีแดงก็นั่งลงเคียงข้างผม

เธอเอ่ยภาษาอังกฤษขอยืมไฟแช็กจากผมเพื่อจุดบุหรี่มวนยาวในมือเธอ และเมื่อเธอคืนไฟแช็กนั้น บทสนทนาต่อมาก็คือ “เราไปหาที่เงียบๆ คุยกันไหม ฉันคิดคุณราคาไม่แพง ในฐานะลูกค้าคนแรกและในฐานะที่คุณให้ฉันยืมไฟแช็กด้วย”

ผมส่ายหน้าปฏิเสธ “ผมมารอเพื่อนน่ะ เขาอยากทำบาปในวันบุญทางศาสนาของเรา” ผมตอบเธอเป็นภาษาอังกฤษ

“วันบุญ” หญิงสาวผู้นั้นอุทานก่อนจะเอ่ยต่อมาในภาษาไทยว่า “วันบุญเดือนสี่ คุณเป็นคนไทยใช่ไหม ดีใจที่ได้เจอคนไทยด้วยกัน คนแถวนี้เรียกฉันว่าริกะ แต่ฉันชื่อมะลิ ชื่อดั้งเดิมตั้งแต่เกิดของฉัน” •

 

ท่าอากาศยานต่างความคิด | อนุสรณ์ ติปยานนท์

[email protected]